อย่างไรก็ตาม เลอศิลป์กลับขมวดคิ้วแน่นเมื่อฟังคำพูดของเพื่อนสนิทเขา
เมื่อต้องเผชิญกับการที่เลอศิลป์ไม่ตอบอะไร จักรภพก็เร่งเร้าอย่างกังวลว่า “โครงการของเรากำลังจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และมโหสถกรุ๊ปก็เป็นผลงานที่สำคัญอย่างยิ่ง หากเราไม่สามารถเข้าครอบครองได้ เราจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถอยและรอโอกาสต่อไป”
นั่นคือความพยายามของจักรภพในการตั้งคำถามกับเลอศิลป์ การยอมแพ้เป็นเรื่องหนึ่งสำหรับคชาเรศกรุ๊ป แต่ฟ้าศิริสวัสดิ์กรุ๊ปนั้นไม่เคยถอยหนีจากสิ่งใดๆ มาก่อน
เมื่อพิจารณาจากสถานะของพวกเขาในเมืองหัสดินแล้ว ฟ้าศิริสวัสดิ์กรุ๊ปนั้นมีหนทางของพวกเขาเสมอไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร บริษัทจำนวนมากต่างกรูกันให้ร่วมมือกับพวกเขา
ด้วยความไร้ยางอายที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด มโหสถกรุ๊ปไม่เพียงแต่กล้าที่จะต่อรองกับฟ้าศิริสวัสดิ์กรุ๊ปเท่านั้น แต่พวกเขายังยกเลิกสัญญาในนาทีสุดท้ายอีกด้วย
หากเป็นบริษัทอื่น เลอศิลป์คงสอนบทเรียนอันเจ็บปวดให้พวกเขาไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เลอศิลป์ก็ไม่ได้โต้ตอบในตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะเตรียมยอมรับความสูญเสียโดยไม่มีการตอบโต้ใดๆ
จักรภพหงุดหงิดกับความคิดนั้น “เลอศิลป์ นายคิดอะไรอยู่? ทำไมนายไม่จัดการอะไรกับมโหสถกรุ๊ปเลย? มีอะไรรบกวนใจนายอยู่เหรอ? ฉันได้ยินมาว่า…”
ก่อนที่จักรภพจะพูดจบ เลอศิลป์ก็ขัดขึ้น “ในเมื่อได้รับเลือกให้เป็นทายาทตระกูลดำรงกุล เจตนินจึงไม่ใช่คนโง่อย่างแน่นอน ถ้าแม้แต่นายยังมองออกว่ามโหสถกรุ๊ปเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทำไมเขาจะมายอมแพ้เพราะเห็นแก่ผลกำไรระยะสั้นล่ะ?”
จักรภพคิดว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องในคำพูดของเลอศิลป์
เขาหมายถึงอะไรที่บอกว่า “แม้แต่ฉันยังมองออก”? เขาคิดว่าฉันด้อยกว่าเจตนินเหรอ?
ถ้าเจตนินไม่ใช่คนโง่จริงๆ เขาคงเลือกจะทำงานกับคชาเรศกรุ๊ปมากกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...