หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ นิยาย บท 165

สรุปบท ตอนที่ 165 กรุณาเรียกข้าว่าเยี่ยฉวนเซียนกระบี่ ! (ต้น): หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์

สรุปตอน ตอนที่ 165 กรุณาเรียกข้าว่าเยี่ยฉวนเซียนกระบี่ ! (ต้น) – จากเรื่อง หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 165 กรุณาเรียกข้าว่าเยี่ยฉวนเซียนกระบี่ ! (ต้น) ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 165 กรุณาเรียกข้าว่าเยี่ยฉวนเซียนกระบี่ ! (ต้น)

ณ เชิงเขาฉางหลาน เยี่ยฉวนและพรรคพวกต่างมีท่าทางสดชื่นกระปรี้กระเปร่า แต่ละคนหน้าบานเป็นจานเชิง ก็จะไม่ให้พวกเขารู้สึกเช่นนี้ได้อย่างไร ดูของล้ำค่าที่ทุกคนได้มานั่นสิ กำไรเห็น ๆ!

ความขัดสน ! เผื่อบางคนจะสงสัย ทั้งสี่คนนับว่าฐานะขัดสน เพราะสถานศึกษาฉางหลานเองขาดวัตถุดิบจำเป็นที่บรรดาศิษย์สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาขั้นพลัง

มิใช่เพียงวัตถุดิบประการเดียว ทั้งอาหารการกินก็อัตคัด !

เช่นเดียวกับศาสตราวุธจิตวิญญาณและอะไรทำนองนั้น ไม่ต้องถึงกับสุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณหรอก !

ชั่วขณะหนึ่ง เยี่ยฉวนหยุดพักการคิดเรื่องกระบี่ไว้ก่อน เขาหันไปทางจี้อันซื่อและอีกสองคน ร้องบอกพวกเขาว่า “พวกเราหยุดตรงนี้ก่อนสักเดี๋ยว !” และเรียกให้ทั้งสี่คนเข้ามารวมกลุ่ม

ชายหนุ่มมองจี้อันซื่อและโม่อวิ๋นฉี “บาดแผลของพวกเจ้าเป็นยังไงบ้าง ?” คนถูกถามส่ายหน้าพร้อมกัน แต่โม่อวิ๋นฉีกลับตอบเพิ่มเติมว่า “แผลแค่นี้เรื่องเล็กไม่หนักหนาสักนิด”

เยี่ยฉวนพยักหน้า จากนั้นจึงทำสัญญาณให้ทุกคนนั่งลง เมื่อคนทั้งหมดนั่งลงเป็นที่เรียบร้อย ทั้งจี้อันซื่อและคนอื่นต่างมองมาที่เยี่ยฉวนเป็นตาเดียว เพื่อคอยดูว่าเขาจะบอกอะไร !

ชายหนุ่มนิ่งไปนิดหนึ่ง และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นจริงเป็นจัง “พวกเราชนะการต่อสู้ในเมืองหลวงก็จริง แต่การต่อสู้ในป่าเมื่อครู่ พวกเราแพ้ราบคาบ !”

ผู้ฟังทั้งสามเงียบงัน เยี่ยฉวนมองเพื่อนเรียงทีละคน ๆ “หลังจากที่พวกเราปะทะกับศัตรูครั้งก่อนรวมทั้งครั้งนี้ด้วย ข้าเชื่อว่าศิษย์แห่งฉางมู่จากที่อื่น คงต้องหาวิธีรับมือพวกเราอย่างหนักทีเดียว นั่นก็หมายความว่าศัตรูที่พวกเราพบเจอต่อไปจะแกร่งกล้ายิ่งกว่าเดิม !”

โม่อวิ๋นฉีแยกเขี้ยวพูดสวนขึ้นทันที “ไม่ยาก พวกเราก็ออกไปซัดกับมันซี !”

เยี่ยฉวนมองหน้าโม่อวิ๋นฉี “ถ้าเราไม่ชนะล่ะ ?”

คราวนี้คนถูกถามกลับเงียบกริบ

เยี่ยฉวนพูดเสียงเบา “นับวันศัตรูจะยิ่งแกร่งกล้า ทั้งยอดฝีมือและยอดคนมากความสามารถที่เกินกว่าที่พวกเราจะจินตนาการ ข้าขอยกตัวอย่างยอดฝีมือระดับผู้เยี่ยมยุทธ์อันหลานซิ่ว นั่นไง…” เพียงได้ยินชื่อที่เขาเอ่ยถึง สีหน้าของโม่อวิ๋นฉีและอีกสองคนพลันแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันควัน

เหตุการณ์เป็นเช่นนี้เพราะรางวัลมากมายมหาศาลที่สถานศึกษาฉางมู่จัดให้เป็นแรงจูงใจอย่างดี ด้วยมูลค่าของรางวัลทำให้ในที่สุดบรรดายอดฝีมือที่แท้จริงเปิดเผยตัวตน …การปรากฏตัวของเฟิงอี้ซิ่วเป็นหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน !

“ลองนึกดูสิว่า ถ้าคนที่มาต่อสู้กับเราเป็นยอดคนอันดับต้น ๆ ของทำเนียบ จะเป็นอย่างไร ?” เมื่ออยู่ในภาวะความกดดัน ทุกคนพากันสงบนิ่ง

เสียงเยี่ยฉวนดังขึ้นอีกครั้ง “อีกอย่าง สถานศึกษาฉางมู่มักใช้วิธีสกปรก ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายมีแต่แย่ลง พวกนั้นคงไม่เลิกราจนกว่าไม่ใครก็ใครล่มสลายลงไปข้างหนึ่งเป็นแน่”

เขายืนขึ้นก่อนจะพูดต่อไป “พวกเจ้าทั้งสามพึงระลึกไว้เสมอว่า ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเรานับวันยิ่งอันตราย แต่จะถอยก็ไม่ดี จะไปต่อก็ไม่ได้ จริงอยู่อาจารย์ใหญ่จี้เป็นผู้กล้าแกร่งมากที่สุด แต่ลำพังเขาคนเดียวคงไม่สามารถรับมือคนทั้งหมด ถ้าพวกเราต้องการมีชีวิตอยู่ พวกเราจำต้องพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด ดังนั้นจงกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริงและยืนหยัดต่อสู้ !” พูดจบเขาจึงหันกลับและเดินออกจากสถานที่ไป

ด้านหลังมีเสียงของโม่อวิ๋นฉีพึมพำ “หมอนี่ ชอบทำให้ข้าต้องเครียดอยู่เรื่อยเลยวุ้ย”

ไป๋เจ๋อฟังแล้วไม่พูดว่าอะไร เพียงเดินกลับขึ้นเขาไปเงียบ ๆ ทว่าไม่นานจากนั้น จู่ ๆ ก็หยุดเดินและหันมาพูดกับโม่อวิ๋นฉีหน้าตาเอาจริงเอาจัง

“ไม่ต้องกังวล ถ้าเจ้าตายข้าจะจัดงานศพให้อย่างสมเกียรติ !”

โม่อวิ๋นฉี “…”

ณ หอโถงฉางหลาน

ทันทีที่ร่างของเยี่ยฉวนปรากฏกายขึ้นภายในหอโถง เยี่ยหลิงพลันวิ่งถลันออกมาโผเข้ากอดพี่ชายแน่น โดยไม่มีเสียงพูดจากปากสักคำเดียว ด้วยนางได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเยี่ยฉวนและเฟิงอี้ซิ่วก่อนหน้าแล้ว

เปรี้ยง !

ครานี้พลังแสงแห่งกระบี่สาดกระจายสู่ภายนอกร่างกาย ส่องรัศมีกวาดไปรอบทิศทาง

ทว่าทันทีที่ลำแสงสัมผัสเข้ากับผนังหอคอยแห่งเรือนจำ แสงแห่งกระบี่พลันวูบดับลงอย่างรวดเร็ว

กระบี่หลิงซิ่วภายในกายของเยี่ยฉวน สะท้านอย่างรุนแรงอีกครั้ง !

และที่เกิดขึ้นเช่นนี้ย่อมแสดงว่ากระบี่หลิงซิ่วกำลังดูดกลืนกระบี่จิตวิญญาณ !

การดูดซึมกระบี่จิตวิญญาณครั้งนี้เกิดขึ้นโดยง่าย !

ธรรมดาแล้วกระบี่หลิงซิ่วไม่อาจกระทำได้ แต่เพราะเยี่ยฉวนได้รับความสามารถนี้มาจากสตรีลึกลับ จึงเกิดเป็นข้อได้เปรียบ อาจกล่าวได้ว่าความสามารถนี้ช่วยให้กระบี่หลิงซิ่วดูดกลืนกระบี่ง่ายขึ้นนั่นเอง !

…จังหวะนั้น ปรากฏการณ์อีกอย่างพลันเกิดขึ้น ณ จุดตันเถียนในกาย ด้วยมันแข็งแกร่งขึ้นมาก ซึ่งความมากนั้นก็ทำให้เยี่ยฉวนสามารถก้าวหน้าในขั้นพลังได้ด้วยตนเอง !

นับว่าวิธีการบ่มเพาะพลังชี่ฉบับเยี่ยฉวนนี้พิสดารอยู่มาก ถ้าเรื่องราวเหล่านี้เผยแพร่ออกไปภายนอก ไม่แน่ว่าจะก่อให้เกิดความวุ่นวายอลหม่านไม่น้อย

พลันกระบี่ทะยานขึ้นสู่อากาศออกมาเบื้องหน้าของเยี่ยฉวน จากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงกระบี่ก่อนกลืนหายไปภายในกาย !

เปรี้ยง !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์