บทที่ 200 หาใช่บุรุษผู้กล้าหาญเลยสักคน ! (ต้น)
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ อาจารย์ใหญ่จี้เดินออกมาจากอาคารหอหลังเล็ก ท่าทางโซซัดโซเซเหมือนคนเมาสุราเช่นเคย…
ณ ท้องถนนในเมืองหลวง
เยี่ยฉวนกับพวกเดินนำอยู่หัวขบวน ท้ายขบวนคือฝูงชนจำนวนมากที่ติดตามเป็นพรวน
ยิ่งเวลาผ่านไปคนยิ่งเพิ่มเติมเข้าร่วมในขบวนมากขึ้นทุกที !
โม่อวิ๋นฉีซึ่งเดินอยู่ข้างเยี่ยฉวน หันมากระซิบ “นี่พี่หัวขโมยเยี่ย พวกเราเดินไปด้วยกันอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าพากันเดินลงหลุมทั้งหมดนี้นะ ?”
เยี่ยฉวนปรายตามาทางคนพูด “เดี๋ยวเจ้าคอยดูว่าข้ามีแววแค่ไหน !”
โม่อวิ๋นฉี “…”
เมื่อผ่านไปครู่ใหญ่ คนทั้งหมดมาหยุดลงตรงเชิงเขาฉางซาน
เยี่ยฉวนนำหน้าตามด้วยฝูงคนกลุ่มใหญ่ตามมาสังเกตการณ์ทางด้านหลัง ไม่หมดเพียงเท่านี้ด้วยยังมีคนทยอยเข้ามาอยู่ตลอดเวลา !
สังเกตเห็นเลยว่า หลายคนมุ่งหวังจะได้ดูการแสดง !
เยี่ยฉวนซึ่งอยู่หน้าสุดเงยมองขึ้นไปบนยอดเขาฉางซาน ขณะเดียวกันก็ยกกระบี่ในมือชี้ปลายกระบี่ไปในที่ไกลกว่า ก่อนเปล่งเสียงดัง น้ำเสียงเย็นชาไปยังภูเขาเบื้องหน้า “ข้าเยี่ยฉวน ศิษย์ฉางหลานมาขอท้าสู้ !”
ขอท้าสู้ ! เสียงของเยี่ยฉวนสะท้อนก้องลานโล่งลั่นราวฟ้าพิโรธ
“ขอท้าสู้” ผู้คนที่มารวมกลุ่มต่างหันมองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น !
เพราะความผิดพลาดของสถานศึกษาฉางมู่ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของสถานศึกษาในเมืองหลวงให้เสื่อมเสียด่างพร้อย เยี่ยฉวนสังหารศิษย์แห่งแคว้นถัง ทำให้คนในเมืองหลวงต่างนับถือในความสามารถ โดยเฉพาะกองทหาร !
ดังนั้น ชาวเมืองหลวงจึงเริ่มที่จะหันมายืนข้างสถานศึกษาฉางหลาน และมีคนจำนวนไม่น้อยต้องการสมัครเป็นศิษย์ฉางหลาน ทว่าโชคร้ายด้วยฉางหลานไม่ประสงค์จะรับศิษย์ใหม่ !
ณ บริเวณลานกว้าง
ผ่านไปครู่หนึ่งบนภูเขาฉางซานยังคงสงบนิ่ง !
เมื่อผู้คนสังเกตว่าไม่มีความเคลื่อนไหวบนเขาฉางซาน จึงพากันหันไปซุบซิบ วิพากษ์วิจารณ์ บ้างก็พูดจาเสียดสี ขณะที่บางคนมองด้วยสายตาเมินเฉยระคนขบขัน
หลายสิบปีที่ผ่านมา สถานศึกษาฉางมู่ไม่เคยตกอยู่ในฐานะผู้ถูกท้าทายเช่นนี้มานาน !
ครั้งนี้ฉางมู่จะตอบโต้เช่นไร ? เวลานี้สายตาทุกคู่ต่างจ้องมองขึ้นไปบนยอดเขาฉางซาน
ถ้าฉางมู่ไม่ตอบโต้ ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าสถานศึกษาฉางมู่จะกลายเป็นตัวตลกแห่งเมืองหลวงทันที ! เกียรติยศศักดิ์ศรีและชื่อเสียงมีอันต้องพังทลายลงอีกครั้ง
เสมือนถูกเหยียบลงบนใบหน้า ! จึงเป็นไปไม่ได้ที่สถานศึกษาฉางมู่จะทำเมินเฉยต่อคำท้าทายของเยี่ยฉวน !
ทันใดนั้นเอง คนหนึ่งปรากฏกายในลาน เบื้องหน้าเยี่ยฉวนและทุกคน คนผู้นี้คือหลีซิ่ว
หลีซิ่วจ้องหน้าเยี่ยฉวนถามเสียงห้วน “เจ้ามาที่นี่ต้องการอะไร ?”
เยี่ยฉวนตอบด้วยสุ้มเสียงราบเรียบ “ข้าขอท้าสู้ !”
จากนั้นจึงพูดต่อทันที “อะไรนี่ คนฉางมู่ไม่มีใครกล้าออกมารับคำท้าของข้าสักคน ?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์