เมื่ออัญชสาได้ยินคำตอบของฝนทิพย์ อารมณ์ที่ผสมปนเปกันก็ปะทุขึ้นในดวงตาของเธอ
หลังจากที่เลอศิลป์ปฏิเสธเธอไปก่อนหน้านี้และจู่ๆ ก็รู้ว่ารษิกากลับมาในประเทศแล้ว เธอจึงไม่อยากรออีกต่อไป ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีตัวตนเชื่อมโยงกับชายคนนั้น
เช้าตรู่วันนั้น เธอจงใจขอให้เอกพลและศศิตาช่วยเกลี้ยกล่อมเลอศิลป์ เธอคิดว่าเขาจะฟังพ่อแม่ของเขาและเปลี่ยนใจ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอต้องเจอทางตันและยังต้องทนกับไอรดามาตลอดทั้งวัน
เมื่อพ่อแม่เลอศิลป์อยู่ที่นั่นด้วย เธอก็ไม่กล้าที่จะแสดงความเกรี้ยวกราดเช่นกัน
พอหมดวัน เธอก็เดือดดาลมาก จึงชวนฝนทิพย์ออกไปซื้อของเพื่อบรรเทาความโกรธของเธอ
อย่างไรก็ตาม เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาได้ยินเรื่องนี้
หมอที่มีชื่อเสียงจำนวนนับไม่ถ้วนก็ยังทำอะไรไม่ได้เมื่อต้องมาเจอกับอาการของคุณปู่ แต่รษิกากลับสามารถรักษาเขาได้ นอกจากนี้ จักรภพยังเซ็นสัญญากับเธอโดยมีเงื่อนไขว่าจะจัดหายาให้กับสถาบันวิจัยในราคาเพียงครึ่งเดียว! แบบนี้ก็เท่ากับว่าความพยายามของฉันในการขอให้ผู้จัดจำหน่ายส่วนผสมยาในเมืองหัสดินคว่ำบาตรสถาบันวิจัยของเธอนั้นก็ไร้ผลงั้นหรือ?
เมื่อคิดเช่นนั้น สายตาของอัญชสาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ฉันจัดทีมแพทย์มาคอยรักษาคุณปู่ให้แล้วไม่ใช่เหรอ? พวกเขารักษาไม่ได้ผลงั้นเหรอ? ทำไมถึงได้อนุญาตให้เธอรักษาเขาแทนล่ะ?”
ในขณะที่พูดนั้น เธอเหลือบมองผู้หญิงที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในตัวเธอ
ฉันพยายามมากขนาดนี้แต่เธอก็ยังหาผู้จัดจำหน่ายส่วนผสมยาในเมืองหัสดินได้ เธอต้องหัวเราะเยาะฉันลับหลังฉันแน่!
ฝนทิพย์อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะตอบอย่างลังเลว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ทีมแพทย์ที่คุณหามาให้นั้นมีประสิทธิภาพอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เธอดันมาเสนอตัวและทำให้พี่ชายของฉันเชื่อ นอกจากนี้ อาการของคุณปู่ก็ดีขึ้นหลังจากเธอเข้าไปรักษา พี่ชายของฉันก็เลยตัดสินใจว่าจะให้เธอรับผิดชอบการรักษาต่อไปน่ะ”
เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ฉันจะพูด
อัญชสาตะคอกอยู่ในใจ แต่สีหน้าของเธอยังคงสุภาพเหมือนเคย เธอพูดกับรษิกาว่า “ฉันไม่รู้ว่าคุณมีความสามารถมากขนาดนี้นะคะคุณรษิกา แม้แต่ทีมแพทย์มืออาชีพก็เทียบกับคุณคนเดียวไม่ได้เลย”
รษิกาปัดนิ้วผ่านหน้าจอโทรศัพท์ของเธออย่างเฉยเมย “ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณไม่รู้ ว่าแต่ทำไมคุณยังวางแผนทำลายฉันต่ออยู่ล่ะ? ทั้งที่รู้ว่าฉันเซ็นสัญญากับตระกูลคชาเรศไปแล้วอย่างนี้”
อัญชสามีสีหน้าเครียดทันที แต่เธอก็ทำเสียงไร้เดียงสามากเมื่อพูดว่า “คุณหมายความว่าอะไรกัน? ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากที่คุณรักษาคุณปู่ แล้วฉันจะไปทำลายคุณได้ยังไง?”
รษิกาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นตามเกมของเธอ จึงตอบไปตรงๆ ว่า “ฉันแน่ใจว่าคุณรู้ดีว่าฉันหมายถึงอะไร แล้วฉันก็ไม่สนว่าคุณจะยังต้องการทำลายฉันต่อไปหรือเปล่าด้วย”
ใบหน้าของอัญชสาตึงเครียดขึ้นอย่างน่ากลัว แต่เธอยังไม่ตอบอะไรในทันที
ฝนทิพย์ที่อยู่ข้างๆ พูดแทรกขึ้นมาอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นทั้งสองคนเหมือนเอามีดจ่อคอกันอยู่ “อัญชสา คุณสองคน… รู้จักกันหรือเปล่า?”
มาถึงขั้นนี้ อัญชสาก็เย้ยหยันและไม่ปิดบังการเป็นศัตรูกับรษิกาอีกต่อไป “ไม่ใช่แค่รู้จักกันเท่านั้นนะ แต่คุณยังพูดได้เลยว่าโชคชะตาผูกมัดเราไว้อย่างแนบแน่น”
พอพูดจบ เธอหันไปหารษิกาและพูดอย่างยั่วยุ “คุณไม่เห็นด้วยเหรอ? คุณรษิกา”
รษิกาเพิ่งจ่ายเงินเสร็จ เมื่อเธอได้ยินอย่างนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างหน้าเธอ “ฉันเกรงว่าฉันไม่กล้าเห็นด้วยกับเรื่องนั้นหรอกค่ะคุณอัญชสา เพราะที่จริงฉันไม่สนิทกับคุณ ดังนั้นต่อไปนี้ได้โปรดอย่าพูดแบบนี้อีก คำพูดคุณแบบนี้มันรบกวนจิตใจฉันมากเลยล่ะค่ะ”
ใบหน้าของอัญชสาแข็งทื่อ และความโกรธฉายชัดในดวงตาของเธอ
“นี่ก็ดึกแล้ว รีบเข้าไปในร้านอาหารกันเถอะค่ะ ฉันไปก่อนล่ะ คุณทั้งคู่ก็ทานอาหารให้อร่อยนะคะ”
จากนั้นรษิกาก็ค้อมหัวให้พวกเธออย่างไม่สบอารมณ์ และเดินผ่านไปพร้อมกับอชิและเบนนี่ เธอออกจากร้านอาหารไปโดยไม่เหลียวหลังมามองอีกเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม