บ่ายวันนั้นอัญชสาสังเกตว่าพนักงานของเธอมองเธอแปลกๆ ขณะที่เธอกำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยของสำนักงาน
พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้และแซวว่า “แหม คุณอัญชสา คุณเลอศิลป์นี่ดีกับคุณมากจนพวกเราอิจฉาแล้วนะคะเนี่ย!”
อัญชสาเก็บอาการตกตะลึงเอาไว้ไม่อยู่เมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ในชั่วพริบตา เธอฝืนยิ้มอย่างสบายๆ และถามกลับไปว่า “จริงเหรอ? ทำไมเธอคิดอย่างนั้นล่ะ?”
พนักงานสาวคนนั้นเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกว้างขึ้นกว่าเดิม “ทุกคนรู้ว่าคุณเลอศิลป์ดูแลคุณที่โรงพยาบาลตลอดทั้งคืน แถมวันนี้คุณยังมาทำงานตรงเวลาอีก คุณคือตัวอย่างที่ดีของพวกเราจริงๆ!”
ท่าทีของอัญชสาเปลี่ยนไปเล็กน้อย “คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรน่ะ?”
เลอศิลป์ดูแลฉันที่โรงพยาบาลตลอดทั้งคืนเนื่ยนะ? สองวันมานี้ฉันสบายดี ไม่ได้ต้องไปโรงพยาบาลสักหน่อย
พนักงานหญิงคนนั้นคงรู้สึกเขินอาย เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาให้อัญชสาดูข่าวที่เธอพูดถึง “ไม่ต้องอายหรอกค่ะ มันเป็นข่าวไปแล้ว ตอนนี้ทั้งโลกรู้เรื่องนี้แล้วล่ะมั้งคะ”
หลังจากพนักงานสาวพูดออกไป เธอจึงนึกขึ้นได้ว่าควรแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อสุขภาพของนายจ้างเสียหน่อย เธอจึงถามอัญชสาไปว่า “อ้อ จริงด้วย เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับคุณเหรอคะ? คุณไม่สบายตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ ใช่ไหม? แล้วทำไมคุณถึงไปโรงพยาบาลตอนกลางคืนล่ะ?”
เธอเหลือบมองเนื้อหาบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นพาดหัวข่าวว่า คุณเลอศิลป์พาคู่หมั้นไปโรงพยาบาลกลางดึกและดูแลเธอตลอดทั้งคืน นั่นทำให้เธอสับสนงงงวยเป็นอย่างมากหลังจากที่พนักงานคนนี้ถามคำถามเธอ เธอจึงพูดปดไปว่า “อ๋อ เมื่อคืนฉันอาจกินอะไรไม่ดีเข้าไป เลยทำให้ไม่สบาย แต่ตอนนี้ฉันสบายดีแล้ว กลับไปทำงานเถอะ"
พนักงานหญิงพูดจาวกไปวนมาแสร้งทำเป็นกังวลก่อนจะกลับไปทำงานของเธอต่อ
หลังจากนั้นอัญชสากลับไปที่ห้องทำงานของเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึมทันที เธอหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเพื่อเช็คข่าวของเลอศิลป์
ทันทีที่เธอพิมพ์ชื่อของเขา หัวข้อข่าวก็ปรากฏขึ้นว่า คุณเลอศิลป์พาคู่หมั้นไปโรงพยาบาล พิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพวกเขา
หัวข้อข่าวอื่น ๆ ที่โผล่ออกมาด้านล่างนั้นค่อนข้างคล้ายคลึงกันมาก
เธอคลิกไปที่หัวข้อข่าวบนสุด ซึ่งมีผู้มาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้เกินล้านคนแล้ว
รายงานข่าวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือข่าวที่โพสต์โดยเพจบันเทิงที่มีชื่อเสียงในวงการ
ข่าวนั้นรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา คุณเลอศิลป์ขับรถพาคู่หมั้นของเขาไปโรงพยาบาลเป็นการส่วนตัวและอุ้มเธอราวกับเป็นเจ้าสาว ช่างเป็นแฟนหนุ่มที่ดีเสียเหลือเกิน! เวลาแปดโมงเช้าของวันนี้ ทั้งสองคนขึ้นรถคุณเลอศิลป์ไปพร้อมกับลูกสาวคุณเลอศิลป์ คู่หมั้นของเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กหญิงตัวน้อย ดังนั้นดูเหมือนว่าพวกเขาคงใกล้เข้าสู่ประตูวิวาห์แล้ว
ทั้งยังมีรูปถ่ายสองรูปอยู่ใต้ข่าวอีกด้วย
ภาพแรกถูกถ่ายในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นภาพของเลอศิลป์ที่อุ้มผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงพยาบาล
ในขณะเดียวกัน ภาพที่สองถูกถ่ายที่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล โดยเลอศิลป์ยืนอยู่หน้ารถ ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังก้าวขึ้นรถพร้อมกับเด็กน้อยในอ้อมแขน
เมื่อดูจากเสื้อผ้าและรูปร่างแล้ว เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงในรูปสองใบนี้เป็นคนคนเดียวกัน
และจากที่เห็นรูปภาพสองรูปนี้ เธอรู้สึกได้ว่าทั้งสองมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก อันที่จริงแล้ว ภาพที่สองดูเหมือนเป็นภาพครอบครัวพ่อแม่ลูกเลย
แต่ทว่าในฐานะคู่หมั้นที่ยังระหองระแหงกันอยู่ อัญชสาไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้านี้เลอศิลป์ไม่เพียงแต่หลบหน้าเธอเพราะข่าวนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะผู้หญิงในภาพถ่ายเป็นผู้หญิงคนอื่นนั่นเอง
เธอขยายภาพและพิจารณาดูหลายครั้งก่อนที่ภาพจำร่างที่คุ้นเคยจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ
โอ๊ย! เป็นนังรษิกา ผู้หญิงสารเลวคนนั้นอีกแล้วสินะ!
ในที่สุดเธอก็นึกออก เพราะทั้งท่าทางและรูปร่างของผู้หญิงในรูปถ่ายนั้นเหมือนรษิกาเป็นอย่างมาก
เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น สีหน้าของอัญชสาก็เปลี่ยนไปทันที
ความใส่ใจที่เลอศิลป์มีต่อคู่หมั้นของเขาคือเรื่องเข้าใจผิดตั้งแต่ต้นจนจบ! ไม่ใช่ฉันที่เขาดูแลตลอดทั้งคืน แต่เป็นนังรษิกาต่างหาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม