บทที่ 100 พวกเจ้าก็เป็นเพียงแค่กลุ่มตัวเล็กตัวจ้อยเท่านั้น (ปลาย)
เมื่อเห็นเยี่ยฉวนหยุด คณะลูกศิษย์จากสำนักศึกษาฉางมู่ที่สะกดรอยตามมาก็ค่อย ๆ หยุดทีละคน
ชายหนุ่มหันกลับไปมองคนเหล่านั้น “จะสู้กันแบบตัวต่อตัว ?”
“ตัวต่อตัว ?”
ทุกคนตกตะลึง “นี่เขาแสร้งทำเป็นตรงไปตรงมาหรืออย่างไรกัน ?”
ในเวลานี้ ศิษย์ของสำนักศึกษาฉางมู่ก็ได้ยืดตัวตรงและเดินเข้าไปหาเยี่ยฉวนอย่างช้า ๆ ก่อนจะตะคอกออกมา “เยี่ยฉวน เจ้าได้สังหารศิษย์ของสำนักศึกษาฉางมู่ซึ่งเป็นสหายของพวกเรา ในวันนี้พวกข้า…”
ในเวลาเดียวกันนั้น เยี่ยฉวนพลันหายลับเข้าไปท่ามกลางหมู่ควันสีน้ำเงิน
เปรี้ยง !
ไม่นานนัก ชายคนนั้นยังไม่ทันพูดจบดี จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งบินตรงเข้ามาที่พวกเขาโดยอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 3 จั้ง !
“เยี่ยฉวน ต้องเป็นเขาที่เข้าโจมตีแล้วแน่ ๆ!”
เมื่อเห็นฉากนี้ คณะลูกศิษย์จากสำนักศึกษาฉางมู่พลันแตกฮือทันที
“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเรอะ ?”
ศิษย์เหล่านั้นต่างแลกเปลี่ยนสายตามองกันไปมา พวกเขากำลังตั้งใจที่จะโจมตีเยี่ยฉวนพร้อม ๆ กัน เมื่อมาถึงจุดนี้ เยี่ยฉวนก็กล่าวขึ้น “พวกเจ้ามีกันตั้งหลายคน ไยจึงไม่โจมตีเข้ามาพร้อมกันเลยเล่า ? อย่างไรเสีย คนของสำนักฉางมู่ก็ไร้ยางอายอยู่แล้วนี่ จะมัวรอช้าอยู่ไย พวกเจ้าเข้ามาเลย !”
เมื่อได้ยินคำสบประมาทดังนั้น คณะลูกศิษย์จากสำนักฉางมู่ก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด
จะให้หมาหมู่อย่างนั้นหรือ ?
ทีแรกพวกเขาก็อยากที่จะทำสิ่งนี้ด้วยกันอยู่หรอกนะ แต่หลังจากที่ได้ยินเยี่ยฉวนแล้ว พวกเขาก็ไม่กล้าทำเช่นนั้นอีก เพราะขณะนี้เป็นเวลากลางวันแสก ๆ หากข่าวลือที่พวกเขารุมจัดการเยี่ยฉวนแพร่ออกไป ย่อมไม่เป็นที่ภาคภูมิใจแม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะได้ก็ตาม !
เมื่อเห็นว่าคนกลุ่มนั้นไม่ได้เคลื่อนไหว เยี่ยฉวนจึงชี้ไปที่พวกเขา “พวกเจ้าก็เป็นเพียงแค่กลุ่มคนตัวเล็กตัวจ้อยเท่านั้นแหละ !”
เยี่ยฉวนกลับหลังหันและเดินจากไป
คณะลูกศิษย์จากสำนักศึกษาฉางมู่ที่ยืนอยู่เบื้องหลังนั้นสีหน้ายังดูน่าเกลียดไม่ต่างจากเดิม แต่กระนั้นก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือ
พวกเขาไม่ได้โง่ ด้วยถ้าหากวัดจากฝีมือของเยี่ยฉวนตอนนี้ คงไม่มีใครในพวกเขาเทียบเคียงได้ ถึงแม้ ว่ายืนกรานที่จะสู้ต่อไป คงไม่พ้นเป็นพวกเขาเองที่ต้องอับอายทั้งนั้น ในระยะสั้น ตอนนี้พวกเขาได้ตระหนักแล้วว่ามีเพียงศิษย์ฝ่ายในของสำนักศึกษาฉางมู่เท่านั้นที่จะต่อกรกับเยี่ยฉวนได้ !
ดังนั้นภายใต้สายตาที่จับจ้องอยู่ของคณะลูกศิษย์จากสำนักศึกษาฉางมู่ เยี่ยฉวนก็ได้หายตัวไปในตอนท้ายของเส้นทาง
…
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดเยี่ยฉวนก็ได้ขึ้นเรือเหาะ คราวนี้เขาพักอาศัยอยู่ที่ห้องชั้นบน แน่นอนว่าเป็นเพราะแผ่นป้ายสีม่วงที่เคยได้รับมา ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงสามารถเข้าพักที่ห้องชั้นบนได้ฟรีโดยไม่มีค่า ใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม แน่นอนว่าเยี่ยฉวนไม่มีทางปฏิเสธสิทธิประโยชน์ดี ๆ เหล่านี้ มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะ ทิ้งสิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้ไป !
เมื่อเรือเหาะแล่นออกฐาน เยี่ยฉวนก็เดินมายังที่ดาดฟ้าเรือ
“เป็นเจ้านั่นเอง !”
ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็พลันดังเข้ามาในหูของเยี่ยฉวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์