หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ นิยาย บท 25

บทที่ 25 เช่นนั้นข้าจะตายพร้อมเจ้า ! (ปลาย)

เดิมทีพวกเขาทั้งสองต้องการดึงตัวชายหนุ่มมาเป็นพวก แต่ตอนนี้อันหลานซิ่วได้แนะนำให้เยี่ยฉวนเดินทางไปยังสถานศึกษาฉางมู่แล้ว พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะเหนี่ยวรั้งไว้ แต่พยายามสานสัมพันธ์กับเขาไว้แทน

เยี่ยฉวนประสานมือคำนับพวกเขาและเอ่ยขึ้น “หากมีโอกาสข้าจะไปนะขอรับ !”

ชายกลางคนยิ้มพลางเอ่ยตอบ “ถ้าอย่างนั้น เราคงได้เจอกันอีกในสักวันหนึ่ง !”

หลังจากนั้นพวกเขาก็หันหลังเดินจากไป

ถึงตอนนี้ เยี่ยชางพลันเอ่ยขึ้น “ใครก็ได้มาพาตัวผู้เฒ่าเยี่ยไปที !”

สมาชิกตระกูลเยี่ยรอบด้านอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นผู้คุ้มกันบางคนของตระกูลเยี่ยก็เดินไปตรงหน้าผู้เฒ่าตระกูลเยี่ย ส่วนทางด้านผู้เฒ่าตระกูลเยี่ยเองก็ตีสีหน้าเรียบเฉย ชายชรายอมปล่อยให้ผู้คุมพาตัวเขาไปโดยไม่ขัดขืน !

เยี่ยชางมองเยี่ยฉวนที่อยู่ใกล้ ๆ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะประกาศออกมา “เยี่ยฉวน นับจากบัดนี้เป็นต้นไป เจ้าจะเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเยี่ย เจ้าจะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของข้าคนต่อไป เจ้า…”

“ทายาทสายตรง ?!”

เยี่ยฉวนแสยะ “ข้าไม่สนเรื่องเป็นทายาทสายตรงของท่านหรอก ตอนนี้ข้าจะพูดอีกครั้ง ! ข้า เยี่ยฉวน ขอเกี่ยวข้องกับตระกูลเยี่ยอีกต่อไป !”

หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินตรงไปที่จวนตระกูลเยี่ย

เมื่อเยี่ยชางกับคนที่เหลือได้ยินคำพูดของเยี่ยฉวน สีหน้าของพวกเขาก็ดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง !

เนื่องเพราะพวกเขารู้แน่ชัดว่าเยี่ยฉวนคนนี้ไม่ใช่คนตระกูลเยี่ยอีกต่อไป ดังนั้นตระกูลเยี่ยจึงขาดยอดอัจฉริยะผู้ที่เป็นอัจฉริยะผู้ฝึกกระบี่ไปด้วย

และสิ่งสำคัญที่สุดก็คืออัจฉริยะผู้ฝึกกระบี่ผู้นี้เกลียดชังตระกูลเยี่ยเข้าแล้ว !

“ฮ่า ๆ …”

ในตอนนี้ จางเลี่ย ผู้นำตระกูลจางที่อยู่ไม่ไกลนักพลันระเบิดหัวเราะออกมา “ตระกูลเยี่ยนี่อะไรกัน ฮ่า ๆ พวกเขากลับขับไล่อัจฉริยะไร้เทียมทานไปเสียนี่ ตระกูลเยี่ยช่างเหลือเชื่อจริง ๆ ฮ่า ๆ…”

อีกด้านหนึ่ง หลีอวี๋ก็ยิ้มและเอ่ยขึ้น “เขาเป็นยิ่งกว่าอัจฉริยะไร้เทียมทานเสียอีก เพราะอัจฉริยะผู้นี้ยังเป็นผู้ฝึกกระบี่อีกด้วย ! ในความเห็นของข้า นิมิตแห่งฟ้าดินเมื่อครั้งนั้นต้องเป็นของเยี่ยฉวนแน่นอน”

ไม่อย่างนั้นแล้วผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้นอย่างอันหลานซิ่วคงไม่มีทางมาหาเขา ช่างน่าขันที่ตระกูลเยี่ยคิดว่าเป็นแย่หลางที่ได้นิมิต เรื่องนี้ช่างน่าขันนัก !

อีกด้านหนึ่ง เจียงเหนียนก็กำลังคลี่ยิ้มอ่อนโยน เขาไม่พูดอะไร ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เพียงพอที่จะอธิบายทุกสิ่งแล้ว !

มือขวาของเยี่ยชางกำหมัดแน่น เช่นเดียวกับสีหน้าของเขาที่ซีดเผือด หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาจึงหันมองเจียงเหนียนและเอ่ยขอโทษขอโพย “ผู้นำตระกูลเจียง ผู้นำตระกูลหลี่ ผู้นำตระกูลจาง เรื่องที่พวกเราตระกูลเยี่ยได้ล่วงเกินพวกท่านเมื่อก่อนหน้านี้ ได้โปรด…”

ในตอนนั้น จู่ ๆ จางเลี่ยก็พลันสะบัดมือใหญ่และเอ่ยขึ้น “ล่วงเกิน ? ตระกูลเยี่ยของท่านอวดเบ่งศักดิ์ศรีมาก่อน ท่านต้องการเป็นตระกูลชั้นสูงที่มีอำนาจที่สุดในเมืองชิงและยังอยากจะครองสิทธิ์ทำเหมืองรอบเมืองชิงในอีกทศวรรษต่อไป แล้วอย่างไรเล่า ตอนนี้ท่านยอมรับความผิดพลาดและต้องการให้เราจบเรื่องพวกนี้ทั้งหมดงั้นหรือ ? เหอะ ! ฝันไปเถอะ !”

เอ่ยดังนี้ สายตาของเขาก็กวาดมองทุกคนในตระกูลเยี่ย “ข้าขอออกคำสั่ง ณ ที่นี้ นับแต่นี้เป็นต้นไป หากคนในจวนตระกูลเยี่ยกล้าออกจากจวน ตระกูลจางจะฆ่าเขาเสีย !”

หลีอวี๋พลันเอ่ยต่อ “เช่นเดียวกับตระกูลหลี หากใครก็ตามในตระกูลเยี่ยกล้าปรากฏตัวต่อหน้าตระกูลหลี เราก็จะฆ่าเขาเสีย !”

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็มองที่เจียงเหนียน “ท่านเจ้าเมือง ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร ?”

เจียงเหนียนยิ้มบาง “น้องหลี น้องจาง แน่นอนว่าข้าต้องอยู่ฝั่งพวกเจ้า”

“ฮ่า ๆ…”

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว หลีอวี๋ก็พลันระเบิดหัวเราะออกมาทันที

แต่ทุกคนในตระกูลเยี่ยกลับมีสีหน้าซีดเผือดราวกับผีตายซา เพราะไม่ต้องกล่าวอะไรออกมาก็รู้ว่าตระกูลเยี่ยได้จบสิ้นแล้ว !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์