มรุเดชกระจายกลิ่นอายเย็นยะเยือกทั่วทั้งตัว ทั้งสองห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตร เบญญาหนาวจนแข็งทั้งร่างสะดุ้งตื่นทันที เผชิญกับสายตาดุร้ายของชายหนุ่ม เธอไม่รู้ว่าสายตาตัวเองควรมองตรงไหน
ทันใดนั้นนิ้วที่มีข้อต่อชัดเจนก็บีบคางเธอ เบญญาโดนบังคับให้เงยหน้า แล้วมองไปด้วยความตื่นตกใจ
“เดช นายกลับมาทำไม?”
“ฉันอยากกลับก็กลับ ต้องรายงานเธอด้วยหรือไง?” มรุเดชคุกเข่าบนเตียง ไม่สนใจเบญญาที่ต่อต้านการกดทับร่างกายเธอ เขาเคลื่อนไหวแรงมาก กดข้อมือเบญญาโดยไม่เห็นใจสักนิด
รู้สึกได้ถึงหญิงสาวในอ้อมกอดจากผ่อนคลายไปแข็งทื่อ สุดท้ายก็ต่อต้านดิ้นรน พยายามต่อต้านจนถึงที่สุดแต่ถูกกดขาสองข้างเอาไว้
เบญญาตื่นตกใจไปหมด เธอไม่เคยเห็นมรุเดชที่เหมือนหมาป่าชั่วร้ายจะเลาะเนื้อกลืนเธอลงท้องแบบนี้มาก่อน เธอกลัวเขาที่เป็นแบบนี้มากๆ มรุเดชที่อ่อนโยนสง่างามในความทรงจำมันยิ่งเลือนหายไปเรื่อยๆ
เธอเริ่มวิงวอนด้วยจิตใต้สำนึก “เดช ฉันเจ็บมาก……”
“เบญญา เธอทำให้ฉันขยะแขยงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าหรือตัวเธอ มันทำให้ฉันอยากจะอ้วก” ผู้หญิงอย่างเบญญาไม่สมควรได้รับสิ่งดีๆ การปฏิบัติด้วยความอดทนก็เหมือนจะเกินพอแล้ว
ร่างกายเบญญาแข็งทื่อ เธอกัดฟันแน่น ใบหน้าใต้แสงไฟสลัวเหมือนกระดาษเก่าๆ ไม่มีสีเลือดเลยสักนิด
สำหรับคำพูดเหยียดหยามของมรุเดช เธอควรชินนานแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจยังเจ็บปวดแบบนั้น เหมือนมีคนจับหัวใจแล้วบดขยี้มันทีละนิด
น้อยครั้งที่มรุเดชจะกลับมา เขาเห็นเธอเป็นหญิงขายบริการ ว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็กลับมานานแล้วก็จากไป เหมือนเพื่อ “ตอบสนอง” “หน้าที่ภรรยา” ของเธอ
วันนี้นันท์นลินได้รับบาดเจ็บ ตามหลักการแล้วเขาควรอยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนยอดดวงใจเขาสิ แต่วันนี้ดึกดื่นปรากฏตัวในห้องนอนของเธอ……เบญญาคิดสักพักก็คิดออก คงจะเกิดความขัดแย้งกับนันท์นลิน ไม่งั้นจะมาหาเธอได้ที่ไหน?
แต่คืนนี้เธอไม่มีแรงพอที่จะรับมือกับเขาจริงๆ เบญญาผลักอกแกร่งของชายหนุ่ม หาช่องว่างจะหลบหนี ร่างกายเพิ่งตั้งตรงขึ้นมา ผมที่ท้ายทอยก็ถูกดึงจากทางด้านหลัง
“อ๊ะ……” เบญญาเปล่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด ลำคอแหงนไปทางด้านหลัง “มรุเดช วันนี้ดึกแล้ว ฉันไม่อยากทำกับนาย……”
ก็ไม่รู้ว่าตรงไหนในคำพูดนี้ไม่ถูกใจเขา ใบหน้าอึมครึมของมรุเดชน่ากลัวเป็นพิเศษภายใต้แสงเงา มือที่ดึงเบญญาก็ออกแรงบังคับกดหน้าเธอลงกับหมอน
“เบญญาเธอเสแสร้งบริสุทธิ์ทำไม? เธออยากหรือไม่อยากทำ ฉันไม่รู้เหรอ? ขู่ฉันให้แต่งงาน ทำชั่วไปแล้วตอนนี้อยากจะได้ชื่อเสียงที่ดีงั้นเหรอ?”
ไม่น่าฟังเลย……เบญญาหายใจสั่นระริก เธอจ้องมองเพดาน น้ำตากลอกวนในเบ้าตา สุดท้ายก็ทนไม่ไหว มันเปียกชุ่มหมอนแล้ว
นี่คือคนที่เธออยากแต่งงานด้วย ใช้คำพูดโหดเหี้ยมที่สุดทำร้ายเธอจนบาดเจ็บไปทั้งตัว
มรุเดชเห็นดวงตาเปียกชื้นของเธอ หัวใจก็ตึงเครียด เขาดึงเนกไทที่คอออกอย่างหงุดหงิด แล้วมัดมือเบญญาไว้กับหัวเตียง
เบญญาอดทนความเจ็บปวดที่มะเร็งกระเพาะอาหารมอบให้เธอ ปลายลิ้นยันฟัน เธอกลั้นเสียงเอาไว้ พยายามกลืนกลิ่นคาวเลือดในลำคอลงไปสุดชีวิต ร้องขอความตาย ทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่
มรุเดชเห็นหญิงสาวนอนขดตัวเหมือนแมวบนที่นอน สั่นสะท้านเล็กน้อย ดูแล้วค่อนข้างน่าสงสาร
มรุเดชไม่เห็นเธอในสายตาแน่นอนว่าก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน สุขภาพร่างกายเบญญาดีมาตลอด ทำงานล่วงเวลาทั้งคืนวันต่อมาก็ยังไปทำงานตรงเวลาได้เป็นเรื่องปกติ อยู่กับเธอมานานมาก เขาเหมือนไม่เคยเห็นเธอป่วยมาก่อน
ผมเผ้ายุ่งเหยิงคลุมเตียง แผ่นหลังเธอผอมมาก เมื่อร่างกายโค้งงอ กระดูกไหล่สองข้างก็คล้ายผีเสื้อกำลังสยายปีก
เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปสัมผัส ปลายนิ้วเพิ่งแตะมัน หญิงสาวเหมือนตกใจกลัว หลบไปข้างๆ ทันที ในดวงตามรุเดชฉายแววเหี้ยมโหด ไม่พอใจข้างในเป็นอย่างยิ่ง
“ปกติเหมือนปลาตาย วันนี้อยากเล่นกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อให้จับเหรอ? แต่ฉันจะบอกเธอให้นะว่ามันไร้ประโยชน์!” ในใจมรุเดชเกิดความโมโหโดยไม่มีเหตุผล ไฟประหลาดนี้แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะดับมันยังไง
เขาไม่อยากยอมรับว่าเบญญามอบอารมณ์นี้ให้กับเขา ทำได้แค่คิดถึงทางด้านนันท์นลิน นึกถึงคำพูดนันท์นลินที่คุยกับเขาตอนอยู่โรงพยาบาลถามเขาว่าเมื่อไรจะหย่ากับเบญญา อารมณ์เขาก็ดิ่งลงทันที
มรุเดชกัดฟันกรามแน่น เบญญามีค่าตรงไหนทำให้เขากับนันท์นลินทะเลาะกัน?
เบญญากอดตัวเอง เหมือนเต่าหดเข้าไปในกระดอง ปรากฏท่าทางปกป้องตัวเอง เธอรู้สึกหนาวมาก ทั้งๆ ที่เธอเปิดเครื่องปรับอากาศห่มผ้าห่มอยู่ แต่ยังคงต้านทานความหนาวเหน็บไม่ได้
เหมือนบริเวณหัวใจถูกกรีดเป็นรู แผลติดเชื้อ ทำให้อวัยวะทั้งหมดเน่าเปื่อย
เธออดทนความเจ็บปวดมาได้ตลอด กัดฟันจนหักกลืนน้ำลาย แต่คราวนี้เธอทนไม่ไหวจริงๆ เมื่อความคิดที่จะหย่าเข้ามาในหัวใจแล้ว ก็ยิ่งลุกลามอย่างบ้าคลั่ง
รอมีแรงค่อยคุยเรื่องหย่ากับมรุเดชดีกว่า เธอใกล้ตายแล้ว ไม่มีเวลามาเอาใจเขาอีกแล้ว
เมื่อเบญญาเจ็บปวดจนสลบไป ก็ได้ยินประโยคสุดท้ายของมรุเดช
“ถ้าในตัวเธอไม่มีเลือดกรุปเดียวกับนลิน เธอคิดว่าฉันจะให้ความสำคัญเธอไหม? แต่อีกไม่นานเธอก็จะไร้ประโยชน์ไร้คุณค่าแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน