ความอยากรู้ของโศภิตาถูกกระตุ้น เมื่อเห็นท่าทางมีลับลมคมในของคราม “บอกมามาก่อนว่าเราจะไปไหน แล้วฉันถึงจะตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไป”
ครามถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วมันจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ได้ยังไงถ้าผมบอกคุณก่อน”
โศภิตาหัวเราะเสียงดังอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากได้เห็นท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขา
และในตอนนี้เองที่แทนไทยเดินออกมาจากประตู เขาบังเอิญเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งก้มลงกระซิบที่ข้างหูของโศภิตา เขาไม่รู้ว่าคนทั้งคู่กำลังคุยเรื่องอะไรกัน
โศภิตายิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาของเธอเป็นประกายเจิดจ้า
แทนไทยกำลังจะก้าวขึ้นรถ แต่เขาหยุดการกระทำนั้นและหันกลับมาจ้องที่ชายหญิงคู่นั้นอย่างเย็นชา สายตาของเขาเยียบเย็นราวกับน้ำแข็ง
หลังจากที่เขาและโศภิตาแต่งงานกัน เธอไม่เคยหัวเราะแบบนี้เลย
ในหูของเขาก้องไปด้วยเสียงบ่นอันไม่รู้จบของเธอเกี่ยวกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และดวงตาของเธอยังดูระแวดระวังทุกครั้งที่มองมาที่เขา
จริง ๆ แล้ว เขาไม่ชอบเลยที่เห็นเธอมีความสุขขนาดนี้ มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
ใครจะคิดว่าหลังจากที่พวกเขาหย่ากัน เธอจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงขนาดนี้ เธอดูเปล่งประกายระยิบระยับออกมาจากข้างใน
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นเหรอ
แทนไทยยกยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากของเขา ผู้หญิงนอกใจที่ไม่รักตัวเองแบบเธอไม่คุ้มค่ากับเวลาของเขาเลย!
“คุณแทนไทยครับ” เมื่อเห็นว่าเจ้านายไม่ยอมขึ้นรถ ธนากร บุญทิวา จึงเอ่ยเรียกเขาอย่างระมัดระวัง
เมื่อได้ยินเสียงเรียก แทนไทยจึงถอนสายตากลับมาและก้าวขึ้นรถ “กลับออฟฟิศ”
ธนากรไม่แน่ใจว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า แต่เขารู้สึกว่าแทนไทยกำลังโกรธจัด และท่าทางของเขาก็น่ากลัวมาก...
โศภิตาเพิ่งเข้าไปนั่งยังที่นั่งผู้โดยสาร ก่อนจะเห็นแทนไทยผ่านหางตาของเธอ
ขณะที่รถกำลังแล่นไปข้างหน้า โศภิตาเพียงแค่มองดูต้นไม้ที่ผ่านไปมาอย่างรวดเร็วด้วยความสับสน
ครามมองเห็นความอ้างว้างในดวงตาของเธอ เขาจึงต้องระงับอารมณ์ในดวงตาของเขาอย่างใจเย็น “คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่ากันเถอะคุณสามี