สาริศาก็เดาออกว่าพชิราไม่มีทางที่เชื่อตัวเองได้ง่าย ๆ จึงได้รีบอธิบายให้กับเธอ “ฉันไม่ได้โกหกเธอ กันยานั้นเป็นแม่แท้ ๆ ของเธอจริง ๆ ตอนนี้เธอเป็นมะเร็ง เธอเป็นญาติทางสายเลือดของเขาเพียงคนเดียว มีเพียงเธอเท่านั้นที่ไขกระดูกมีความเป็นไปได้ที่จะเข้ากับของเขาได้”
พชิราฟังไม่เข้าใจว่าสาริศากำลังพูดเรื่องอะไร และคิดว่าเธอนั้นถูกตัวเองทำให้โมโหจนเสียสติ
“บ้า” เหลือบตามองสาริศาแวบหนึ่ง แล้วพชิราก็ไม่อยากจะสนใจเธออีก ทิ้งประโยคนี้แล้วหันหลังจะขึ้นไปบนตึก
“เดี๋ยวก่อน เธอยังไปไม่ได้!” สาริศารีบเดินหน้ามาขวางทางของพชิรา “ตอนที่เธอเพิ่งเกิดเคยถูกลักพาตัวใช่ไหม ตอนนั้นแม่ของฉันเป็นคนช่วยไว้ถูกต้องไหม”
“เธอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร” พชิรามองสาริศาด้วยความสงสัย
“ชัชวาลเป็นคนบอกฉันเอง ต่อมาฉันก็ขอให้แม่ของฉันยืนยันเรื่องนี้ แม่ของฉันบอกว่าตอนนั้นเด็กสาวที่แม่ฉันเก็บได้นั้นไม่ใช่เธอเลย ต่อมาเมื่อเห็นทีวีรายงานว่าลูกสาวของตระกูลนิธิธราสกุลหายตัวไป เธอที่เพื่อต้องการให้ลูกของตัวเองมีชีวิตที่ดี จึงได้ส่งลูกของตัวเองไปที่ตระกูลนิธิธราสกุล แล้วเก็บลูกสาวตัวจริงของตระกูลนิธิธราสกุลไว้กับตัวแล้วเลี้ยงดู”
สาริศาเล่าเรื่องจริงในตอนนั้นสั้น ๆ ให้กับพชิรา
เมื่อได้ยินสาริศาพูดเช่นนี้ พชิราก็รู้สึกอยากหัวเราะ “เพราะฉะนั้นความหมายของเธอคือ เธอต่างหากที่เป็นลูกสาวตัวจริงของตระกูลนิธิธราสกุล ส่วนฉันนั้นเป็นลูกสาวของกันยาอย่างนั้นเหรอ”
“อืม” สาริศาพยักหน้าอย่างจริงจัง “แม่เป็นคนบอกเรื่องนี้กับฉันเอง เธอจะต้องเชื่อฉันนะ!”
“ทำไมฉันต้องเชื่อเธอ” พชิราตะคอกใส่สาริศา “สาริศา ก่อนหน้านี้ฉันประเมินเธอต่ำไปจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าเธอจะสามารถแต่งเรื่องแบบนี้ได้ เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอเหรอ”
“เธอสามารถไปโรงพยาบาลหาคำตอบจากแม่ของฉัน เมื่อถึงเวลานั้นเธอก็จะรู้เองว่าสิ่งที่ฉันพูดนนั้นเป็นความจริงหรือไม่” เห็นพชิราที่ยังไม่ยอมเชื่อ สาริศาก็เกิดอาการลนลาน คว้าข้อศอกของเธอเอาไว้ “ไป พวกเราไปกันตอนนี้เลย!”
“เธอก็บอกเองว่านั่นเป็นแม่ของเธอ ถ้าพวกเธอสองแม่ลูกรวมหัวกันมาโกหกฉันล่ะ” สาริศาสะบัดมือของสาริศาทิ้ง “สาริศา คำพูดที่เธอพูดออกมาไม่รู้ว่ามันตลกเหรอ”
“เธอไม่เชื่อฉันก็ไม่เป็นไร พวกเราไปตรวจดีเอ็นเอกัน ผลตรวจจากทางโรงพยาบาลคงไม่โกหกหรอกมั้ง”
เห็นสีหน้าของสาริศาที่ดูจริงจังไม่เหมือนกับเสแสร้ง อีกทั้งยังพูดอย่างมั่นใจ จิตใจของสาริศาก็เริ่มลนลาน หรือว่าตัวเองจะไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลนิธิธราสกุลจริง ๆ
เป็นไปไม่ได้ ๆ พชิราส่ายหน้ารัว ๆ ในใจ ตัวเองจะรนไม่ได้ ทั้งหมดนี้จะต้องเป็นสาริศาที่โกหกตัวเอง ตัวเองใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตระกูลนิธิธราสกุลหลายปีขนาดนี้ จะไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลนิธิธราสกุลได้อย่างไร
“สาริศา อย่าคิดนะว่าเธอพูดเช่นนี้แล้วฉันจะเชื่อเธอ” กลับคืนสู่โหมดท่าทางดุดัน พชิราผลักสาริศาแล้วกล่าว “บอกมา ทำไมเธอต้องพูดเช่นนี้ เธอมีจุดประสงค์อะไร!”
สาริศาถูกเธอผลักจนถึงกับเซ เกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น แต่ตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องเหล่านี้
“ฉันไม่มีจุดประสงค์อะไรทั้งนั้น ตอนนี้แม่แท้ ๆ ของเธอเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ต้องการไขกระดูกที่เข้ากันถึงจะทำการผ่าตัดได้ และเธอก็เป็นเพียงคนเดียวที่มีสายเลือดเดียวกันกับเธอ มีเพียงเธอคนเดียวที่สามารถช่วยเหลือเธอได้”
“ออ นี่เธอกำลังหรอกให้ฉันช่วยแม่เธอเหรอ” ท่าทางพชิราที่ดูเหมือนเข้าใจทุกอย่างในบัดดล ในใจก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจโล่งอก ว่าแล้วตัวเองจะต้องถูกสาริศาหลอกอย่างแน่นอน
“ใช่ ฉันต้องการให้เธอช่วยแม่ของฉัน แต่ว่าฉันไม่ได้หลอกเธออย่างแน่นอน!” เห็นพชิราที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อคำพูดของตัวเอง สาริศาจึงครุ่นคิดหาวิธีอื่นที่จะพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้โกหก เพื่อจะทำให้พชิราเชื่อคำพูดของเธอ
ใช่ ปาน! สาริศานึกขึ้นได้ ตอนนั้นชัชวาลบอกว่าเป็นเพราะปานนี้ ตระกูลนิธิธราสกุลถึงได้ยอมรับว่าเด็กที่กันยาอุ้มกลับมาก็คือลูกของตระกูลนิธิธราสกุล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...