หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 77

เลอศิลป์ยืนรออยู่ด้านหน้าห้องอาหาร เขารู้สึกเป็นปรปักษ์ต่อพวกเขาเมื่อเห็นว่าไอรดายิ้มอย่างมีความสุข

ฉันใช้เวลานานมากในการเกลี้ยกล่อมเธอ แต่ทำไมถึงไม่สามารถเทียบกับคำพูดของทั้งสามคนนี้ได้เลย เธอไม่เพียงแค่หยุดร้องไห้เท่านั้น แต่เธอยังยิ้มออกมาอีกด้วย

หลังจากยืนนิ่งอยู่กับที่ชั่วครู่พร้อมกับมองดูเด็กชายทั้งสองคนที่ทำให้ไอรดายิ้มกว้างจนแทบถึงหู เขาก็ตัดสินใจก้าวเข้าไปในห้องเพื่อจะพาไอรดากลับบ้าน

พวกเขามาเพราะไอรดาต้องการคำยืนยันในสิ่งที่เธออยากรู้ด้วยตัวของเธอเอง เมื่อทำอย่างที่เธอตั้งใจเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลากลับบ้านได้เสียที

ทันทีที่เขาเดินเข้าไปใกล้ไอรดา เขาก็ได้ยินเสียงท้องของเธอร้อง

รษิกาขมวดคิ้วขึ้น “เธอยังไม่ได้กินข้าวเย็นเหรอ?”

ไอรดาเม้มริมฝีปากไว้แน่นพลางพยักหน้าตอบรับ

เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้น รษิกาก็หันมามองเลอศิลป์ด้วยสายตาที่ตำหนิติเตียน

เลอศิลป์ชำเลืองมองหน้ารษิกาด้วยความเฉยเมยพลางพูดว่า “ก็ผมพยายามคุยกับเธอแล้ว เธอทั้งร้องไห้ ทั้งขังตัวเองอยู่บนห้องนอนทันทีที่กลับมาถึงบ้าน โดยที่ไม่ยอมกินและไม่ยอมดื่มอะไรเลย แต่พอผมบอกว่าจะพาเธอมาที่นี่ เธอก็เลยหยุดร้องไห้เพราะอย่างนั้นพวกเราก็เลยยังไม่ได้กินข้าวเย็นกันน่ะสิ”

รษิกามองเสื้อเชิ้ตตัวบางของเขาแล้วก็ละสายตาไป

ทางด้านของอชิ เขามองไอรดาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “พวกเราเพิ่งเริ่มกินข้าวกัน เธออยากกินข้าวกับพวกเราด้วยไหม?”

ดวงตาของไอรดาเป็นประกายวิบวับ เธอรีบพยักหน้าตอบรับอย่างร้อนใจ ในตอนนั้นเองเธอก็นึกขึ้นได้ว่าต้องขออนุญาตพ่อของเธอก่อน

เลอศิลป์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่รษิกาพลางพูดขึ้นว่า “ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป คุณช่วยหาอะไรให้เธอทานหน่อยได้ไหม?”

“หนูอยากนั่งตรงกลางระหว่างเขาสองคนไหมจ๊ะ?” รษิกาถาม

ไอรดายิ้มดีใจขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน

อชิและเบนนี่รีบขยับเก้าอี้เพื่อทำให้มีที่ว่างเพียงพอให้ไอรดามานั่งอยู่ระหว่างพวกเขา

เลอศิลป์ขมวดคิ้วขณะที่มองดูไอรดาที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ระหว่างฝาแฝดทั้งสองคน

จากที่เขาเห็น พวกเขาทุกคนดูเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนตัวเขาเองดูเหมือนคนแปลกหน้าเสียมากกว่า

หลังจากที่ช่วยให้ไอรดานั่งลงและเสิร์ฟอาหารให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว รษิกาก็มองไปที่เด็กทั้งสามคนที่นั่งข้างกัน พลางยิ้มแย้มออกมาอย่างมีความสุข

ทว่าสายตาของชายคนหนึ่งซึ่งจ้องมองเธออยู่ข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง

เธอหยุดยิ้มก่อนที่จะหันกลับมามองเลอศิลป์ทันที

เมื่อเธอจ้องหน้าเขา เลอศิลป์ก็สงบสติอารมณ์ตัวเองลงทันที

“แล้วคุณล่ะ?” รษิกาถามออกมาอย่างสบายๆ เพื่อควบคุมความรู้สึกของเธอไว้

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เลอศิลป์ก็ดูสับสนขึ้นมาทันที

รษิกาหลบสายตาจากเขาและมองไปที่จานบนโต๊ะพร้อมกับพูดว่า “คุณกินอะไรแล้วหรือยัง?”

ถ้าเกิดว่าไอรดาอาละวาดและไม่ยอมทานข้าวเย็น แสดงว่าเขาก็ต้องยุ่งอยู่กับการเกลี้ยกล่อมเธอทั้งคืนโดยที่ไม่ได้ทานข้าวเย็นเช่นกัน

เลอศิลป์รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขาจ้องมองเธออยู่พักหนึ่งก่อนจะหรี่ตาลงมองเธอด้วยความเฉยชา พร้อมกับตอบไปว่า “ผมสบายดี ที่บ้านมีอาหารเย็นอยู่แล้ว เดี๋ยวผมกลับบ้านไปอุ่นกินเอง แค่ไอรดาชอบเล่นกับพวกเด็กๆ ผมขอโทษด้วยที่ต้องมารบกวนและทำให้ลำบากใจ ผมจะรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นโดยที่ไม่รบกวนพวกคุณทุกคนก็แล้วกัน”

จากนั้นเขาก็มองเด็กน้อยที่ร่าเริงทั้งสามคนก่อนที่จะเดินออกไป

เมื่อรษิกาได้ยินคำพูดของเขาและสังเกตเห็นว่าเลอศิลป์กำลังจะเดินออกไปโดยที่ไม่ได้ทานอะไรเลย เธอก็อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากของตัวเองไว้ก่อนจะพูดว่า “อาหารที่มีอยู่ตอนนี้ก็เพียงพอสำหรับทุกคน และแน่นอนว่าไอรดาก็คงไม่สบายใจหรอก หากว่าพ่อของเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย”

ไอรดาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวลใจเมื่อเห็นว่าเลอศิลป์กำลังจะเดินออกไป

รษิกาจัดเตรียมอาหารให้เขาและวางมันไว้บนโต๊ะโดยที่ไม่รอคำตอบของเลอศิลป์ “ถ้าหากว่าคุณไม่รังเกียจ ก็มานั่งกินข้าวด้วยกันเถอะ”

ในตอนนั้นอชิถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

ในทางกลับกัน เบนนี่ยังคงตั้งใจกินข้าวต่อไป แต่เขาก็แอบชำเลืองมองชายคนนั้นอยู่เป็นระยะๆ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม