“ผมเชื่อว่าผลกำไรที่ผมมอบให้กับตระกูลภักดีสรวงตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นเพียงพอที่จะตอบแทนความมีน้ำใจของคุณภาคย์ที่มีต่อผมแล้วนะครับ ฉันยินดีช่วยตระกูลภักดีสรวงด้วยเช่นกันถ้ามันจำเป็น ดังนั้นการแต่งงานกับอัญชสาจึงไม่จำเป็นเลย” เลอศิลป์ตอบ
จากนั้นเขาก็จ้องมองเอกพลอย่างเคร่งขรึมขณะที่เขารอให้พ่อของเขาสั่งสอนเขาเหมือนที่แม่ทำ
แต่เขาก็ต้องประหลาดใจ เอกพลนั้นเพียงแค่พยักหน้าหลังจากชะงักไปชั่วครู่และพูดอย่างสงบ “ทำสิ่งที่ลูกเชื่อว่าถูกต้อง แต่พ่อเองก็ทำอะไรกับแม่ได้ไม่มากนัก นั่นคือสิ่งที่ลูกจะต้องจัดการด้วยตัวเอง”
เลอศิลป์รู้สึกประหลาดใจมากจนเขานิ่งอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินเช่นนั้น "ขอบคุณครับพ่อ"
เอกพลพยักหน้า “ลูกบอกว่ามีธุระที่ต้องจัดการ พ่อก็จะไม่รั้งลูกไว้ ไปทำสิ่งที่ต้องทำเถอะ”
พวกเขาทั้งสองมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการจัดการสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ
เลอศิลป์ลุกขึ้นเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรอีก
หลังจากเข้าไปในลิฟต์ เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและคิดว่าจะโทรหารษิกา
ก่อนหน้านี้ที่เราคุยกันจบลงไปไม่ค่อยดีนัก ฉันสงสัยว่าเธอจะรับสายของฉันหรือเปล่า...
ในขณะเดียวกันบนชั้นสามของห้องจัดเลี้ยง รษิการู้สึกมึนเมามากจนแทบจะยืนแทบไม่ไหว ราวกับว่าแค่นั้นยังไม่แย่พอ อาการปวดหัวยังทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลงไปอีก
“คุณหมอรษิกา” เมื่อสังเกตเห็นว่าเธอไม่ค่อยสบายตัวนัก เจตนินจึงรีบห้ามคนอื่นไม่ให้ดื่มอวยพรให้เธออีก จากนั้นเขาก็หยุงเธอไว้และพาเธอไปที่มุมห้องจัดเลี้ยง
รษิกาเหลือบมองเขาด้วยความสับสนเมื่อเธอได้ยินเขาเรียก
“คุณดื่มมากเกินไปแล้วใช่ไหม? ผมจะส่งคุณกลับบ้านตอนนี้เลย” เจตนินพูดด้วยความรู้สึกผิด
เขาตั้งใจเพียงให้เธอได้พบกับผู้คนที่เกี่ยวข้องในโครงการนี้เท่านั้น เขารู้ว่าจะต้องมีการดื่มอยู่ด้วย แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะเมามากขนาดนี้
รษิการู้สึกแย่มากจนเธอต้องใช้เวลาพักหนึ่งเพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่เขาพูด "ใช่ฉันไม่ไหวแล้วค่ะ ปวดหัวมากเลย” เธอพึมพำขณะนวดหน้าผาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...