หลังจากออกจาบริษัทแล้ว ธนพัตก็โทรหานักสืบเอกชนคนหนึ่งที่เขาสนิทสนมคุ้นเคย ให้เขาช่วยสืบหน่อยว่าตกลงเกิดเรื่องอะไรกับคนรอบข้างบุรินทร์กันแน่
“แล้วก็ คุณช่วยผมรวบรวมของบางอย่าง เกี่ยวกับ……”
หลังจากวางสายแล้ว สีหน้าธนพัตก็ฉายแววโหดเหี้ยมดุดัน ครั้งนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยบุรินทร์ไปง่ายๆอีกเด็ดขาด ถึงเวลาที่เขาควรจะชดใช้ในสิ่งที่ทำกับตนเองแล้ว
ขับรถออกจากที่จอดรถ ธนพัตขับไปอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่รู้ว่าตนเองควรจะไปที่ไหน
ขับผ่านร้านค้าร้านแล้วร้านเล่า ทุกครั้งที่ขับผ่านร้านค้าที่คุ้นเคย ธนพัตจะขับช้ามากๆ ความทรงจำเกี่ยวกับสาริศาก็จะเด้งขึ้นมา จะหลบเลี่ยงอย่างไรก็ไม่เป็นผล
เมื่อก่อนสาริศาชอบกินซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานร้านนี้มากที่สุด เมื่อก่อนเธอเคยบอกว่าชอบสไตล์การตกแต่งของร้านนี้มาก ให้ความรู้สึกย้อนยุคไปเมื่อปี80 เขายังรู้ด้วยว่าแถวนี้มีตลาดสดแห่งหนึ่ง แม้ฝีมือการทำอาหารของทั้งสองคนจะไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่เขาจำได้พวกเขากินอาหารมื้อนั้นอย่างมีความสุขมาก……
แล้วก็ร้านนี้ ธนพัตจอดรถ ร้านขายของเด็กอุ่นไอรัก
ถึงตอนนี้เขายังจำได้แม่น ครั้งแรกตอนที่เข้าใจผิดคิดว่าสาริศาท้อง พวกเขาสองคนต่างก็ดีใจมาก ตอนนั้นพวกเขามาซื้อของที่ร้านนี้ด้วยกัน
เขากับสาริศาชอบรองเท้าเด็กคู่เดียวกัน แต่เพราะไม่รู้ว่าเด็กในท้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ดังนั้นพวกเขาจึงทะเลาะกันว่าจะเอาสีฟ้าหรือสีชมพูดี
ตอนนั้นเขาแก้ปัญหานี้ได้ยังไงกันนะ คิดมาถึงตรงนี้ มุมปากธนพัตโค้งเป็นรอยยิ้ม เขาซื้อทั้งหมดทั้งสีชมพูและสีฟ้า
ข้าวของเครื่องใช้เด็กที่ถูกใจทุกอย่างในวันนั้นเขาซื้อมาสองชุด สาริศายิ้มพลางดุเขาว่าสิ้นเปลือง เขาแย้งว่าตนเองไม่ได้สิ้นเปลือง ใครจะไปรู้ว่าลูกในท้องจะเป็นหญิงหรือชาย เขาก็เตรียมเอาไว้พร้อมเลย
หลังจากที่รู้ว่าสาริศาไม่ได้ตั้งท้อง เขาก็เอาเสื้อผ้ารองเท้าเด็กที่ซื้อในวันนั้นเก็บเข้าห้องเก็บของ เพราะไม่อยากให้เธอเห็นกลัวว่าเธอจะเสียใจ
แต่ต่อมาเมื่อพวกเขามีลูกด้วยกันจริงๆ พวกเขามีลูกที่เป็นของตัวเองจริงๆ เขากลับไม่มีโอกาสได้เลือกข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของลูกพวกเขาพร้อมกับสาริศาแล้ว
หลับตาลง ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้นวดคลึงหางตาตัวเองแรงๆครู่หนึ่ง ธนพัตกะพริบเอาความเจ็บปวดที่อยู่ในดวงตากลับคืนไปตอนแรกที่เธอเห็นตนเองยืนกรานจะเอาเด็กคนนี้ออกให้ได้แบบนั้น จะรู้สึกท้อแท้ไร้ที่พึ่งมากแค่ไหน
ตอนนั้นกันยายังตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวด้วย คนที่กตัญญูอย่างเธอนั้น ต้องไม่บอกเรื่องนี้กับแม่แน่นอน ต้องแบกรับเรื่องเหล่านี้ไว้คนเดียว เธอจะเหนื่อยล้า ทุกข์ทรมานมากแค่ไหน
ธนพัตไม่อาจจินตนาการได้ว่าสาริศาผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างไร กำปั้นหนึ่งทุบลงบนพวงมาลัยรถ ในใจเขาเต็มไปด้วยความสำนึกผิด ทำไม ทำไมตอนนั้นตนเองถึงไม่เชื่อเธอ แต่เลือกที่จะเชื่อพชิราผู้หญิงคนนั้น บนโลกใบนี้จะมีคนที่โง่ขนาดนั้นเหมือนเขาได้ยังไงกัน
“ครืดๆๆ” เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น หลังจากอารมณ์ของตนเองสงบลงธนพัตจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา คือชรัณ
“มีเรื่องอะไร”
“คุณชายครับ คุณพชิราไปแล้วครับ” ชรัณที่อยู่ปลายสายเอ่ยขึ้น
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากวางสายแล้ว ธนพัตก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่บริษัท เรื่องบางเรื่อง เขาพยายามทำให้เสร็จโดยเร็ว ไม่เช่นนั้น เขาจะมีหน้าไปพบพับสาริศาได้อย่างไร
หลังจากเข้าไปในห้องทำงานแล้ว ธนพัตก็เห็นว่าชรัณกำลังรอตนเองอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...