บทที่ 174 พี่จะไปพาเจ้ากลับบ้าน ! (ปลาย)
อีกราวครึ่งชั่วยามต่อมา กลุ่มของเยี่ยฉวนก็ได้เดินทางมาถึงเทือกเขาหยก ความสูงใหญ่ของภูเขาที่ตั้งตระหง่าน มองไปไกลสุดลูกหูลูกตา
หลังจากนั้นเยี่ยฉวนและคนทั้งสามเริ่มเดินเข้าสู่ทางขึ้นเขาใหญ่โต ไป๋เจ๋อพลันมีท่าทีระแวดระวังเป็นพิเศษด้วยหัวคิ้วของคนร่างใหญ่ย่นเข้าหากันตลอดเวลา “ข้ารู้สึกแปลก ๆ!”
คนทั้งสี่จึงหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ ก่อนไป๋เจ๋อจะย่อตัวลงจนเกือบชิดพื้น พลางก้มลงสูดจมูกไปตามพื้นดิน จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมามองเยี่ยฉวนและคนอื่น “ที่นี่มีกลิ่นมนุษย์แรงทีเดียว และมีมากกว่าหนึ่งคน !”
มีหลายคน ! โม่อวิ๋นฉีได้ยินเช่นนั้น เขาหันมาทางเยี่ยฉวนอ้าปากจะพูด แต่กลับพบว่าคนผู้นั้นเดินนำออกห่างไปไกลแล้ว
“ข้าไม่กลัว ข้าจะจัดการศัตรู ส่วนพวกเจ้าคอยช่วยฝังพวกมันแทนข้าให้ทีก็แล้วกัน !” เสียงเยี่ยฉวนร้องดังมาจากด้านหน้า กล่าวจบเขาเร่งฝีเท้าเดินลิ่วไม่เหลียวหลัง !
คนทั้งสามมองตามหลังเยี่ยฉวน แต่ละคนล้วนมีสีหน้าแปลกไป และโม่อวิ๋นฉีพลันรีบแจ้นตามหลังไปก่อนคนอื่น ปากร้องเรียกเยี่ยฉวนดังลั่น “หัวโขมยที่เยี่ย เดี๋ยวสิช้าก่อน ๆ…”
เยี่ยฉวนเร่งฝีเท้าวิ่งเต็มสปีด โดยมีโม่อวิ๋นฉีและคนอื่นไล่ตามมาติด ๆ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เยี่ยฉวนชะงักฝีเท้าหยุดทันที และเมื่อเขาหยุดเช่นนั้น โม่หยุนและคนอื่นที่รีบตามมาก็พลันทำท่าจะเอ่ยปากพูด ทว่าเยี่ยฉวนกลับชี้ลงไปที่พื้นดินเบื้องหน้า ทำให้โม่อวิ๋นฉีเบนสายตามองตามที่มือชี้แต่กลับไม่พบร่องรอยผิดปกติแต่อย่างใด จะยกเว้นก็แต่กองใบไม้ทับถมจนเต็มพื้นดินเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง เยี่ยฉวนใช้ปลายเท้าข้างขวาเตะไปเบา ๆ ที่กองใบไม้ ทันใดนั้นก้อนหินใหญ่พลันถูกเหวี่ยงลงมาบนพื้นดินไม่ไกลจากเบื้องหน้าของทุกคน
เปรี้ยง ! เสียงดังสนั่นราวพื้นดินถล่ม ในเวลาเดียวกันลูกธนูนับไม่ถ้วนพลันถูกยิงจากท้องฟ้าลงสู่พื้นดิน ลูกธนูนับร้อยถูกยิงต่อเนื่องออกมาเรื่อย ๆ นับร้อยดอก ที่ส่วนปลายธนูเคลือบด้วยของเหลวชนิดหนึ่งมีสีเขียว เป็นยาพิษที่มีอานุภาพร้ายแรง
เมื่อเห็นเช่นนั้น โม่อวิ๋นฉีสีหน้าแปรเปลี่ยน มองภาพที่เห็นด้วยความตื่นตะลึง ถ้าพวกเขาคนใดพลาดเดินเข้าไป ไม่แคล้วถูกยิงด้วยลูกธนูอาบยาพิษนับร้อยปักเต็มแผ่นหลังเหมือนตัวเม่นแน่ !
ต่อมาเยี่ยฉวนแตะปลายเท้าลงบนพื้นเบา ๆ ฉับพลันร่างทะยานขึ้นสู่อากาศเยื้องไปทางขวาซึ่งเขาสังเกตเห็นคนสามคนที่ซ่อนบนกิ่งไม้ใช้ความหนาแน่นของพุ่มใบปกปิดมิดชิด !
เมื่อคนทั้งสามเห็นว่าเยี่ยฉวนเปิดเผยที่ซ่อนของมัน ทั้งหมดสีหน้าเปลี่ยนสิ้นเชิง มันหันมองหน้ากันก่อนจะพร้อมใจออกพลังปะทะ แต่ทว่าช้าไปเสียแล้วด้วยกระบี่ของเยี่ยฉวนหายวาบออกจากอุ้งมือ และหลังจากนั้น…
ฉัวะ ! ฉัวะ ! ฉัวะ !
ศีรษะของคนทั้งสามขาดสะบั้น กระเด็นหลุดจากบ่าแทบจะในเวลาเดียวกัน !
เยี่ยฉวนลดตัวลงบนพื้นดินอย่างนิ่มนวล ฉับพลันเขาเหินออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเร่งความเร็วขึ้นทุกขณะ ดังนั้นเพียงระยะเวลาอันสั้น เขาก็มาถึงยังโคนต้นไม้สูงใหญ่ต้นหนึ่ง ด้วยสายตาสังเกตเห็นรอยเท้าขนาดเล็กปรากฏบริเวณช่วงกลางลำต้น
สรรพเสียงรอบข้างพลันสงบเงียบ
ชิ้งงงง ! กระบี่หนึ่งทะยานสู่ฟากฟ้า พลันกระบี่หลิงซิ่วหวนกลับคืนสู่อุ้งมือ
ทว่าที่ปลายเท้า ปรากฏศีรษะคนตกลงบนพื้น ! เยี่ยฉวนยกเท้าขึ้นข้างหนึ่ง จากนั้นทิ้งน้ำหนักที่ฝ่าเท้ากดกระแทกลงบนศีรษะที่ตกอยู่บนพื้นครั้งเดียวแหลกละเอียด
“น่าประทับใจยิ่งนัก !” เสียงของคนดังก้องขึ้นไม่ห่างออกไป
เยี่ยฉวนเงยหน้ามอง ที่เบื้องหน้าสายตาปะทะกับชายผู้มีผมยาวที่ยืนห่างออกไปกว่าสามจั้งเศษ ใบหน้านั้นนับได้ว่าอัปลักษณ์น่าเกลียด โดยเฉพาะส่วนริมฝีปากซึ่งแหว่งหายไป นอกจากนั้น นัยน์ตาทั้งคู่ก็มีขนาดเล็กราวกับตาหนู คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าเป็นคนที่มีใบหน้าอัปลักษณ์และน่าเกลียดน่ากลัวมากคนหนึ่ง
ชายผู้มาใหม่แสยะยิ้ม “เจ้าเป็นคนที่มีค่าหัวสูงยิ่งนัก นึกอยู่แล้วว่าฝีมือย่อมไม่ธรรมดา แต่… นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ข้าได้ยินว่าน้องของเจ้าถูกจับไปไว้ในสถานที่แห่งความลับ พวกข้าจะคอยเจ้าที่นั่นก็แล้วกัน แต่อย่าช้านักล่ะ หึหึ…” หลังจากนั้น ร่างของคนสะท้านสั่น ก่อนหายวับไปปรากฏในระยะไกล
เยี่ยฉวนหายวับไปในเวลาปานกัน ทว่าความเร็วของเขาเทียบไม่ได้กับชายผมยาว ดังนั้นระยะห่างระหว่างเยี่ยฉวนกับคนผมยาวที่นำลิ่วจึงทิ้งห่างออกไปทุกที ๆ
ชายผมยาวหันมามองจากระยะไกล เหลือบตามองเยี่ยฉวนเย้ยหยัน “เร่งหน่อย ๆ ชักช้านักน้องของเจ้ากลายเป็นผีเฝ้าสถานที่แห่งความลับแน่ ฮ่าฮ่า…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์