บทที่ 135 คนทึ่มอะไรเช่นนี้ ! (ต้น)
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเวลานี้ภายในใจของเยี่ยฉวนร้อนรนเพียงใด!
“ตามหาอาจารย์ ?”
“ตามหาอะไรกัน !”
เขาก้าวเดินไปตามเส้นทางด้วยฝีเท้ามั่นคง เดินเร็วขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเหงื่อเม็ดเป้งก็ได้ผุด ออกเต็มหน้าผาก
ทันใดนั้น เสียงแหบของชายชราผมขาวก็ได้ดังขึ้นไม่ไกลออกไป “สหายหนุ่ม คอยสักครู่ !”
สำหรับเยี่ยฉวนแล้ว เสียงนั้นราวกับบทเพลงแสนไพเราะทีเดียว !
ถ้าชายชราไม่เรียกให้หยุด เขาก็คงทำได้แค่เพียงเดินหน้าต่อไปเท่านั้น…
ชายหนุ่มชะงักฝีเท้า หันไปเผชิญหน้ากับชายแก่ผู้มีผมสีขาวทั้งศีรษะ ผู้ซึ่งใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร“สหายหนุ่ม เหตุใดจึงต้องนำเรื่องไร้สาระไปรบกวนอาจารย์ของเจ้าด้วยเล่า ?”
ขณะเดียวกัน ชายชราก็ได้หันหน้าไปทางชายชราชุดดำซึ่งยืนข้าง ๆ “นำเงินห้าสิบล้านเหรียญทองคำมา”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของชายชราผมขาว ทุกคนในที่นั้นก็พากันทำหน้าตื่นตกใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายชราชุดดำ เขาหันมองคนผมขาว สีหน้าเต็มไปด้วยความฉงนฉงายยิ่ง จึงถาม ออกไปว่า “ท่านจ้าวหอชั้นที่สาม ห้าสิบล้าน…”
แต่อีกฝ่ายหาสนใจไม่ เขาขมวดคิ้วน้อย ๆ เสียงเฉียบขาดดังขึ้น “รีบไปจัดการ !”
เมื่อได้ยินคำสั่ง ชายชราชุดดำไม่รีรออีกต่อไป เขาตั้งท่าจะไปจากสถานที่แห่งนั้นทันที แต่ไม่วายหันมามองเยี่ยฉวน ก่อนจะหันหลังให้และจากไปโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน อีกคนที่อยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก เจียงจิ้วพลันหันมองเยี่ยฉวนด้วยสายตาระคนสงสัย !
ระหว่างนั้นชายชราผมขาวจับตามองชายหนุ่มอย่างแน่วแน่ แววตาสำรวจตรวจตราตั้งแต่ศีรษะตลอดปลายเท้า พลันแววตาประหลาดใจปรากฏฉายชัด หลังจากนั้นจึงสั่นศีรษะพร้อมกล่าว “เจ้าสมกับเป็น…”
แต่แล้วกลับยั้งคำพูดไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าสมแล้วที่เป็นศิษย์ของอาจารย์เจ้า พื้นฐานโครงสร้างร่างกายของเจ้านับว่าดีทีเดียว แม้แต่คนในสำนักอัปสรเมรัยก็มีน้อยคนนักที่จะสามารถเทียบขั้นกับเจ้าได้ หนุ่มน้อย อนาคตของเจ้าไปได้ไกลแน่ !”
เยี่ยฉวนยิ้มน้อย ๆ “ผู้อาวุโส ชมเกินไปแล้วขอรับ”
ก่อนที่ชายชราผมสีขาวจะกล่าวต่อไปอีกว่า “เจ้าปราศจากความหยิ่งทะนงและหุนหันวู่วาม ทั้งยังเป็น คนมีนิสัยรักความยุติธรรม !”
เยี่ยฉวน “…”
ในขณะนั้นเอง ชายชราในชุดดำได้กลับมายังลานกว้าง เมื่อมาถึงเขาก็จัดแจงส่งแผ่นป้ายสีทองให้กับ เยี่ยฉวนหนึ่งแผ่นป้าย “แผ่นป้ายนี้มีมูลค่าเท่ากับห้าสิบล้านเหรียญทองคำ เจ้าสามารถขึ้นเงินได้ทุกที่ในแผ่น ดินชิง หรือจะเป็นที่สำนักอัปสรเมรัยก็ขึ้นเงินได้เช่นกัน”
ชายหนุ่มรับแผ่นป้ายสีทอง จากนั้นหันไปค้อมตัวห่อกำปั้นด้วยฝ่ามือแสดงคารวะขอบคุณต่อชายชรา ผมขาว “ขอบคุณมากขอรับ”
ชายชราผมขาวมีท่าทางอึกอักลังเล ทว่าในที่สุดก็พูดกับชายหนุ่มว่า “สหายหนุ่ม ที่ผ่านมาท่านและ สำนักอัปสรเมรัยมีเหตุให้ขุ่นเคืองหลายครั้ง ทว่าครั้งนี้เป็นเพียงความเข้าใจผิดเล็กน้อย เจ้าเห็นว่าอย่างไร ?”
ผู้ฟังตอบรับเสียงเป็นงานเป็นการ “แน่นอนขอรับ”
ในที่สุดชายชราผมขาวคลี่ยิ้ม “เห็นทีข้าต้องขอตัว อ้อ จริงสิ ฝากทักทายอาจารย์ของเจ้าด้วย หากมี โอกาสขอเชิญทั้งเจ้าและอาจารย์ไปเยือนสำนักอัปสรเมรัยบ้าง !”
เยี่ยฉวนกระแทกกำปั้นกับฝ่ามือ “ต้องรบกวนท่านแล้ว !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์