เมื่อเสิ่นชูมาถึงทางเข้าสำนักงานกิจการพลเรือนเป็นเวลา 08.55 น. มีคนจำนวนมากเข้าแถวที่หน้าต่างอีกด้านหนึ่งเพื่อรอจดทะเบียนสมรส เธอเป็นคนเดียวที่อยู่ที่ช่องหย่าร้าง
ยังไม่เก้าโมง ป๋อมู่เหนียนยังไม่มา
เมื่อถึงเวลาเก้านาฬิกา หน้าต่างของสำนักกิจการพลเรือนสำหรับการหย่าก็ถูกเปิดออกตรงเวลา
เสิ่นชูมองโทรศัพท์ของเธอ ป๋อมู่เหนียนไม่ใช่คนชอบมาสายแต่วันนี้เขามาสาย
9:05 น. เสิ่นชูเห็นชายคนนั้นเดินเข้าประตูมา
เช่นเคย เขาสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง ใบหน้าคมสันของเขาไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ
เมื่อเห็นว่าเธอจ้องมองอยู่ ป๋อมู่เหนียนเอียงหน้ามองเธอและสาวเท้าเข้ามาทีละก้าว ๆ ด้วยสายตาเย็นชา
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใช้วิธีแบบนั้นมองเสิ่นชู ในอดีตเสิ่นชูจะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อมองตาของเขา แต่ ณ จุดนั้น เธอสงบ
“อรุณสวัสดิ์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงการหย่าร้าง ยังคงเป็นข้อตกลงเดิมที่ฉันให้คุณเมื่อวาน”
ขณะที่พูดเธอมอบข้อตกลงออกไป
ใบหน้าของป๋อมู่เหนียนเคร่งเครียดลง “คิดดีแล้วสินะ”
"ใช่"
เสิ่นชูเงยหน้าขึ้นมองเขาและพูดอย่างชัดเจน
เมื่อเธอแต่งงานกับเขา เธอไม่ได้คิดอย่างชัดเจน แต่สำหรับการหย่าร้างเธอคิดทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง
ป๋อมู่เหนียนขมวดคิ้ว "ก็ดี"
"หวังว่าเธอจะไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง!" ป๋อมู่เหนียนกล่าวในใจ
เสิ่นชูไม่ได้พูดอะไรอีกและเดินไปที่เคาน์เตอร์
มีขั้นตอนในการหย่าร้างน้อยมาก พวกเขาลงนามในข้อตกลง เมื่อข้อตกลงได้รับการประทับตรา พวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก
ในเวลาไม่ถึงห้านาที ทะเบียนสมรสก็กลายเป็นใบหย่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่ากันเถอะ ฉันต้องไปสืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อัพเดตทุกวันได้ไหมเอ่ย...