หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ นิยาย บท 104

สรุปบท ตอนที่ 104 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ปลาย): หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 104 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ปลาย) – หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ โดย Internet

บท ตอนที่ 104 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ปลาย) ของ หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 104 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ปลาย)

หลังได้ยิน เยี่ยฉวนพลันเร่งส่ายศีรษะแบบเอาเป็นเอาตาย

นั่นทำให้องค์หญิงเก้ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ทำไมเล่า ?”

เยี่ยฉวนตอบ “ข้าไม่มีอะไรมาแลก แล้วแบบนี้จะรับของท่านเปล่า ๆ ได้อย่างไร ?”

องค์หญิงเก้ามองเยี่ยฉวนและเอ่ยข้อเสนออย่างจริงจัง “เข้าร่วมกับกองทัพของข้าสิ เจ้าวางใจได้แน่ ๆ!”

เยี่ยฉวนยิ้มเอื่อยเฉื่อย “ข้าได้สัญญากับท่านอาจารย์ใหญ่จี้เอาไว้แล้ว ตอนนี้ข้าเป็นศิษย์ของสำนัก ศึกษาฉางหลานอย่างเป็นทางการ คำพูดของลูกผู้ชายก็ควรจะเชื่อถือได้ ท่านว่าจริงหรือไม่ ?!”

องค์หญิงเก้าพยักหน้าและไม่พูดอะไร ในทางกลับกัน หากเยี่ยฉวนตอบตกลงในทันที นางคงจะไม่อยากให้เขามาเสียมากกว่า แน่นอนว่าคุณสมบัติของคนผู้หนึ่งที่ควรจะมีก็คือความแข็งแกร่ง แต่กระนั้น คนผู้นั้นก็ต้องมีลักษณะอุปนิสัยที่ดีด้วยจึงจะน่าคบหา !

เยี่ยฉวนหันไปรอบ ๆ และมองออกไปข้างนอกถ้ำ “เมื่อไหร่พวกเราจะเข้าสู่ตำหนักจ้าวกระบี่ ?”

องค์หญิงเก้าตอบ “พรุ่งนี้ ! พอถึงวันพรุ่งนี้ก็ครบกำหนดพอดี อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด และเราจะรู้ก็ต่อ เมื่อมันได้เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น”

เยี่ยฉวนมององค์หญิงเก้าด้วยความนับถือ “ท่านนี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”

องค์หญิงเก้าพูดเสียงต่ำ “นั่นอาจเป็นเพราะเจ้ายังไม่เคยเห็นความมหัศจรรย์และอัจฉริยะยอดฝีมือ ผ่านตามามากพอ แคว้นเจียงของเรานั้นถือว่ามีขนาดเล็กมากหากเทียบกับแผ่นดินทั้งทวีปชิงที่แสนกว้างใหญ่ หลังจากวันพรุ่งนี้ไป เจ้าจะได้เจอคนที่ยอดเยี่ยมอีกมากมายในโลกใบนี้ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องปกติ อย่างไรเสีย คนที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือคนที่มีทั้งพรสวรรค์แล้วก็พรแสวงในเวลาเดียวกัน นั่นหมายถึงอัจฉริยะที่มีความมุมานะ อย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหรือความล้มเหลว !”

เยี่ยฉวนนั่งต่อหน้าองค์หญิงเก้า “ท่านและคุณหนูอันคือสุดยอดแล้ว !”

องค์หญิงเก้าฉีกกิ่งไม้และโยนไปที่เยี่ยฉวน “ถึงแม้ว่าสหายอันของข้าจะเกิดในแคว้นเจียง แต่ต้นกำเนิดของนางนั้นไม่ธรรมดา การวางตัวเป็นสหายกับนางไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งยังต้องแบกรับความเครียดสูง แต่ถ้าหาก เจ้าคิดเป็นอื่น เจ้าก็จะต้องเผชิญกับความกดดันยิ่งกว่า สิ่งที่ต้องแบกไว้บนบ่านั้นมากเหลือเกิน”

เยี่ยฉวนพยักหน้ารับ “ข้าจะพยายามแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ !”

มุมปากขององค์หญิงเก้ายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “นิสัยแบบนี้ของเจ้านี่แหละที่ข้าชอบ”

หลังจากนั้นนางก็นอนตะแคงหันหลังให้ “เจ้ากินเสร็จแล้วก็รีบเข้านอนเถอะ เราจะไปฆ่าคนบนภูเขาในวันพรุ่งนี้กัน !”

เยี่ยฉวนสิ้นคำพูด “…”

หนึ่งราตรีผ่านไป

รุ่งขึ้นวันถัดมา เมื่อฟ้าสางมาเยือนเยี่ยฉวนและองค์หญิงเก้าก็ออกจากถ้ำ พวกเขาพากันตรงไปที่ส่วนลึกของภูเขา

ก่อนจะไปถึงที่นั่น ณ บริเวณตรงเชิงเขา พวกเขาก็ได้พบกับหลุมขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นทั่วบริเวณ ซึ่ง หากต้องการจะผ่านประตูทางเข้านั้น ก็มีแต่ต้องขี่กระบี่แห่งแสงบินเข้าไป !

“นี่ใช่ประตูทางเข้าหรือไม่ ?” เยี่ยฉวนถามขึ้น

องค์หญิงเก้าพยักหน้ารับ “มีคนใหญ่คนโตบางคนบังคับให้เปิดทางเข้านี่ ว่ากันว่าเพื่อพังประตูเข้าไป มันต้องแลกมากับที่บุคคลผู้แข็งแกร่งสองคนในขั้นสันโดษถูกฆ่า ดังนั้นหลังจากที่เข้าไปได้เราจึงต้องระวังให้ มาก อันตรายไม่ได้เกิดจากเพียงแค่น้ำมือมนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งมีชีวิตที่เราไม่รู้จักข้างในนั้นด้วย”

เยี่ยฉวนพยักหน้า “ข้าทราบแล้ว !”

พวกเขากระโดดขึ้นมา ทันใดนั้นชายในชุดดำพลันพุ่งเข้ามาหาทั้งสองด้วยความรวดเร็วที่น่าเหลือเชื่อ !

หัวใจของเยี่ยฉวนแทบหยุดเต้น “ความเร็วของคนผู้นี้เหมือนกับโม่อวิ๋นฉีมาก”

“ต้องแน่อยู่แล้วสิ ทุกคนที่นี่มีใครธรรมดาเสียที่ไหนกัน !”

องค์หญิงเก้ามองร่างคนที่ยืนอยู่ไกล ๆ “อี๋ แหวะ !”

ร่างนั้นสั่นและออกวิ่งไปทันทีโดยปราศจากคำพูดใด ๆ

องค์หญิงเก้าเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ อย่างเย็นชา “คงหมดแล้วสินะพวกปลาซิวปลาสร้อย คน อย่างเจ้าพวกนั้น …ใช้แค่เศษเสี้ยวปราณดาบของข้าก็พอแล้ว !”

เยี่ยฉวนสิ้นคำพูด “…”

องค์หญิงเก้าหันไปมองเยี่ยฉวน “เอ้า ไปสิ !”

พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวจนไม่นานนักก็มาถึงปากประตูทางเข้า ที่แห่งนั้นมีชายผมยาวผู้หนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น ใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกปกคลุมไปด้วยผมซึ่งยาวมากกว่าเส้นผมของอิสตรีเสียอีก

ในมือของคนผู้นั้นถือมีดที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือด ส่วนที่เท้านั้นก็มีศีรษะเปื้อนเลือดตั้งเป็นกอง

ในเวลานี้ชายผมยาวเงยหน้ามองไปที่องค์หญิงเก้าและเยี่ยฉวนที่มาด้วยกัน เขาส่งยิ้มให้จนเห็นซี่ฟันสี เหลืองดูแล้วเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัว การปรากฏตัวของเขาช่างน่าสะพรึงอย่างหาที่เปรียบมิได้ ด้วยดูเหมือนว่าคนผู้นี้กำลังถูกเผาทั้งเป็นอย่างไรอย่างนั้น !

ชายผมยาวค่อย ๆ สะกิดพื้นเบา ๆ พร้อมถือกระบี่ยาวในมือพูดขู่ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “หินวิญญาณ ระดับสูงสุด 100 ก้อน สำหรับค่าธรรมเนียมแรกเข้า !”

องค์หญิงเก้าชำเลืองมองชายผมยาว “ความอัปลักษณ์ไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่ต้องโทษเจ้าแล้วล่ะที่ทำให้ข้ารู้สึกสะอิดสะเอียนเช่นนี้ !!”

จากนั้นนางจึงหันมองไปทางเยี่ยฉวน “ฆ่าเขาเสีย !”

เยี่ยฉวนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี “…”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์