ตอนที่ 50 พวกเรามาปรึกษากันก่อนเถอะค่ะ
เช้าวันที่สองวรินทรก็เดินทางมาทำงานตามปกติ อาการป่วยของอิงดาวก็ดีขึ้นมากแล้ววันนี้เธอจึงมาทำงานตามปกติเช่นกัน
วรินทรเดินถือกระดาษร่างแบบของตัวเองเดินผ่านหน้าของนวีนและอิงดาวที่ดูเหมือนจะมีบรรยากาศหวานพิกล เธอมอง
เขาพวกเขาอย่างแปลกใจ ผ่านไปแค่ไม่กี่วันทำไมสายตาที่พวกเขาจ้องมองกันมันเปลี่ยนเป็นหวานซึ้งได้ขนาดนี้กันนะ หรือว่าที่เขาบอกว่าการดูแลยามเจ็บป่วยได้ไข้ทำให้ความรักมันงอกเงยได้จริง?
แต่สักพักวรินทรก็สะบัดความคิดพวกนี้ออกจากหัวอย่างรวดเร็ว ถ้ามันทำให้ความรักงอกเงยจริงๆล่ะก็ท่อนไม้อย่างทาวัต
ก็คงงอกเงยออกมาตั้งนานแล้วล่ะ
ไม่สิ ความรักของเขาคงไม่งอกเงยเวลาอยู่กับเธอหรอก เขาคงจะงอกเงยกับวาดฝันมากกว่า
วรินทรเมินเฉยท่าทางอี๋อ๋อของนวีนกับอิงดาวก่อนจะเดินออกมาจากแผนก นึกไม่ถึงว่าเธอจะพบหน้าของอมันด้าที่ไม่เห็น
หน้ามาตั้งหลายวันเสียได้ อมันด้าก็ไม่คิดว่าเธอจะบังเอิญมาพบเจอวรินทรเข้าเธอทำหน้าประหลาดใจ ก่อนกลับมาเป็นปกติได้
อย่างรวดเร็ว
อมันด้ากำมือของตัวเองไว้แน่นราวกับต้องการเก็บกักอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ร่างกายของเธอยังคงใส่น้ำหอมจนฉุนและ
ยังคงแต่งหน้าอย่างปรานีตเช่นเคย แต่วันนี้ไม่ว่าเธอจะแต่งหน้าสุดความสามารถแค่ไหนก็ยังสามารถเห็นรอยคล้ำใต้ตาของเธอ
“โชคร้ายเป็นบ้า” น่าแปลกที่อมันด้าไม่ได้ใส่อารมณ์ใส่เธอเช่นเคย หญิงสาวเพียงแค่สบถออกมาเบาๆก่อนจะเดินเลี่ยง
ออกไป
วรินทรกระพริบตาปริบๆ หญิงสาวลูบจมูกตัวเองเบาๆ ดูท่าวันนี้อีกฝ่ายจะไม่กล้าหาเรื่องเธอสินะ
เมื่อมาถึงหน้าห้องทำงานท่านประธานวรินทรก็เคาะประตูก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นมิ้นต์
จางๆ เมื่อครู่เธอเพิ่งจะดมกลิ่นน้ำหอมฉุนๆจากตัวของอมันด้าเข้าไปจึงอดไม่ได้ที่จะดมกลิ่นฟุดฟิดอย่างหวาดระแวง แต่กลิ่นแบบนี้มันเป็นกลิ่นประจำตัวของทาวัตทำให้เธอเบาใจลง
ทาวัตหันมามองหญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปที่บานหน้าต่างเหมือนเดิม ดูเหมือนว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์กับใคร
บางคนอยู่ เขาใช้ภาษาอังกฤษสนทนาอยู่กับคู่สาย สำเนียงของเขาดีมากราวกับเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษของเขาดีมากจริงๆ วรินทรสามารถฟังที่เขาพูดได้ทุกคำต่างจากเด็กหญิงตัวน้อยที่เมื่อก่อนแค่ได้ยินภาษาอังกฤษก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา
และไม่มีอีกแล้วคนที่คอยด่าเธอว่าโง่แต่ก็ยังคอยแปลภาษาให้เธอฟังทีละคำๆอย่างอดทน
วรินทรคิดฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งได้สติคืนมา หญิงสาวตั้งใจว่าจะวางผลงานออกแบบของตัวเองไว้บนโต๊ะและจะรีบ
ออกไปแต่ทาวัตกลับรั้งไว้เสียก่อน “รอก่อน”
วรินทรหมุนตัวกลับมาก็เห็นว่าทาวัตชี้นิ้วไปที่โซฟามุมห้องเป็นนัยว่าให้ไปนั่งรอเขาก่อนจากนั้นชายหนุ่มก็หันกลับไป
สนใจคุยโทรศัพท์ต่อ วรินทรยู่ปากเดินไปนั่งที่โซฟาแต่โดยดี
เวลาผ่านไปเกือบห้านาทีทาวัตจึงได้วางสายลง เขาหยิบงานออกแบบของเธอขึ้นมาจากโต๊ะจากนั้นก็เดินไปที่โซฟา
จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจ ชายหนุ่มพลิกดูแบบร่างของเธอไปมา เขามองผลงานของเธออย่างชื่นชม
“แบบร่างที่ใช้ในการประกวดพร้อมหรือยังครับ” ทาวัตพลิกดูแบบร่างก่อนจะถามลอยๆ
“ยังเลยค่ะ” วรินทรตอบ แม้ว่าการประกวดดีไซเนอร์นั้นจะไม่ได้จำกัดรูปแบบและเนื้อหา ไม่มีเจาะจงอะไรมากมาย แต่
เพราะเป็นแบบนี้มันจึงกว้างเสียจนเธอไม่รู้จะวาดแบบไหนออกมาดี
ดวงตาของทาวัตหยุดอยู่ที่การออกแบบเหล่านั้นด้วยสายตาชื่นชม เขารู้ว่าตั้งนานแล้วว่าหญิงสาวมีพรสวรรค์ด้านนี้ แต่
คิดไม่ถึงว่าฝีมือของเธอจะยิ่งมายิ่งพัฒนาได้ถึงขั้นนี้เกินกว่าที่เขาคาดไปมาก
ถ้าให้พูดตามตรงงานประกวดดีไซเนอร์ครั้งนี้คงไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของหญิงสาวข้างกายเขาได้แน่นอน
ฝีมือการออกแบบของเธอนั้นยากจะลืมและสไตล์ของหญิงสาวก็เป็นสิ่งที่คนอื่นไม่ยากจะลอกเลียนแบบได้
“อีกเดี๋ยวผมมีนัดกับลูกค้า คุณก็ไปกับผมแล้วกัน!” คำพูดของเขาถือเป็นคำขาดปิดโอกาสไม่ยอมให้หญิงสาวปฏิเสธ
แม้แต่น้อย
เมื่อคุยเรื่องงานเสร็จเขาก็คุยสัพเพเหระอยู่สักพักจากนั้นทาวัตก็พาวรินทรไปห้องอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบริษัท
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...