ครามพยักหน้าให้ศิลป์ทวีอย่างสุภาพ จากนั้นเมื่อเขาหันไปเผชิญหน้ากับโศภิตา มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย “ผมได้ยินมาจากคุณฌานว่าคุณเคยเรียนเต้นมาก่อน คุณสอนผมหน่อยได้ไหม”
โศภิตาอารมณ์ดีอย่างคาดไม่ถึง “ได้สิ ไม่มีปัญหา”
ดังนั้นคนทั้งคู่จึงเดินไปที่ฟลอร์เต้นรำพร้อมด้วยมือที่จับกันอยู่ เมื่อศิลป์ทวีได้สติ เขาส่ายหัวอีกครั้งและถอนหายใจ “นายแบบคนนี้ไม่ธรรมดาเลย”
ยังไงซะครามก็เป็นนายแบบ ดังนั้นเขาจึงสามารถเรียนรู้การเต้นได้อย่างง่ายดาย
เขาได้ขอให้ดีเจเปลี่ยนสีของแสงไฟตั้งนานแล้ว คนทั้งคู่เต้นรำอย่างเข้ากันได้ดีบนเวทีที่ส่องแสงระยิบระยับ
ในขณะเดียวกัน ฌานกำลังผิวปากขณะดื่มไปด้วย
ผ่านมาหลายปีแล้วตั้งแต่การเต้นรำครั้งสุดท้ายของโศภิตา รองเท้าส้นสูงของเธอเสียหลักในการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย และเธอก็ล้มลงทันที
ครามรีบประกบมือใหญ่ของเขาลงบนหลังเธอเพื่อพยุงเธอไว้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรวบทั้งตัวของเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
โศภิตาถูกรวบเข้าไปใกล้เขา ในตอนนี้เธอได้ยินอย่างชัดเจนถึงหัวใจที่เต้นเร็วของเขา
และนี่คือสิ่งที่แทนไทยเห็นตอนที่เขามาถึง
หญิงสาวที่โดยปกติแล้วอ่อนโยนและสง่างาม ตอนนี้กำลังจมอยู่ในอ้อมแขนของชายอื่น ราวกับสาวจัดจ้านที่ทรงเสน่ห์และเซ็กซี่
ใบหน้าของแทนไทยนิ่งค้างในทันที สีหน้าของเขาดูอึมครึมและน่ากลัว
ครามกระซิบข้างหูของโศภิตา “เขามาแล้ว”
โศภิตาเห็นแทนไทยในกระจกบานใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเธอตั้งนานแล้ว แต่เธอกลับยิ้มราวกับว่าเธอไม่เห็นเขาและทัดผมยุ่ง ๆ ไว้ที่หลังหู “อืม ฉันหิวนิดหน่อย ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ครามจึงปล่อยเธอและทั้งคู่ก็ออกจากฟลอร์เต้นรำไปด้วยกัน
ตอนที่เดินผ่านแทนไทย ครามหยุดเดินสักครู่และเลิกเปลือกตาขึ้น
จากมุมมองของแทนไทย เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการยั่วยุ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่ากันเถอะคุณสามี