บทที่ 133 ข้าจะไปตามหาอาจารย์ ! (ต้น)
ทุกคนในกระโจมเงียบกริบ !
คนที่ยืนประจันหน้ากับเยี่ยฉวนอย่างซูชิง นางนั้นจ้องตาเขม็งด้วยใบหน้าซีดเผือด มีเพียงสายตาซึ่ง ส่อแววเกรี้ยวกราดเจือความไม่เข้าใจ
ด้วยนางไม่คิดว่าเยี่ยฉวนกล้ากระทำการจู่โจมและมุ่งร้ายต่อตน !
ยังไงเสียนางก็เป็นคนของสำนักอัปสรเมรัย อีกฝ่ายไม่น่าจะกล้าทำเช่นนี้ !
อีกด้านหนึ่ง เจียงจิ้วมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แววตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจแสดงให้เห็นว่าหญิงสาวเองก็ไม่คาดฝันต่อการกระทำของเยี่ยฉวนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน !
“นางมีอิทธิพลเบื้องหลังเป็นสำนักอัปสรเมรัย !”
“พวกเราแกว่งเท้าหาเสี้ยนเสียแล้ว !”
ทั้งหมดคือความรู้สึกซึ่งแว่บขึ้นเป็นสิ่งแรกในความคิดของเจียงจิ้ว !
ซูชิงเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม “เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรลงไป ?”
ได้ยินเช่นนั้นเยี่ยฉวนกลับยิ่งกดคมดาบที่พาดบนลำคอของนางลึกลงอีก จนหยาดโลหิตซึมไหลเป็น ทางตามรอยเฉือนคมดาบทองคำในมือของชายหนุ่ม
ก่อนที่เยี่ยฉวนจะเอ่ยกับนางด้วยใบหน้าเฉยเมยไร้อารมณ์ “เจ้าเป็นคนถามข้าเองมิใช่หรือ ว่าข้ายอม รับหรือไม่ ? ข้าก็ตอบแล้วไง ว่า…ไม่มีทาง ! ข้าไม่ยอม !”
ซูชิงหันมาทางเจียงจิ้ว “ฝ่าบาท เขาผู้นี้คือคนของท่านหรือ ? ท่านในฐานะบุคคลในราชสำนัก ประกาศ ตัวเป็นศัตรูกับสำนักอัปสรเมรัยเช่นนั้นหรือเพคะ ?
เจียงจิ้วเดินตรงมา นางมองหน้าเยี่ยฉวนนิ่งก่อนเอ่ยถามกับเขาว่า “เจ้ารู้ตัวไหมว่าได้ทำอะไรลงไป ?”
เยี่ยฉวนพยักหน้า
หญิงสาวใบหน้าเคร่งขรึมกล่าวว่า “ผลที่จะตามมานั้นร้ายแรงยิ่ง !”
เยี่ยฉวนพูดเสียงเบา “กระหม่อมไม่ชอบที่นางสบประมาทและยังกระทำข่มเหงต่อพระองค์เช่นนี้”
สายตาของเจียงจิ้วยังจ้องเขม็งสบตา พลางกล่าวว่า “แต่เจ้าควรรู้ว่าข้าจะต้องชดใช้สูงลิ่วต่อสิ่งที่เกิด ขึ้นในวันนี้ ใช่หรือไม่ ? หรือไม่บางทีข้าอาจไม่สามารถชดใช้ได้ด้วยซ้ำไป !”
เยี่ยฉวนตอบเสียงขรึม “ถ้าอย่างนั้น ให้กระหม่อมจัดการเถิดพะย่ะค่ะ !”
ทันใดนั้นราวกับสิ้นแล้วซึ่งความอดกลั้น เจียงจิ้วพลันตะคอกเสียงลั่น “ให้เจ้าจัดการอย่างนั้นหรือ ? เจ้าจะจัดการอย่างไร ? สำนักอัปสรเมรัยนั้นสามารถฆ่าเจ้าได้อย่างง่ายดายเสียยิ่งกว่าบี้มดเสียอีก !”
เสียงคำรามดังมาจากซูชิง หากยังมิทันได้อ้าปาก เจียงจิ้วกลับยกสันมือสับอย่างแรงเข้าตรงคอหอย ของนาง
กร๊อบ !
โลหิตพุ่งพรวดออกจากปากของซูชิง ทันใดนั้นร่างนั่นพลันทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง !
ทว่าก่อนที่ร่างจะลงสู่พื้น ดวงตายังส่อแววไม่เชื่อสายตาของตนเองปรากฏค้างเป็นครั้งสุดท้าย
ชายหนุ่มมองเหตุการณ์เบื้องหน้านิ่งไปด้วยความตกตะลึง ด้วยไม่คาดฝันว่าเป็นเจียงจิ้วจะสังหารซูชิงอย่างฉับพลันทันด่วนเช่นนี้
หลังจากนั้นนางหันมาทางชายหนุ่ม “จงจำไว้ว่าข้าเป็นคนสังหารนาง ส่วนเจ้าไม่เกี่ยวข้องใด ๆ หลัง จากนี้เจ้ารีบออกไปเสียจากเมืองชายแดนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลับไปที่สถานศึกษาฉางหลานและอยู่ ที่นั่น ทำให้เสมือนว่าเจ้าไม่เคยมาที่เมืองชายแดนมาก่อน”
สั่งการเสร็จ คนพูดพลันหันหลังออกไปจากกระโจมทันที
เยี่ยฉวนตะโกนถาม “พระองค์จะทำอย่างไรพะย่ะค่ะ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์