ทันทีที่ได้ยินคำพูดของบุรินทร์พูด พชิราถึงกับช็อก บุรินทร์ต้องการจะพูดอะไรกันแน่! เรื่องในตอนนั้นเขาก็มีส่วนนะ
“เรื่องที่เกิดขึ้นนั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับริศานั้นช่างน่าเศร้าจริงๆ พวกเราอย่าพูดถึงมันเลย ทำเป็นว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเถอะ”
กลัวบุรินทร์พูดอะไรที่ไม่ควรพูด พชิรารีบชิงตัดบท แต่ด้วยความตื่นตระหนกของเธอทำให้ธนพัตเกิดความสงสัย
เป็นบุรินทร์ที่ข่มขู่ตัวเองด้วยวิดีโอที่สาริศาถูกกระทำมิดีมิร้าย หากไม่มีเรื่องอะไร บุรินทร์จะไม่น่าจะพูดถึงเรื่องนี้อีกตลอดชีวิต
พอพชิราได้ยินเรื่องนี้ ปฏิกิริยาก็ดูรุนแรง เป็นไปได้ไหมว่าตอนนั้นมีอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้
“เรื่องตอนนั้นเป็นยังไง” ธนพัตจ้องไปที่บุรินทร์แล้วถาม ดวงตาคมกริบ จนทำให้บุรินทร์รู้สึกเหมือนปิดบังอะไรไว้ไม่ได้แล้ว
“ธนพัต เรื่องตอนนั้นผ่านไปแล้วนะ ไม่ต้องรื้อฟื้นแล้ว” พชิราเข็นรถเข็นไปที่ธนพัตแล้วฝืนยิ้มบนใบหน้าสวย “ริศาคงไม่อยากให้เราพูดถึงในตอนนั้นนะ”
แต่ธนพัตไม่ได้สนใจพชิรา เขาเอาแต่จ้องบุรินทร์เพื่อรอคำพูดต่อไปของเขา ยังไงวันนี้เขาก็จะมาหาเขาเพื่อพูดเรื่องนี้ เขาต้องไม่พูดแค่ครึ่งๆกลางๆแน่
ยังไงก็พูดไปแล้ว ไม่มีทางถอยกลับแล้วล่ะ บุรินทร์หันไปมองพชิรา แล้วพูดอย่างหนักแน่น "พชิรากับฉันเองแหละที่ลักพาตัวสาริศา คลิปที่ฉันให้นายดูตอนนั้นก็เป็นคลิปที่เธอถ่ายเองในที่เกิดเหตุ!"
"คุณพูดอะไร ไร้สาระ!” พชิราตะคอกใส่บุรินทร์ หน้าซีดขาวขึ้น แล้วมองธนพัตด้วยความตื่นตระหนก พยายามอธิบาย “ธนพัตอย่าไปเชื่อที่เขาพูด เขาจงใจใส่ร้ายฉัน เรื่องที่สาริศาถูกลักพาตัวไปไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยนะ คุณอย่าไปเชื่อในสิ่งที่เขาพูด"
"หุบปาก" ไม่มีการตะโกน ไม่ได้ใส่อารมณ์ ธนพัตมองพชิราแล้วพูดคำนั้นออกมา แล้วก็มองไปที่บุรินทร์ " พูดต่อ"
เสียงนั้นฟังดูสงบ แต่ร่างกายที่สั่นและหมัดที่กำแน่นเผยให้เห็นความโกรธในใจของเขา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
“ในตอนนั้นพชิราต้องการทำให้นายแตกหักกับสาริศา เธอจึงติดต่อฉันมาและวางแผนคดีลักพาตัวด้วยกัน เธอสัญญากับฉันด้วยว่าเธอจะหาวิธีช่วยให้ฉันได้หุ้นของนายในกีรติเมธานนท์กรุ๊ป"
“คุณมันตอแหล ฉันไม่เคยพูดแบบนี้!” พชิราเสียท่าเต็มที่ ทำได้เพียงตะโกนโต้ตอบ ขยิบตาให้บุรินทร์เป็นสัญญาณให้เขาหยุดพูด
เมื่อนึกถึงการขู่ที่สาริศาทำกับเขาเมื่อวานนี้ บุรินทร์ทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่เห็น
“ฉันตกลงแล้วช่วยลักพาตัวสาริศาไปที่โกดัง พชิราเอาผู้ชายสี่คนจากที่ไหนก็ไม่รู้ สั่งให้พวกเขาทำมิดีมิร้ายสาริศา แต่แล้วชัชวาลก็มาช่วยเธอได้ทันเวลา พชิราถึงทำไม่สำเร็จ”
“ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้น อย่ามาพูดเหลวไหล!” พูดจบพิชราก็กำลังจะไปขวางหน้าบุรินทร์เพื่อหยุดเขา แต่ธนพัตจับวีลแชร์ของเธอไว้แน่น
“พูด ต่อ ไป” คำสามพยางค์ออกมาจากปากธนพัตทีละคำ ในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับว่าในใจของกำลังจะมีภูเขาไฟปะทุ แทบจะอดกลั้นไว้ไม่ได้แล้ว
ถูกน้ำเสียงที่เหมือนจะกินคนได้ของธนพัตทำให้ตกใจ บุรินทร์กลืนน้ำลายแล้วพูดต่อว่า “ต่อมาเพื่อทำลายความสัมพันธ์ของนายกับสาริศา พชิราจงใจหลอกนาย พยายามทำให้นายคิดว่าสาริศาถูกข่มขืนแล้ว แล้วเธอก็ติดสินบนหมอที่ตรวจร่างกายสาริศาตอนนั้นด้วย ให้มาหลอกนาย”
“เธอบอกฉันทีหลังว่าตราบใดที่นายเชื่อว่าสาริศาถูกข่มขืนมาแล้ว นายก็จะมีปมที่คลายไม่ได้ในใจ พอเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่ต้องทำอะไร พวกนายก็จะเลิกกันเองด้วยความไม่เชื่อใจกัน”
บุรินทร์บอกกับธนพัตอย่างละเอียดทุกคำที่พชิราพูดกับเขา เพื่อลดความโกรธของเขาที่มาต่อตัวเอง
“ไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนั้นนะ!” พชิราหันกลับมาจับธนพัต
“ธนพัต คุณอย่าเชื่อเขา เขาพูดเหลวไหล ฉันทำอย่างนั้นได้ยังไง ทั้งหมดเป็นเรื่องไร้สาระ คุณก็รู้หนิว่าความสัมพันธ์ของคุณกับเขาไม่ดีกัน ทั้งหมดนี้เขาสร้างเรื่องมาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา คุณอย่าเชื่อเขานะ เขากำลังโกหกคุณ!”
ไม่ได้ผลักพชิราออก ธนพัตจ้องเธอแบบนั้นราวกับจะมองทะลุวิญญาณของเธอ
นี่เป็นคนที่เขาชอบตอนเด็กๆ จริงหรือเนี่ย นี่หรือคือคนที่เขาดูแลมาตลอดห้าปีด้วยความรู้สึกผิดหรือ เธอทำเรื่องแบบนั้นกับสาริศาได้ไง!
“ฉันพาหมอในตอนนั้นมาด้วย รออยู่ข้างนอก ฉันไม่ได้พูดไร้สาระ เรียกเขามาคุยก็รู้แล้ว”
เพราะกลัวว่าธนพัตจะไม่เชื่อคำพูดของเขา เมื่อวานบุรินทร์จึงไปโรงพยาบาลแล้วหาหมอตอนนั้นมา ตอนแรกเขาก็ปฏิเสธที่จะพูดเรื่องในตอนนั้น แต่บุรินทร์ขู่ว่าถ้าเขาไม่มา เขาจะเปิดเผยต่อสาธารณะว่าเขารับสินบนหลอกครอบครัวของผู้ป่วยในตอนนั้นทำให้เขาทำงานในโรงพยาบาลไม่ได้อีก
ด้วยความสิ้นหวังและหวาดกลัว เขาทำได้เพียงตกลงกับบุรินทร์
พอได้ยินว่าบุรินทร์พาหมอในตอนนั้นมาด้วย พชิราตื่นตระหนกแล้วร้องไห้ บอกธนพัตว่า "ไม่รู้จักหมอคนไหนเลยนะ เขาต้องติดสินบนให้มาใส่ร้ายฉันแน่ ธนพัตนายต้องไม่โดนเขาหลอกนะ นี่มันเป็นกลอุบายของเขาหมดเลย!”
เขาดึงพชิราออกอย่างแรงจากมือที่คว้าอยู่ตรงแขนของเขา เสียงของธนพัตเหมือนน้ำแข็ง “ให้หมอเข้ามา ฉันอยากได้ยินเขาพูดเอง”
ได้ยินธนพัตพูดแบบนั้น บุรินทร์ก็หยิบมือถือออกมากดหมายเลข จากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนมีพุงก็เคาะประตูออฟฟิศ
“คุณพูดให้ชัดเลย ตอนนั้นภรรยาของผมได้โดนกระทำชำเราหรือเปล่า” เขากำหมัดและมองไปยังชายตรงหน้า สายตาของธนพัตแทบจะทำให้เขาติดไฟได้
แม้น้ำหนักจะขึ้นมากแต่ก็ยังเห็นได้ในพริบตาว่านี่ก็คือหมอที่เคยบอกเขาว่าสาริศาถูกคนกระทำชำเรา
“ไม่ ไม่ ภรรยาคุณไม่ได้โดนกระทำ” ชายคนนั้นรีบปฏิเสธ นัยน์ตาของธนพัตตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด พระเจ้า ไม่ได้เจอเขาตั้งหลายปี ออร่าของชายคนนี้ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก ขาของเขาอ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่อยู่
เขาเอื้อมมือไปเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก ชายคนนั้นชี้ไปที่พชิราแล้วพูดว่า “นี่ไงผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นคนบอกให้ผมโกหกคุณ เธอให้เงินผมมาก้อนหนึ่ง ตอนนั้นผมโลภเลยตกลง ช่วยปล่อยผมไปนะครับ ผมมีทั้งพ่อแม่แล้วก็ลูกต้องดูแล ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ทำงานนี้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ