หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ นิยาย บท 158

บทที่ 158 พบเจอศิษย์ฉางมู่ที่ไหนจะเก็บให้เรียบ ! (ปลาย)

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เยี่ยฉวนก็กำลังตรงดิ่งไปสำนักอัปสรเมรัย ! หอแห่งการค้าขายใหญ่ที่สุดของ เมืองหลวง ไม่ว่าต้องการซื้อหรือขายสิ่งใด มาที่นี่เถิดแล้วจะไม่ผิดหวัง !

ณ ถนนสายหนึ่ง เยี่ยฉวนนิ่งหยุดชะงักกับที่ด้วยเบื้องหน้ามีร่างของบุรุษยืนขวางอยู่กลางถนนห่างออกไป เขาสวมเสื้อทอด้วยผ้าไหมปักดิ้นเงินทองหรูหรา ในมือถือพักขนนกคลี่สะบัดโบกเบา ๆ วางท่าสง่างดงาม

เยี่ยฉวนเขม้นมองคนท่าทางภูมิฐาน พลันถามออกไป “เจ้าคือศิษย์ฉางมู่ใช่ไหม ?”

บุรุษสง่างามยกมุมปากยิ้ม “ไม่ผิด ส่วนเจ้าก็คือ เยี่ยฉวน…”

ทันใดนั้น ร่างของเยี่ยฉวนหายวับไปจากที่ในพริบตา และยังมิทันที่ร่างคนจะปรากฏ พลังหมัดหนัก หน่วงน่าสะพรึงของหมัดก็ได้โถมกระหน่ำคนสง่างามผู้นั้น !

เขาหรี่ตาลง แต่ไม่อาจปกปิดประกายหวาดหวั่นในแววตา แต่ไม่กล้าผลีผลามตอบโต้ เพียงพลิกข้อมือสะบัดพัดขนนก ทันใดนั้นเกิดกระแสลมวูบไหวพุ่งออกคมกริบราวใบมีด !

ตู้ม !

เสียงระเบิดดังสนั่น พลันปรากฏร่างสองร่างถูกพลังผลักจนถอยกรูดรวดเร็ว สองคนคือทั้งเยี่ยฉวน และชายฝ่ายตรงข้าม ไม่นานเยี่ยฉวนหยุดเคลื่อนถอย วินาทีต่อมาร่างจึงไปปรากฏเบื้องหน้าอีกฝ่าย

ชายในชุดคลุมหรี่ตาเหลือบมองแวบหนึ่ง ก่อนสะบัดพับพัดในมือและตวัดพัดพุ่งออกอย่างรุนแรง บังเกิดแสงสว่างราวกับฟ้าแล่บแปลบปลาบ !

ฟิ้วว !

เสียงฉีกแหวกอากาศดังสนั่นสะท้อนไปทั้งลานโล่ง ! กระนั้นร่างของชายชุดคลุมล่าถอยออกอีกไกล หลายจั้ง !

เยี่ยฉวนชำเลืองมองสันหมัดด้วยปรากฏรอยโลหิตซิมไหลบนหลังมือ ! เขาสะบัดมือเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยกำมือข้างนั้นเข้าหากันช้า ๆ

เปรี้ยง ! พื้นดินใต้ฝ่าเท้าแตกแยกออกทีละน้อย ทันใดนั้นพลังเคลื่อนไหวก้อนมหึมาก็ได้ทะยานจาก เบื้องล่างพุ่งเข้าสู่ร่างคนฝ่ายตรงข้าม !

ชายชุดคลุมชำเลืองมา “หมัดทลายภูผา พลังทำลายรุนแรงเช่นนี้เอง !”

ไม่ทันขาดคำ พัดขนนกปลิวหวือออกจากอุ้งมือในพลัน ก่อนทีต่อมามันจะทะยานเข้าหาเป้าหมายราว ใบมีดคมกริบฉับไว !

ฟิ้ววว !

เสียงวัตถุแหวกอากาศสนั่นลั่นทั่วลาน !

พัดขนนกสีขาวมิได้เพียงแหวกอากาศสกัดกั้น แต่ยังสามารถทำลายพลังเคลื่อนไหวของเยี่ยฉวนจน กระจัดกระจาย ทว่าเสี้ยววินาทีต่อมา ร่างของเยี่ยฉวนกลับปรากฏออกขวางเบื้องหน้าชายชุดคลุมแล้ว

ทันใดนั้น เยี่ยฉวนพลันออกหมัดสวนเข้าปะทะเป้าหมายตรงหน้าเต็มแรง !

รุนแรง !

ตรงเผง !

ผัวะ !

ยามนี้ร่างคนกระเด็นออกไปไกลหลายจั้ง เยี่ยฉวนจึงใช้โอกาศนี้เอื้อมมือคว้าจับพัดขนนกทันท่วงที ครั้งแรกก็คิดจะหักทิ้งเสียแต่พอกลับคิดอีกที ด้วยพัดพับเป็นศาสตราวุธจิตวิญญาณชนิดหนึ่ง ! ดังนั้นจึงตัดสินใจเก็บพัดขนนกไว้ก่อนโดยไม่ลังเล !

เห็นเช่นนั้น คนที่เพิ่งผุดลุกขึ้นยืนพลันรู้สึกจนด้วยถ้อยคำ

เมื่อเก็บพัดพับเข้าที่เรียบร้อยดี เยี่ยฉวนจึงเงยหน้ามองคนที่ยืนห่างออกไป “หัวของเจ้าดูท่าจะไม่ยอมหลุดจากบ่าง่ายดายเหมือนกันนะ ! เจ้า…” ทันใดนั้นเสียงกลับชะงักหยุดกระทันหัน ด้วยเพราะเขาทะยาน พรวดเดียวไปปรากฏเบื้องหน้าคนผู้นั้นเสียแล้ว !

เขากระแทกหมัดออกอีกครา ! ถึงกระนั้น หมัดที่ออกล่าสุดกลับแตกต่างจากหมัดที่ผลักออกไปก่อนหน้าด้วยครานี้พลังหมัดดุดันรุนแรงยิ่งกว่าครั้งก่อนหลายเท่า !

เมื่อเจอพลังปะทะรุนแรง สีหน้าของอีกฝ่ายพลันแปรเปลี่ยนสิ้นเชิง ! เขาคิดออกต้านทานโดย สัญชาตญาณ ทว่าพลังนั่นกลับเหนือกว่าหมัดทลายภูผานัก ทั้งยังพุ่งปะทะแม่นยำตรงเป้าหมาย !

“หนึ่งหมัดดับชีพ !” หนึ่งหมัดเคลื่อนไหวผลักออกรวดเร็ว จนคนเป็นเป้าหมายไร้สิ้นความหวังจะ ต้านทาน !

ความเงียบครอบงำชั่วขณะ !

ผลัวะ !

ศีรษะของชายคนดังกล่าวกระดอนหลุดออกจากตัว อีกทั้งร่างของเยี่ยฉวนยังทะยานทะลุผ่านด้านหลังตัวคนไปไกลกว่าสี่จั้ง !

เขาหันไปมองพยานรู้เห็นรอบตัว พลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “นับแต่นี้ไป หากพบเจอศิษย์ฉางมู่ที่ ไหน ข้าจะเก็บไม่ให้เหลือ !” สิ้นถ้อยวาจา ชายหนุ่มเดินจากไปหน้าตาเฉย

นับตั้งแต่ศิษย์ฉางมู่กระทำการอุกอาจข้ามเขตไปลักพาตัวน้องสาวของเขาในครั้งนั้น ความเกลียดชัง ในใจของเยี่ยฉวนที่มีต่อสถานศึกษาแห่งนี้ดูจะเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ !

ถ้าพวกมันทำกับเขา คงไม่ทำให้รู้สึกรุนแรงเท่ากับมันทำกับเยี่ยหลิงเช่นนั้น !

ชาวเมืองหลวงหรือพยานรู้เห็นที่เฝ้าดูการปะทะพากันหันไปมองหน้ากัน ทว่าไร้สรรพเสียงด้วยกำลัง ตะลึงลานไม่หาย ในที่สุดก็มีเสียงพึมพำเบา ๆ ดังขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์