บทที่ 51 หนึ่งต้านสามพัน ! (ปลาย)
ชายร่างท้วมเห็นดังนั้นก็สะดุ้งเล็กน้อย เช่นเดียวกับความโกรธที่ทวีมากขึ้น “เจ้าคิดจะขัดขัดขืนอย่าง นั้นหรือ !!”
เยี่ยฉวนยืนกำหมัดแน่น “กองทหารจากแคว้นถังเข้ามาปล้นสะดมและข่มขืนชาวเมืองเพราะความละ เลยของเจ้า เวลานี้ข้าจัดการพวกมันจนสิ้นซากหมดแล้วแต่เจ้ากลับตามมาจับข้า ทำไม ? หรือว่าเจ้าเป็นคน ของแคว้นถัง ?”
ชายร่างอ้วนโมโหเดือดดาล “เจ้าฆ่าพวกมันแล้วรู้หรือไม่ว่าผลที่ตามมาคืออะไร ? ไม่ไกล จากนี่ มันเป็นที่ตั้งกองทหารม้าเสื้อเกราะดำ เวลานี้เจ้าฆ่าพวกมันตายจนหมดเกลี้ยง เจ้าทำให้พวกนั้นหาข้อ อ้างส่งกองกำลังทหารเข้ามาประชิดชายแดน ทีนี้ละก็ ผู้คนจะได้ล้มตายลงเป็นจำนวนมาก เจ้ารู้หรือไม่ !!?”
“งั้นก็แสดงว่าเจ้ากลัวตาย ?” เยี่ยฉวนตอกกลับอย่างเย้ยหยัน
ชายร่างท้วมหน้าบิดเบี้ยวเหยเก “เลิกพูดจาเหลวไหล ที่นี่เป็นเมืองหน้าด่านและข้าเป็นคนสั่งการ เจ้า…”
โดยไม่ได้สนใจเจ้าอ้วนนั่นอีกต่อไป เยี่ยฉวนพลันหันมาทางหญิงสาวและพูดว่า “จัดการมัน !”
หญิงสาวจ้องหน้าเยี่ยฉวน ก่อนหันหลังกลับเดินตรงไปยังทหารเกราะดำที่นอนพับบนพื้นดิน
ทันทีที่เห็นเช่นนั้น สีหน้าของชายร่างอ้วนพลันเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาร้องสั่งทหารอย่างกราด เกรี้ยว “จับตัวพวกมันมาให้ข้า !”
ในเวลานั้นเองที่เยี่ยฉวนคว้าหมับเข้าที่คอหอยชายร่างท้วมพร้อมกับทหารที่จะเข้ามาจับตน การ กระทำดังกล่าวทำให้ทั้งสองหยุดชะงักไปทันที พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อน
เยี่ยฉวนถลึงตามองแทบไม่กะพริบก่อนจะพูดออกมา “ข้ารังเกียจคนเช่นเจ้านัก ดีแต่สั่งให้คนของเจ้า ลงมือ แต่ตัวเองกลับอ่อนปวกเปียกเป็นแค่สุนัขรับใช้พวกศัตรู ถ้าขืนพูดไร้สาระอีกข้าจะตัดหัวเจ้าเสีย !”
“เจ้า !”
ชายอ้วนมองเยี่ยฉวนด้วยความหวาดหวั่นฉายชัดในแววตา เขาไม่กล้าเอ่ยพูดอะไรได้อีก
“อ๊าก !”
ขณะนั้นเองก็ได้มีเสียงร้องดังออกมาจากข้างหลัง
เมื่อหันไปเห็นที่มาของเสียง จึงพบว่าหญิงสาวได้ใช้มีดปาดเข้าที่ลำคอของทหารม้าเกราะดำไปแล้ว จนเหลือทิ้งไว้เพียงหยาดโลหิตที่สาดกระเซ็นอยู่บนใบหน้าของนาง !
หลังจากจัดการทหารเสื้อเกราะจนสิ้นลมหายใจ นางจึงปล่อยมีดหล่นจากมือ ก่อนจะทิ้งกายอ่อนยวบพิงกับกำแพงด้วยสายตาเหม่อมองไร้จุดหมายยากจะหยั่งรู้ถึงความคิด
“เจ้า เจ้าก่อปัญหาใหญ่ขึ้นแล้ว !”
คนร่างท้วมชี้หน้าเยี่ยฉวน ตัวมันสั่นเทิ้มไม่หยุด
แทนที่เยี่ยฉวนจะสนใจ เขากลับเดินไปหานางโดยไม่พูดไม่จา ก่อนจะหยิบเหรียญทองจำนวนหนึ่งยัด ใส่มือ “เอาไว้ใช้ชีวิตให้สุขสบาย !”
ว่าแล้วก็หันหลังเดินจากไป
หญิงสาวนางนั้นมองตามหลังของชายหนุ่ม ท่าทางของนางดูตกใจไม่น้อย
ทันใดนั้นทุกคนก็พลันได้ยินเสียงฝีเท้าม้าที่มุ่งมาจากทางด้านนอกเมือง แต่ครั้งนี้หาใช่ฝีเท้าม้าเพียง ไม่กี่ตัวไม่ ทว่ามันกลับเป็นเสียงฝีเท้าของม้าจำนวนนับไม่ถ้วน !
เมื่อภาพเริ่มปรากฏชัดขึ้น มันก็เอาทำเอาชาวเมืองโดยรอบเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างเห็นได้ชัด
ชายอ้วนที่หันมองไปตามต้นเสียงเองก็ถึงกับหน้าถอดสีเช่นกัน “จบสิ้น จบสิ้นแล้ว พวกทหารม้าเสื้อ เกราะดำมากันแล้ว พวกมันมาแล้ว…”
ด้วยความโมโห เขาหันไปชี้หน้าเยี่ยฉวนอย่างโกรธจัด “ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เพราะเจ้า การที่พวกชาวเมืองจะตายกันหมดก็เป็นเพราะเจ้า !”
ชาวเมืองที่รายล้อมโดยรอบเมื่อได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็พลันเปลี่ยนไป ชาวเมืองบางคนถึงกับหันมาจ้องมองเยี่ยฉวนด้วยความเกลียดชัง พวกเขาพากันกล่าวโทษชายหนุ่มที่แส่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของคนอื่นจนทำ ให้คนโดยรอบต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย !
ตอนนั้นเองที่เสียงของสตรีลึกลับดังก้องขึ้นในหัวของเยี่ยฉวน “เจ้าเป็นพวกรักความเป็นธรรม แต่พวก เขากลับตอบแทนเจ้าเช่นนี้ เจ้ารู้สึกเช่นไร ?”
เยี่ยฉวนกระซิบตอบ “ข้าทำไปด้วยความจริงใจหาใช่เสแสร้ง ! ทำไม่พวกเขาถึงกล่าวหาข้าเช่นนี้ สิ่งที่ทำลงไปล้วนเพื่อพวกเขาทั้งสิ้น !!”
เสียงของสตรีลึกลับเงียบไป
เยี่ยฉวนเดินตรงไปยังประตูเมืองอย่างช้า ๆ ในเวลานั้นเย่หลิงซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลก็ได้ร้องเรียก “ท่านพี่ !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์