เบญญากำโทรศัพท์ไว้แน่น หน้าอกหายใจกระหืดกระหอบอย่างรุนแรง อากาศรอบๆดูเหมือนจะเบาบางขึ้น ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออกผ่านไปนานสองนาน เบญญาก็เปิดปากพูดขึ้น"ได้ ฉันจะทำ"พอได้รับคำตอบที่พอใจ มรุเดชก็วางสายก่อนจะไปอยู่เป็นเพื่อนกับคนที่อยู่ในใจของเขาเบญญามองห้องที่ทั้งมืดมิดทั้งว่างเปล่า กัดฟันกรอดๆ พอคิดว่ามรุเดชย้ายบ้านกับนันท์นลินด้วยความเต็มใจ แต่เธอกลับต้องตื่นขึ้นมาซื้อของมาทำอาหารตั้งแต่เช้าตรู่ทั้งที่ท้องเธอก็ปวดแบบนี้ เธออยากจะทุบหน้าของมรุเดชให้แหลกละเอียดไปเลยจริงๆ!เบญญานอนบนเตียงมองดูรูปแต่งงานที่แขวนอยู่เหนือหัวของเธอ ยิ่งดูก็ยิ่งขัดตา จู่ๆเธอก็เข้าใจขึ้นมาว่าทำไมในตอนนั้นมรุเดชถึงโกรธจนทุบรูปนี้จนแตก เพราะว่าเธอเองก็อยากทุบเหมือนกัน ไม่ใช่แค่อยากทุบเท่านั้น แต่ยังอยากจะเอาไฟเผาใบหน้าที่ชวนให้รู้สึกเกลียดใบหน้านั้นของมรุเดชให้กลายเป็นขี้เถ้าไปซะเหมือนกันจู่ๆหัวตาก็เปียก เบญญายกมือขึ้นปิดสองตาเอาไว้ กัดฟันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง"มรุเดช นายมันไอ้สารเลว ฉันจะตายอยู่แล้ว นายยังจะมาทรมานฉันขนาดนี้อีกเหรอ"...วันต่อมา เบญญาตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า มองตัวเองในกระจก ขอบตาบวมแดงอย่างที่คิดเอาไว้เธอเอาน้ำแข็งจากตู้เย็นมาประคบ ประคบอยู่ประมาณสิบนาทีอาการบวมแดงถึงค่อยๆหายไปอย่างช้าๆเบญญาต้มข้าวต้มอย่างง่ายๆหนึ่งหม้อ เธออาศัยช่วงเวลาที่ต้มข้าวต้ม ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าอ่อนๆ จากนั้นก็กินยาช่วงเวลาก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าจะย้ายบ้าน ตู้เย็นก็เลยถูกเธอเคลียร์ของไปจนเกือบจะเกลี้ยงแล้ว เบญญาเปิดบันทึกเตือนความจำในโทรศัพท์ขึ้นมา กินข้าวไปพลางบันทึกของที่ต้องไปซื้อหลังจากนี้บันทึกไปสามสิบกว่าอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องปรุงรสทั้งนั้นรสชาติที่มรุเดชชอบเธอจำได้ทั้งหมด เหมือนกับคุ้นชินจนเข้าไปในกระดูกแล้ว แค่คนอื่นพูดถามเธอก็ตอบออกมาได้โดยสัญชาตญาณมรุเดชเวลาทำเรื่องอะไรจะเด็ดขาดมาก แต่เรื่องของอาหารการกินกลับจู้จี้จุกจิก เลือกกินเป็นอย่างมากไม่ชอบเครื่องใน ไม่กินหัว ไม่กินก้น เนื้อที่เท้าก็ไม่ชอบ กินอาหารรสไม่จัด ไม่กินหัวหอม ขิง กระเทียมแล้วก็ผักชี...จู่ๆเบญญาก็มีไอเดียขึ้นมา ไปยังซูเปอร์มาร์เก็ต ตรงไปที่โซนเครื่องใน ซื้อตับหมู ไตหมู ลำไสใหญ่หมู แล้วก็ซื้อตีนหมูมาอีกสองชิ้นด้วยเครื่องปรุงรสก็ตั้งใจเลือกที่มรุเดชไม่ชอบโดยเฉพาะ เขาไม่ชอบอะไรเธอก็จะเลือกอันนั้นซื้อวัตถุดิบเครื่องปรุงมาเต็มรถเข็น เบญญาคิดเงินเสร็จก็ทิ้งที่อยู่เอาไว้ให้คนเอากลับไปส่งให้พอกลับมาถึงบ้าน เบญญาก็สวมผ้ากันเปื้อนอย่างคล่องแคล่ว ล้างผักหั่นเนื้อ ต้มซุปตีนหมูก่อน แล้วค่อยล้างลำไส้ใหญ่ ตับและไตอาหารสามอย่างล้วนแต่ผัดทั้งหมด ในตอนแรกเพื่อที่จะเอาใจมรุเดชเบญญาตั้งใจไปเรียนทำอาหารกับพ่อครัวใหญ่โดยเฉพาะ ฝีมือการทำอาหารไม่ได้แย่ไปกว่าร้านอาหารข้างนอกเลยสักนิดผัดกระทะร้อน ไม่นานกลิ่นหอมที่เย้ายวนใจก็อบอวลไปทั่วทั้งบ้านอย่างรวดเร็ว เบญญาใส่พริกลงไปจนหมด กลิ่นที่เผ็ดร้อนพุ่งขึ้นมากระทบหน้า เครื่องดูดควันใช้การไม่ได้เบญญาจามออกมาหนึ่งที ไอพลางเอาอาหารที่ผัดจนแดงฉานจัดใส่จานเบญญาเอาอาหารสามอย่างกับอีกหนึ่งซุปเสิร์ฟลงบนโต๊ะ มองดูเวลา สิบเอ็ดโมงสี่สิบนาที ขณะที่กำลังคิดว่ามรุเดชจะพานันท์นลินกลับมาตอนไหนนั้น ทางด้านของประตูใหญ่ก็เปิดออกแล้วเบญญาถอดผ้ากันเปื้อนออก หันมองไปทางประตูใหญ่ เห็นมรุเดชถือกระเป๋าเดินทางเข้ามา มีนันท์นลินที่ดูเจ็บป่วยตามอยู่ข้างหลังเบญญายังไม่ได้พูดอะไร นันท์นลินมองโต๊ะที่อยู่ข้างหลังของเธอก่อนจะพูดขึ้นอย่างอ่อนแอ"รบกวนคุณแล้ว แถมยังลำบากต้องมาทำอาหารจนเต็มโต๊ะขนาดนี้อีก" มรุเดชชำเลืองตามองเบญญาอย่างเย็นชา ก่อนจะหันไปพูดกับนันท์นลินที่อยู่ข้างหลัง"ไปล้างมือก่อน เดี๋ยวผมจะยกกระเป๋าขึ้นไปข้างบน"นันท์นลินพยักหน้า แววตายิ้มแย้มสีหน้าเขินอาย"ขอบคุณนะมรุเดช"มรุเดชไม่ได้พูดตอบ เขายกกระเป๋าเดินทาง28นิ้วขึ้นไปชั้นบนอย่างง่ายๆสบายๆ เบญญาที่อยู่ข้างๆดูจนมะเร็งกระเพาะกำเริบแล้ว ทั้งสองคนนี้กะที่จะใช้ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกลมเกลียวกันแบบนี้มาทำให้เธอสะอิดสะเอียนหรือไง?มรุเดชไปแล้ว นันท์นลินยังแสร้งทำเป็นท่าทางอ่อนแอไร้กระดูกกระเดี้ยวอยู่อีก หลังจากที่หันมองเบญญาอย่างขี้อายแล้วก็ไปที่ห้องน้ำเบญญาตักข้าววางลงบนที่นั่งหลัก หันหน้าเข้าหาอาหารรสเผ็ดที่ดูเลี่ยนๆมันๆเต็มโต๊ะ พวกเขาจะทำอะไรตามใจก็เชิญ ถึงยังไงสุดท้ายคนที่ถูกทำให้รู้สึกพะอืดพะอมก็ไม่ใช่เธอแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน