บทที่ 78 รู้หรือไม่ว่าข้าชอบเจ้าตรงไหน ? (ปลาย)
โม่อวิ๋นฉีหัวเสียจวนเจียนระเบิด “เจ้าบอกว่าส่วนใหญ่คล้ายกันเช่นนั้นหรือ ? นี่มันแตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง !” ถ้ามิใช่ว่าฝีมือของเขาไม่อาจต่อกรกับชายชราได้ เห็นทีเขาคงลงไม้ลงมือไปแล้ว !
ในตอนนั้นเอง อาจารย์ใหญ่พลันกระดิกปลายนิ้ว ก่อนจะกดลงหนึ่งครั้ง ปรากฏม้วนกระดาษสีดำเก่า คร่ำหล่นลงแทบเท้าของโม่อวิ๋นฉี หลังเขาจ้องมองครั้งหนึ่ง พลันสายตาเปล่งประกายตื่นเต้นยินดีก็ได้ปรากฏ ออกมา !
ชายชราชี้มือขึ้นไปบนยอดเขา
ชายเจ้าสำอางค์แสดงท่าฮึดฮัดเล็กน้อย แต่เมื่อยกม้วนกระดาษในมือขึ้นพิจารณาจึงถอนใจเฮือก ก่อนที่เขาจะหันกลับ แล้วจึงเดินมุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดเขาไปอย่างไม่เต็มใจ
ทว่าขณะที่กำลังเดินผ่านเยี่ยฉวนและอันหลานซิ่ว เขาพลันหันขวับมามอง “เมื่อไรที่ข้าฝึกสำเร็จตำรา เล่มที่สองแล้ว เจ้ากับข้ามาสู้กันใหม่ !”
เยี่ยฉวนตอบรับคำท้าทาย “ได้ทุกเมื่อ !”
ต่อสู้งั้นหรือ ?
ของชอบอยู่แล้ว !!
อาจารย์ใหญ่ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลส่งเสียงปราม “หนุ่ม ๆ ที่นี่เมืองหลวง อยู่อย่างสงบดีกว่า !”
โม่อวิ๋นฉีทำเสียงฟึดฟัดไม่ชอบใจ “อยู่สงบเช่นนั้นหรือ ? ผู้เฒ่า คนมีวิทยายุทธ์สูงจะให้อยู่อย่างสงบ ได้อย่างไร ? ข้าไม่ได้อวดอ้าง แต่ทั่วเขตเมืองหลวงจะหาใครมีวิทยายุทธ์เลิศล้ำกว่าข้าได้กัน ?”
กล่าวพลางเหลือบตามองบนฟ้าอย่างหมายมาดบางสิ่ง “อันหลานซิ่ว นางที่ว่าเป็นยอดอัจฉริยะแห่ง แคว้นเจียงเช่นนั้นหรือ ? เมื่อก่อนใช่ ทว่าตอนนี้ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ใครคืออันหลานซิ่ว ? เจอกับนางเมื่อไรข้าจะ กำราบเสียให้อยู่หมัด !”
เยี่ยฉวนที่ได้ยินดังนั้นพลันหน้าง้ำบอกบุญไม่รับ
ด้านอาจารย์ใหญ่จี้ถึงกับส่ายหน้า “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นคนที่จงใจเดินเข้าสู่หนทางแห่งความ ฉิบหาย !”
โม่อวิ๋นฉีกำลังอ้าปากตั้งท่าจะพูดต่อไป ทันใดนั้นลำแสงสีขาวพุ่งวาบมาทางเบื้องหลัง ชายหนุ่มถึงกับหน้าถอดสี หันขวับไปด้านหลังพร้อมยกไม้เท้าเหล็กฟาดลงไปอย่างรุนแรง
เปรี้ยง !
สิ้นเสียงระเบิด ร่างทั้งร่างของโม่อวิ๋นฉีปลิวกระเด็นไปทางเบื้องหลัง เสี้ยววินาทีถัดมาพื้นพสุธาไหวโยกรุนแรง ก่อนให้เกิดภาพที่ชวนประหลาดยิ่งนัก
ร่างคนร่วงลงกระแทกกับพื้นดินขึ้นลงไปมา เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังออกมาไม่ขาด สาย…
เป็นอยู่อย่านั้นราว 1 ก้านธูป ในที่สุดก็หยุดสนิท
โม่อวิ๋นฉีผู้ปากกล้าก่อนหน้านี้ ในเวลานี้เขากลับนอนกองอยู่กับพื้นดินน่วมราวกับโคลนเลน ใบหน้า บวมโนปูดโปนทั่วไป
อันหลานซิ่วละสายตาจากภาพนั้น หันไปมองเยี่ยฉวน “เดินเล่นกับข้าได้หรือไม่ ?”
เยี่ยฉวนยิ้มรับ “ย่อมได้ !”
ทั้งสองจึงหันหลังออกไปตามเส้นทางถัดไป
โม่อวิ๋นฉีร้องตะโกนไล่หลัง “ช้า ช้าก่อน หนี้แค้นครั้งนี้ ข้า…”
“นางคืออันหลานซิ่ว !” อาจารย์ใหญ่จี้ผู้ชรากล่าวขึ้น โดยไม่มีใครทันสังเกต แต่ว่าตอนนี้ชายแก่เข้ามา ยืนอยู่ข้างโม่อวิ๋นฉีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจ้านั่นหุบปากเงียบทันที พลันทำท่าคอเอียงตก แน่นิ่งไม่ไหวติง
อาจารย์ใหญ่ที่เห็นท่าทีเช่นนั้นจึงใช้ปลายเท้าสะกิดสีข้าง “ไม่ต้องทำเป็นแกล้งตาย ! ลุกขึ้นมาเห่าหอนอีกซิ ใครคืออันหลานซิ่ว ใครจะกำราบให้อยู่หมัด !”
ทว่าโม่อวิ๋นฉีไม่เคลื่อนไหวอีกแล้ว
ชายชราคร้านจะพูดด้วยต่อไป เขาคว้าข้อเท้าของคนนอนนิ่งไว้ข้างหนึ่งได้ ก่อนจะลากเดินอีกฝ่ายกลับขึ้นเขาไป
ที่เส้นทางแสนคับแคบ เยี่ยฉวนเดินเคียงไปกับอันหลานซิ่ว เสียงพูดเบาจนเกือบเป็นกระซิบของหญิง สาวดังขึ้น “ข้าไม่คิดว่าท่านจะเข้าเป็นศิษย์ของสถานศึกษาฉางหลาน !”
เยี่ยฉวนนิ่งเงียบ
ทั้งสองไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะมาเป็นศิษย์ของสถานศึกษาฉางหลาน ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ มากมาย กล่าวได้ว่าทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง !
หญิงสาวชะงักฝีเท้า “วันนี้ข้าจะไปจากแคว้นเจียง ! จึงอยากมาลาท่าน !”
“ออกจากแคว้นเจียง ?!”
ชายหนุ่มหันมามองใบหน้างดงาม ก่อนจะพบเข้ากับสายตาที่มองตรงมาอย่างลึกล้ำ “ข้าเป็นห่วงท่าน !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์