สาริศาชะงักไป
ธนพัตเป็นคนทำเหรอ
ธนพัตกับบุรินทร์เป็นพี่น้องแท้ๆ หรือว่าเพื่อแย่งชิงมรดก แต่ก็ไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้ ชื่อเสียงของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปก็จะพลอยเสื่อมเสียไปด้วย ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับธนพัตเลย
“ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะ ฉันยังมีธุระอีก แค่นี้ก่อนนะ มีเวลาจะเลี้ยงข้าวคุณ” เมื่อได้ยินคำพูดของออสติน สาริศาก็พอเข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร จึงขอวางสายก่อน
หลายวันก่อนที่ตนข่มขู่บุรินทร์ ให้เขาไปบอกธนพัตว่าตอนนั้นเธอถูกใส่ร้ายป้ายสี ตอนนี้ดูแล้ว ธนพัตจะรู้ความจริงแล้ว และรู้ว่าลูกในท้องของเธอเป็นลูกของเขาจริงแท้แน่นอน
ตอนนี้ที่เขาทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการแก้แค้นให้ตนเองกับลูกเหรอ
เมื่อคิดเช่นนี้ ความโกรธแค้นที่สาริศามีต่อธนพัตก็ค่อยๆลดลงบ้างเล็กน้อย ผู้ชายคนนั้น ก็ยังถือว่าไม่ได้โหดเหี้ยมไร้ความเมตตาจนเกินไป ไม่เสียแรงที่ตนเองเคยรักเขาด้วยความจริงใจ
ตอนนี้บุรินทร์ถูกจับตัว เรื่องเลวร้ายที่เขาทำก็ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน สาริศาเกิดความรู้สึกอยากแก้แค้นบางอย่าง แต่หลังจากที่เกิดความรู้สึกโล่งใจแล้ เธอก็รู้สึกผิดต่อคนผู้หนึ่งอีก ธีภพ
ธีภพกับบุรินทร์แตกต่างกัน เขามีความจริงใจกับตนเอง แล้วก็ดีต่อเธอด้วยความจริงใจ เพื่อไม่ให้ตนเองกับธนพัตเข้าใจผิดกัน เขาถึงกับยอมบอกตนเองเรื่องที่บุรินทร์กับพชิราติดต่อกัน วางแผนใส่ร้ายเธอด้วยปากเขาเอง
แต่พอวันนี้บุรินทร์ถูกจับไปที่สถานีตำรวจ เขาจากที่เป็นทายาทรุ่นต่อไปที่สืบทอดกิจการของครอบครัวที่ร่ำรวย จู่ๆก็กลายเป็นลูกขายของนักโทษ ความรู้สึกแบบนี้คงยากจะรับไหวแน่นอน
ภายใต้การขับเคลื่อนของความรู้สึกผิด สาริศาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาธีภพ นัดเขาออกมาพบ
“งั้นพวกเราเจอกันที่มหาวิทยาลัยแล้วกัน ผมอยากกลับไปดูกับคุณหน่อย” น้ำเสียงธีภพฟังดูไม่สดใส สาริศาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็รับปาก
ตอนที่รีบมาถึงมหาวิทยาลัย สาริศาเห็นธีภพรอตนเองอยูาที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย วินาทีนี้เธอรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปตอนมที่ตนเองอยู่มหาวิทยาลัย
ในอดีตก็เป็นแบบนี้ เวลากลับมามหาวิทยาลัยทุกครั้ง เธอมักจะเห็นธีภพรอตนเองอยู่ที่ประตูมหาวิทยาลัย หลังจากที่เขาเห็นตนเอง ธีภพก็จะวิ่งมาตรงหน้ารับกระเป๋าในมือตนเอง……
แต่วันนี้ธีภพกลับไม่ได้มองเห็นการมาถึงของเธอ แต่ก้มหน้าก้มตาไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ดูแล้วเหนื่อยล้าอ่อนเพลียมากเป็นพิเศษ ไม่ได้ชีวิตชีวาแบบในอดีตน่าจะเพราะเครียดเรื่องของบุรินทร์สินะ
น่าสงสารเล็กน้อย เดินไปข้างๆธีภพอย่างช้าๆ สาริศารู้สึกเหมือนได้เดินผ่านช่วงวัยรุ่นของตนเอง
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ รอนานหรือยัง” เธอถามเบาๆ
ได้ยินเสียงสาริศาดังขึ้นมา ธีภพจึงได้เงยหน้าขึ้นมาพบว่าเธอมาถึงแล้ว
“คุณมาแล้วเหรอ” เขายืนตัวตรง พยายามยกมุมปากเล็กน้อย ยิ้มอย่างฝืนๆ “ผมเองก็เพิ่งมาถึงได้ไม่นาน”
“อืม” สาริศาพยักหน้า ไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ
“เดินเล่นด้วยกันเถอะ นานแล้วที่ไม่ได้เดินเล่นกับคุณในมหาวิทยาลัย” ธีภพพูด
“อื้ม”
เดินบนถนนเส้นที่คุ้นเคย สาริศาได้แต่รู้สึกสับสนไปหมด
“ริศา เรื่องของพ่อผม ใช่คุณ……ให้ธนพัตไปแจ้งตำรวจหรือเปล่า” สุดท้ายธีภพก็เอ่ยถามเรื่องนี้ด้วยท่าทีลังเล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...