บทที่ 64 สถานศึกษาฉางมู่ (ต้น)
เยี่ยฉวนเดินแบกน้องของเขาจนถึงจวนพัก และเมื่อมาถึงหอนอน เยี่ยหลิงก็ผล็อยหลับไปแล้ว
ตอนที่เยี่ยฉวนวางนางลงบนฟูกนอน เยี่ยหลิงพลันขดตัวสั่นเทาด้วยเกิดอาการหนาวสั่นจนสะท้านไป ทั้งร่าง
ทำเอาชายหนุ่มตกใจแทบสิ้นสติ เขาเร่งหาผ้าห่มมาคลุมให้หลายผืนแต่ไม่ได้ช่วยอะไร ด้วยนางยังคง หนาวสั่นอย่างรุนแรง
ภาพตรงหน้าก่อให้เกิดความวิตกกังวลสุดที่จะกล่าว ชายหนุ่มฉุกใจคิดบางอย่างขึ้นได้ เขาจึงเอื้อม หยิบหยกเพลิงสวรรค์ซึ่งคล้องอยู่ที่ลำคอของเยี่ยหลิง ก่อนจะต้องสะดุ้งสุดตัว ด้วยปรากฏแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ ปกคลุมบริเวณผิวหน้าของหยกเพลิงสวรรค์ !
“ผู้อาวุโส ?”
เยี่ยฉวนพยายามอีกครั้ง “ผู้อาวุโส นี่คือ…”
“ส่งหยกมาให้ข้า !”
เสียงสตรีลึกลับดังขึ้นทันที
เยี่ยฉวนไม่รอช้า ชายหนุ่มพลันส่งหยกเพลิงสวรรค์เข้าสู่หอคอยแห่งเรือนจำอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น เพียงไม่นาน เมื่อหยกเพลิงสวรรค์กลับคืนมาและปรากฏอยู่บนฝ่ามือ สภาพของสิ่งล้ำค่าจึงค่อยกลับสู่สภาพ ปกติ
ชายหนุ่มจึงรีบนำหยกแขวนคืนให้ผู้เป็นเจ้าของ จากนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเยี่ยหลิงอาการค่อยกระเตื้องขึ้นทีละน้อย
เมื่อเห็นเช่นนั้นเยี่ยฉวนค่อยรู้สึกโล่งอก
เสียงของสตรีลึกลับลอยมาอีก “จิตวิญญาณกล้าแข็งและพลังต้นกำเนิดของหยกสลายไปกว่าเก้าใน สิบแล้ว ไม่เกินพรุ่งนี้หยกจะมีสภาพไม่ต่างอะไรกับก้อนหิน เจ้าควรรีบคิดหาทางแก้ไขโดยเร็ว”
ก้อนหิน !
สีหน้าของเยี่ยฉวนบ่งบอกว่าเขาเข้าใจความนัยแห่งคำกล่าวเป็นอย่างดี ถ้าเมื่อใดที่หยกชิ้นนั้นสูญสิ้นพลัง น้องสาวของเขาจะสามารถทนทานต่อความหนาวเหน็บได้อย่างไร ?
ในเวลาไม่นานชายหนุ่มจึงลุกออกมาข้างนอก
บริเวณหน้าหอนอน เยี่ยฉวนยืนมองพระจันทร์เต็มดวงส่องแสงกระจ่างท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรี เขากำมือแน่น
พรุ่งนี้แล้วที่สถานศึกษาฉางมู่เริ่มเปิดให้สมัครเป็นศิษย์ใหม่ !
สถานศึกษาฉางมู่ !
สถานศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นเจียง เมื่อเขาเข้าเป็นศิษย์ของฉางมู่ก็จะสามารถส่งน้องสาวไปรักษา กับแพทย์ของที่นั่นได้ และเมื่อนั้นนางจะไม่ต้องทุกข์ทรมานกับอาการป่วยอีกต่อไป !
ในเวลานั้นลู่เสี่ยวหรานเดินมาถึงลานด้านหน้า
สีหน้าของเขาหม่นหมอง “สหายเยี่ย ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยสำหรับเหตุการณ์เมื่อเย็น”
เยี่ยฉวนรีบปฏิเสธ “ท่านไม่เกี่ยวข้องเลย ผู้อาวุโสลู่”
ผู้มีอาวุโสกว่าพูดเสียงเบาจนเกือบเป็นกระซิบ “ก่อนหน้านี้ข้ามององค์ชายใหญ่ในแง่ดีจนเกินไป แต่ ภายหลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ ข้าได้ประจักษ์แล้วว่าพระองค์หาได้เป็นดังที่ข้าเคยคิดไว้ไม่… อนิจจา คนใน ราชวงศ์รุ่นหลังที่จริงแล้วล้วนแต่ท่าดีทีเหลว !”
เยี่ยฉวนเกิดความลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโส ข้าเองต้องขออภัยในความเป็นคน ขวานผ่าซาก การได้ท่านอยู่เคียงข้างคอยช่วยเหลือเพียงเท่านี้ก็มากพอแล้ว และการที่ท่านทำเช่นนี้ มันก็อาจทำให้เบื้องบนเกิดความไม่พอใจได้ !”
ลู่เสี่ยวหรานยิ้มอย่างรับรู้ชะตากรรม “ข้ารู้แก่ใจดีในข้อนี้ แต่ถ้าข้าไม่เลือกที่จะอยู่ฝ่ายใดเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก็เกรงว่าอีกหน่อยจะทำได้ยาก !”
ชายหนุ่มส่ายหน้าด้วยคิดเห็นแตกต่าง “ด้วยความเคารพ ผู้อาวุโสลู่ เพียงท่านแสดงความจงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้ ข้าก็เชื่อว่าตลอดรัชสมัยของพระองค์ ตระกูลลู่ของท่านต้องปลอดภัยแน่”
ลู่เสี่ยวหรานพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนั้น ตระกูลลู่ไม่ประสงค์จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทอีกต่อไป”
ชายหนุ่มเห็นด้วยและไม่พูดอะไรอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์