บทที่ 26 พี่ชายที่ดีควรจะเป็นเช่นนี้ ! (ต้น)
หลังแบกน้องสาวขึ้นหลังเรียบร้อยแล้ว เยี่ยฉวนก็เริ่มออกเดินอีกครั้ง ทว่าทันใดนั้นเขาก็จำต้องหยุดเดิน
ไม่ไกลจากเขานักมีคนสามคนยืนอยู่ ! พวกเขาก็คือเจียงเหนียน หลีอวี๋และจางเลี่ย !
เจียงเหนียนกับคนอีกสองคนเดินมาหาเยี่ยฉวน ก่อนที่เจียงเหนียนจะคลี่ยิ้มบางและเอ่ยขึ้น “พวกเราสามคนมาที่นี่เพื่อส่งคุณชายเยี่ย !”
เยี่ยฉวนวางน้องสาวลงและประสานมือคำนับต่อชายทั้งสาม “ขอบคุณขอรับ !”
เจียงเหนียนยิ้ม หยิบขวดหยกขาวออกมายื่นให้เยี่ยฉวน “ในนี้มียาบำรุงตันเถียนทั้งหมด 30 เม็ดในขวดนี้ เป็นของขวัญเล็กน้อยจากเราสามตระกูล โปรดจงรับมันไว้เถอะ !”
ยาบำรุงตันเถียน !
เยี่ยฉวนมองคนทั้งสาม รู้สึกงุนงง
ราวกับรับรู้ถึงความสับสนของเยี่ยฉวน เจียงเหนียนก็จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ต้องขออภัยที่ข้าพูดตามตรง เราสามคนต้องการมีความสัมพันธ์อันดีกับคุณชายเยี่ย แม้คุณชายเยี่ยจะไม่ใช่คนของตระกูลเยี่ยอีกแล้ว แต่คุณชายเยี่ยก็ยังเป็นคนเมืองชิงอยู่ เมื่อท่านออกจากที่นี่ไป หากท่านมีชื่อเสียงในภายภาคหน้าแล้ว เราก็จะได้รับผลประโยชน์จากการร่วมมือกับท่านด้วย !”
เยี่ยฉวนหยิบขวดหยกขาว จากนั้นก็ค้อมศีรษะเล็กน้อยเป็นการคารวะพวกเขา “ขอบคุณขอรับ !”
แม้เขาไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณอะไรคนเหล่านี้ แต่เขาก็ต้องการยาบำรุงตันเถียนพวกนี้จริง ๆ ชายหนุ่มเต็มใจเป็นหนี้บุญคุณคนอื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนก็ตามหากว่ามันเกี่ยวกับน้องสาวของเขา !
ในตอนนี้ หลีอวี๋พลันเอ่ยขึ้น “คุณชายเยี่ยกำลังไปที่เมืองหลวงหรือ ?”
เยี่ยฉวนพยักหน้า “ข้ากำลังจะไปที่สถานศึกษาฉางมู่ในเมืองหลวง !”
หลีอวี๋ยิ้มบางและโบกมือขวา จากนั้นรถม้าก็วิ่งตรงมาหาเขาจากในเมือง
หลีอวี๋ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “ระยะทางจากที่นี่ไปเมืองหลวงนั้นยาวไกล หากเดินทางเท้าเปล่า ข้าเกรงว่าท่านจะต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าครึ่งปี แต่ด้วยรถม้านี้พวกท่านสองพี่น้องสามารถขนสัมภาระไปยังเมืองหมื่นภูผาเพื่อจะอาศัยเรือเหาะมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงได้ภายในห้าวัน และหนึ่งเดือนหลังจากนี้จะตรงกับช่วงเวลาเปิดการศึกษาของสถานศึกษาฉางมู่พอดี ดังนั้นท่านน่าจะไปถึงจุดหมายทันเวลา”
หลังหลีอวี๋เอ่ยจบ จางเลี่ยก็หยิบถุงเงินกับม้วนกระดาษส่งให้กับเยี่ยฉวน “คุณชายเยี่ย นี่คือของกำนัลเล็กน้อยจากใจของข้า เมื่อท่านไปถึงเมืองหลวงแล้ว ท่านจะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แม้มันจะไม่มากนัก แต่ก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการยามฉุกเฉินของท่าน และกระดาษม้วนนี้ก็คือแผนที่ที่แสดงเครื่องหมายจุดอันตรายในบางที่ไว้ …ท่านไม่ควรผ่านเข้าไปในสถานที่เหล่านี้”
เยี่ยฉวนมองคนทั้งสาม จากนั้นเขาก็โค้งศีรษะพร้อมกับประสานมือทั้งคู่ไว้ด้านหน้า “ข้าจะจดจำความกรุณาของพวกท่านในวันนี้ ถ้าได้กลับมาข้าจะตอบแทนบุญคุณของพวกท่านแน่ ลาก่อน !”
เมื่อเอ่ยจบ ชายหนุ่มก็จัดเก็บสัมภาระทั้งหลายและจากนั้นก็แบกน้องสาวของเขาขึ้นไปบนรถม้า
ไม่นานนัก เยี่ยฉวนกับน้องสาวของเขาก็หายไปจากสายตาของพวกเขา !
มองเยี่ยฉวนกับน้องสาวของเขาหายไปกับระยะทางแล้ว หลีอวี๋พลันกระซิบขึ้นมา “คนคนนี้จะกตัญญูรู้คุณหรือไม่นะ ?”
เจียงเหนียนยิ้มพลางเอ่ย “ท่านเห็นน้องสาวของเขาหรือไม่ ?”
ได้ยินดังนี้พวกเขาก็เข้าใจในทันที
เจียงเหนียนมองรถม้าที่ดูพร่าเลือนกลืนไปกับระยะทางมากขึ้นพลางกระซิบ “คนคนนี้ช่างมีจิตใจเด็ดเดี่ยวนัก เขาไม่เคยใจอ่อนและนั่นถือเป็นจุดแข็ง หากตระกูลเยี่ยมีคนเช่นนี้อยู่ ข้าเกรงว่าเราจะต้องก้มหัวให้อย่างไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีในภายหน้า โชคดีที่เจ้าพวกโง่ในตระกูลเยี่ยกลับเลือกที่จะสนับสนุนผู้ถูกเลือก และโง่พอที่จะคิดกำจัดยอดฝีมือคนอื่น ๆ! นับเป็นเรื่องดีนักที่พวกเขาบีบคนคนนี้ให้ตัดขาดจากตระกูลเยี่ย ! ผู้เฒ่าตระกูลเยี่ยกับประมุขตระกูลเยี่ยช่างโง่เขลาเสียจริง !”
หลีอวี๋ยิ้มและเอ่ยตอบ “แต่สำหรับพวกเราแล้วมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีจริง ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์