บทที่ 168 ข้าโง่เอง ! (ปลาย)
อาจารย์ใหญ่จี้พลันโถมพรวดเข้ามายืนหน้าเยี่ยฉวน เขายื่นมือขวาพร้อมดึงมือกลับปลดปล่อยจากกระบี่ จากนั้นเขากวาดมือข้างขวา กระบี่หลิงซิ่วจึงปรากฏออกเบื้องหน้าเยี่ยฉวน
เยี่ยฉวนทำท่าบุกซ้ำ ทว่าอาจารย์ใหญ่จี้กลับยกมือเป็นเชิงห้ามปราม แต่ตาจ้องเขม็งไปที่หลี่เสวียนชางซึ่งทะยานอยู่ในอากาศ “ดูท่าว่าสถานศึกษาฉางมู่ยอมสละทุกหยาดหยดแห่งเกียรติและศักดิ์ศรี เพื่อแลกกับชีวิตของเยี่ยฉวนคนนี้ ! เจ้าสองคนเป็นถึงขั้นสุดยอดผนึกยุทธ์ ถึงขนาดลงทุนจับเด็กน้อยที่ไม่มีทางสู้เช่นนี้ !”
“เกียรติงั้นหรือ ?” หลี่เสวียนชางเหยียดมุมปาก น้ำเสียงมีร่องรอยถากถาง
“ถ้าหลายปีก่อนสถานศึกษาฉางมู่มุ่งมั่นสังหารอาจารย์ใหญ่จี้มากกว่านี้สักหน่อย เจ้าจะมีสถานะเช่นวันนี้หรือ ?”
อาจารย์ใหญ่จี้ใช้มือทั้งสองไพล่หลัง “ถ้าเจ้ากล้าทำอันตรายต่อเด็กน้อยคนนั้น ข้าจะฆ่าศิษย์ฉางมู่ให้หมด !”
คนฟังตอบยิ้ม ๆ “ถ้าเจ้ากล้าทำ เด็กตาย !” จากนั้นเขาหันไปทางเยี่ยฉวน “ส่วนเจ้า ข้ามั่นใจว่าอาจารย์จะไม่ปล่อยให้เจ้าทำแน่ ใช่ไหม ?”
เยี่ยฉวนจ้องเขม็งที่หลี่เสวียนชาง “ไอ้สุนัขเฒ่า เจ้าเป็นอาจารย์ใหญ่ประสาอะไรจึงไม่รู้จักแยกแยะ ถ้ามีเรื่องไม่พอใจพวกเรา ช่วยทำแต่กับพวกเราจะได้ไหม ?”
หลี่เสวียนชางส่ายหน้าช้า ๆ “เกียรติงั้นหรือ ? เกียรติยศจะมีความหมายอะไร ? ข้ารู้เพียงว่าตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ สถานศึกษาฉางมู่ไม่เพียงเสื่อมเสียเกียรติยศ แต่พวกเราจะต้องสูญสิ้นความมั่นคงที่มีมายาวนานนานนับพันปีด้วย”
จากนั้นจึงเบนสายตาไปทางอาจารย์ใหญ่จี้ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ทำอันตรายเด็ก แค่จะพานางไปไว้ที่สถานที่แห่งความลับ แต่ถ้าเจ้ากล้าทำอย่างที่เจ้าพูด นางตาย !” ขาดคำ เขาหันหลังกลับ ร่างเลือนหายไปจากขอบฟ้าพร้อมด้วยบุรุษชุดดำ
เยี่ยฉวนเห็นเช่นนั้น เขาทำท่าจะผละออกตามไป ทว่าอาจารย์ใหญ่จี้ออกห้ามปราม ชายหนุ่มหันไปมองหน้าอาจารย์ใหญ่ นัยน์ตาแดงก่ำดุจสายโลหิต
คนเป็นผู้อาวุโสสั่นหน้าน้อย ๆ “ข้าเสียใจ ไม่คิดมาก่อนว่าพวกมันจะกล้าอุกอาจเช่นนี้”
ชายหนุ่มหลับตาลงช้า ๆ อย่างพยายามที่สุดในการข่มสติ ! เขานิ่งไปอยู่ชั่วขณะ ทันใดนั้นเยี่ยฉวนหันหลังกลับพร้อมกระบี่ในมือ “ข้าไม่โทษใครทั้งนั้น ข้ามันโง่เอง !”
ทั้งลานเงียบกริบ มีเพียงเสียงถอนหายใจของอาจารย์ใหญ่จี้ ในตอนนั้น โม่อวิ๋นฉี จี้อันซื่อ และไป๋เจ๋อ พวกเขาต่างเดินเข้าไปหาอาจารย์ใหญ่จี้ โดยเฉพาะโม่อวิ๋นฉีที่เงยหน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มมองอาจารย์ใหญ่ “อาจารย์ ข้าว่าการที่สถานศึกษาฉางมู่มันทำถึงขนาดนี้ นับว่าไร้ยางอายสิ้นดี !”
เสียงคนเป็นอาจารย์ตอบแผ่วเบา “ไร้ยางอายอย่างนั้นหรือ ? ความกล้าแกร่งและยอดคนเช่นชายแซ่เยี่ยคนนี้ทำให้พวกเขาหวาดผวาเสียแล้ว ! ถ้าไม่ดิ้นรนสู้จนสุดใจขาดดิ้นเวลานี้ล่ะก็ บางทีอาจจะไม่มีโอกาสกำจัดเขาได้อีกเลย เพราะสำนักใหญ่แห่งฉางหลานคงยอมรับเยี่ยฉวนคนนี้เมื่อเขาเติบใหญ่ขึ้นมาในวันใดวันหนึ่งเป็นแน่ !”
เสียงโม่อวิ๋นฉีถามอีกว่า “ท่านจะขอความช่วยเหลือจากสำนักใหญ่หรือไม่ขอรับ ?”
อาจารย์ใหญ่ส่ายศีรษะ “ตอนนี้ยังทำไม่ได้… อย่างน้อยเยี่ยฉวนควรสำเร็จเป็นเซียนกระบี่ก่อนอายุครบยี่สิบ เมื่อถึงตอนนั้น บางทีสำนักใหญ่แห่งฉางหลานอาจจะหันมาให้ความสนใจบ้างกระมัง…”
คนฟังทอดถอนใจ “ไอ้พวกฉางมู่ หน้าด้านไร้ยางอาย !” ทันใดนั้นเสียงของจี้อันซื่อดังขึ้นอย่างร้อนรน “เยี่ยฉวนลงจากเขาไปแล้ว ! เขาคงจะมุ่งไปที่แคว้นหนิงแน่ !”
เสียงของโม่อวิ๋นฉีพูดรวดเร็ว “ข้าจะไปกับเขาด้วย !”
ไป๋เจ๋อที่อยู่อีกข้างพยักหน้าหงึก “ข้าก็ด้วย !” จากนั้นคนทั้งสองพลันหันหลังกลับรีบรุดตามหลังเยี่ยฉวนไปทันที
อาจารย์ใหญ่จี้ตะโกนไล่หลัง “ระวังด้วยมันเป็นกับดัก กับดักที่หลอกล่อให้เยี่ยฉวนเข้าสู่สถานที่แห่งความลับซึ่งเต็มไปด้วยอันตราย ! ต่อให้มีพวกเจ้าไปด้วย ที่นั่นก็ยังนับว่าอันตรายมากอยู่ดี !”
โม่อวิ๋นฉีชะงักพรื่ด เขาหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนเหยียดมุมปาก “ข้ารู้ว่าสถานที่แห่งความลับมีอันตรายรออยู่… และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าต้องไปกับเขา !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์