บทที่ 90 หมัดทลายภูผา! (ปลาย)
นางเงยหน้าขึ้นทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท “มีชายผู้หนึ่ง กล้าออกไปเผชิญหน้ากับหนึ่งพันทหารม้าเกราะดำของแคว้นถังเพียงลำพังที่เมืองชายแดน”
เยี่ยฉวนนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำ
สตรีชุดดำคว้ามือข้างขวาของชายหนุ่มแล้ววางเหรียญทองคำลงบนฝ่ามือ “ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษา ฉางหลานหรือสถานศึกษาฉางมู่ แต่ความจริงคือผู้คนของสถานศึกษาทั้งสองมาจากแคว้นเจียง น่าสงสารที่ทุกคนหลงลืมความจริงข้อนี้ ผู้ที่มีความสามารถ ทั้งยังมีใจคิดถึงแคว้นและประโยชน์ของแคว้นมาก่อน คนผู้นั้น ย่อมสมควรได้ชื่อว่าผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้น เจ้าสมควรได้รับตำแหน่งนี้ ตำแหน่งนี้ไร้ข้อจำกัดสำหรับเจ้า เจ้า สามารถขอความช่วยเหลือจากทุกเขตปกครองในแผ่นดินแคว้นนี้ได้”
หลังจากนั้น บุคคลลึกลับพลันปรากฏขึ้นเบื้องหลังสตรีชุดดำ คนผู้นั้นเข้ามารับนางกลับออกไป
ทันทีที่บุคคลลึกลับและสตรีชุดดำลงมาถึงเชิงเขา ทั้งคู่กลับต้องหยุดกะทันหัน เป็นเพราะบนโขดหินซึ่งอยู่ไม่ไกลนักได้ปรากฏร่างของชายแก่ขี้เมานอนแผ่อยู่
ผู้เป็นสตรีก้มศีรษะน้อย ๆ แสดงการทักทาย “ท่านจี้”
อาจารย์ใหญ่จี้ที่ว่ายังคงนอนนิ่งไม่พูดจา
สตรีชุดดำจำต้องพูดต่อไปฝ่ายเดียว “ถึงแม้ว่าฮ่องเต้มีพระประสงค์จะใช้เขา แต่มันก็หาได้มีอันตราย แต่อย่างใด”
ท่านจี้พลิกตัวลงจากก้อนหิน “เรื่องการแต่งตั้งเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขออย่าเพิ่งแพร่งพราย เขาไม่ควรเป็นที่ สนใจมากเกินไป”
สตรีชุดดำก้มตัวลง พลางตอบว่า “รับทราบ ขอบคุณท่านมาก !”
บุคคลลึกลับเข็นรถพานางกลับไป
อาจารย์ใหญ่ผู้นั้นดูเหมือนจะหลับไป ชายแก่ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
ถึงเวลาสองยามตรง
เยี่ยฉวน ไป๋เจ๋อ และโม่อวิ๋นฉี พวกเขาพากันมาที่ด้านหลังภูเขา ที่นั่นมีน้ำตกที่สูงราว 10 จั้งอยู่ ดังนั้นน้ำที่ไหลลงมาจึงมีความรุนแรงมากทีเดียว
ณ จุดนั้นปรากฏอาจารย์ใหญ่จี้และจี้อันซื่อ ยืนรออยู่พร้อมหน้าก่อนแล้ว
โม่อวิ๋นฉียิ้มกริ่มทันที “อาจารย์จี้ ท่านจะถ่ายทอดทักษะยุทธ์ที่ไร้ผู้เทียมทายแก่พวกเรา ใช่ไหมขอรับ ?”
ในตอนนั้นเอง อาจารย์ใหญ่จี้ผิวปากขึ้นครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นสุนัขป่าสีดำท่าทางดุร้ายพลันกระโจนออก มาจากป่าในระยะไกล
ความสูงของมันคะเนได้ราว 20 ศอก เส้นขนตามร่างกายราวกับคมกระบี่ ทั้งยังมีนัยน์ตาที่ไร้ความรู้สึกและดุร้าย !
“สุนัขป่าปีศาจ !”
ไป๋เจ๋อมีความตื่นตัวอย่างมาก “ขั้นทะยานสวรรค์ !”
ชายชราไม่พูดจา ชี้นิ้วมายังโม่อวิ๋นฉีผู้กำลังตกตะลึงซึ่งร้องถามกลับมาว่า “อาจารย์ ท่านหมายความ ว่าอย่างไร ?”
ทว่าขณะที่มัวแต่ร้องถามนั้น สุนัขป่าปีศาจตนนั้นก็ได้พุ่งทะยานเข้าใส่โม่อวิ๋นฉีอย่างรวดเร็ว แม้แต่เยี่ยฉวนเองยังมองไม่ทัน เห็นเพียงเงาวูบวาบราวกับภูตผี
“บ้าฉิบ… อาจารย์ ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือไงกัน ?!”
ชายหนุ่มหันหลังวิ่งออกไปอย่างสุดฝีเท้า ความเร็วของเขาเทียบแล้วไม่ด้อยกว่าความเร็วของปีศาจ สุนัขป่าซึ่งทะยานเข้าหา ส่วนความแข็งแกร่งของร่างกาย โม่อวิ๋นฉีนับว่าไม่เป็นรอง แต่ก็ยังไม่อาจเทียบชั้นกับ เจ้าหมาปีศาจตนนี้ได้
เห็นเช่นนั้น ชายชราจึงหันมาทางไป๋เจ๋อเป็นคนถัดไป เขายืดอกสูดหายใจ แววตาปราศจากความหวาดกลัวใด ๆ อย่างสิ้นเชิง ด้วยตนเองไม่เคยนึกกลัวสัตว์ประหลาด ! เมื่อครั้งที่ยังอาศัยอยู่บนเทือกเขาหมาง ทุกวันแทบจะเรียกได้ว่าต้องเผชิญหน้าและต่อสู้กับสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว !
โดยไม่ทันตั้งตัว อาจารย์ใหญ่ตรงเข้ามาจับตัวเขาไว้แน่น สัญชาตญาณต่อสู้ทำให้ชายหนุ่มคิดต้านทานแรงยึดเหนี่ยว แต่แล้วเขากลับพบว่าตนเองนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วงในการต้านแรง ทั้งยังรู้สึกตกใจเมื่อร่างบึกบึนของตนแทบไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์