หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 145

ด้วยความหิว เบนนี่จึงละสายตาจากการตกแต่งในร้านอาหารเมื่อได้ยินเลอศิลป์พูดถึงอาหารขึ้นมา เขาชูนิ้วขึ้นมานับและสั่งอาหารทันที “ผมอยากกินซี่โครงหมู ปลาทอด น่องไก่… และทุกอย่างที่เราชอบเลย!”

จากนั้นเลอศิลป์ก็หันมาสนใจอชิ ผู้ที่ไม่กระตือรือร้นจะตอบอะไรเลยตั้งแต่แรก

กระนั้น เมื่อเบนนี่ตอบแทนอชิไปหมดแล้ว อชิเลยได้แต่พยักหน้าเงียบๆ

หลังจากสั่งอาหารตามที่เด็กๆ ชอบแล้ว เลอศิลป์ก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับพวกเขาดี ทำให้มีแต่ความเงียบที่น่าอึดอัดปกคลุมไปทั้งโต๊ะอาหาร

พออาหารมาเสิร์ฟ เลอศิลป์ก็บอกให้พนักงานวางจานอาหารไว้ตรงหน้าเด็กชายฝาแฝด

ตอนนั้นเองที่อชิพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ แต่ก็ยังฟังดูห่างเหิน “ขอบคุณครับ คุณเลอศิลป์”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก” เลอศิลป์พยักหน้ารับ น้ำเสียงของเขาฟังดูกระอักกระอ่วนเพราะเขาไม่ค่อยได้ใช้เวลาพูดคุยกับเด็กๆ เท่าไรนัก

ระหว่างทานอาหาร เขาจะคอยเลื่อนจานอาหารให้เด็กๆ แม้จะไม่ได้ตักหรือป้อนให้แบบที่รษิกาทำ

แต่ทว่า เด็กๆ กลับเริ่มคุ้ยเขี่ยอาหารในจาน

“อาหารอร่อยมั้ย ชอบหรือเปล่า?” ในที่สุด เลอศิลป์ก็คิดออกว่าควรจะถามอะไร หลังจากดิ้นรนหาหัวข้อสนทนาอยู่นาน

เบนนี่เงยหน้าขึ้นมา เขาลูบท้องก่อนจะนิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเขาก็ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “มันก็อร่อยนะครับ แต่ไม่เท่ากับที่แม่ทำ”

เลอศิลป์เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “แม่เธอทำอาหารบ่อยเหรอ?”

เบนนี่รีบตอบอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่คิด “อื้ม ใช่ครับ แม่จะทำอาหารให้เรากินตลอดเวลาที่แม่ว่าง แต่ถ้าแม่งานเยอะ แม่ก็จะไม่มีเวลาเหลือแม้แต่จะกินข้าวเลยล่ะครับ”

ตอนนั้นเอง สีหน้าเป็นกังวลก็ปะทุขึ้นบนใบหน้าของเลอศิลป์ เพราะเขามั่นใจว่ารษิกายังไม่ได้ทานอะไรเลยแน่ๆ

ระหว่างนั้น สายตาของไอรดาก็มีความอิจฉาเจืออยู่ เธอเองก็อยากให้รษิกาทำอาหารให้ทานทุกวันเหมือนกัน

เลอศิลป์ยังคงสงสัยกับชีวิตประจำวันของอชิและเบนนี่ จึงไม่ได้สังเกตว่าเด็กๆ คิดอะไรอยู่ “ถ้างั้น พวกเธอจัดการยังไงเวลาแม่ยุ่งอยู่ล่ะ?”

พอพูดออกไป เลอศิลป์ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันทีที่พูดอย่างนั้น

ถ้ารษิกาไม่ว่าง พ่อของพวกเขาก็ต้องเป็นคนดูแลแทนสิ ไม่มีทางที่พวกเขาจะอยู่กันตามลำพังในต่างประเทศหรอก

พอคิดอย่างนั้น เลอศิลป์ก็อดคิดถึงรษิกาไม่ได้

เมื่อเทียบกับหกปีก่อน เธอดูเข้มงวดขึ้นมากกว่าเดิม เขาคิดว่าที่เธอน้ำหนักลดก็เพราะสาเหตุนี้ด้วย

เบนนี่ไม่รู้ว่าเลอศิลป์คิดอะไรอยู่ จึงตอบไปอย่างไร้เดียงสาว่า “ถ้าแม่ไม่ว่าง ศาสตราจารย์ที่สอนแม่จะช่วยดูแลเราแทนครับ บางทีแม่ก็พาเราไปที่สถาบันวิจัยด้วย เพื่อนที่ทำงานแม่ก็ชอบเรามากด้วยครับ”

เลอศิลป์รู้สึกงุนงงและไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย “แล้วพ่อพวกเธอล่ะ? ทำไมเขาไม่ดูแลเธอแทน?”

คำของเขาทำให้สองพี่น้องถึงกับอึ้งไป

พ่อเหรอ? พ่อพวกเราก็นั่งอยู่ตรงหน้านี่ไง เขาแค่ไม่รู้เรื่องนี้เท่านั้นเอง

อชิวางช้อนส้อมลง เขาขมวดคิ้วและห้ามเบนนี่ไม่ให้พูดอีก ก่อนจะหันไปมองเลอศิลป์พลางถามว่า “คุณอยากรู้อะไรครับ?”

เลอศิลป์ตกใจอยู่นิดหน่อย ครู่หนึ่งต่อมาเขาก็เม้มปากราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและตอบว่า “ไม่มีอะไร ฉันแค่เป็นห่วงเฉยๆ น่ะ”

หลังจากจ้องหน้าเลอศิลป์อยู่พักใหญ่ อชิก็ละสายที่โกรธเคืองก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ตั้งแต่พวกเราเกิดมา เราก็ไม่เคยเจอพ่อเลย เขาเป็นคนใจร้ายที่ทอดทิ้งแม่กับเราไป ดังนั้น ผมถึงไม่ชอบเขาเอามากๆ!”

พอเขาพูดจบ อชิก็เงยหน้ามองเลอศิลป์อีกครั้งก่อนจะกลับไปก้มหน้าทานข้าวต่อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม