หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 82

เมื่อพวกเขามาถึงห้องนั่งเล่น รษิกาก็ถูกบังคับให้นั่งลงบนโซฟา

เด็กๆ แห่กันมามุงรอบๆ และจ้องมองนิ้วของเธอที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าเช็ดหน้าขณะที่เลอศิลป์ยังหาชุดปฐมพยาบาลในห้องนั่งเล่นไม่พบ

ในที่สุดอชิก็กระโดดลงมาจากโซฟาและจัดแจงเอาชุดปฐมพยาบาลมาให้จากชั้นวางโทรทัศน์

เลอศิลป์ลูบหัวของเด็กชายด้วยความขอบคุณ เขายืนถัดจากรษิกาพร้อมกับชุดปฐมพยาบาลในมือของเขา

เด็กๆ รีบถอยออกมายืนข้างๆ ทันที

เลอศิลป์นั่งลงข้างๆ รษิกา การที่เขามานั่งอยู่ตรงนี้ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะท้านแม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่ได้บ่งบอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเขานั้นดูอ่อนโยนขึ้นกว่าที่เคยเป็น

รษิกามองเขาทำแผลให้เธอก่อนที่จะบังคับตัวเองให้มองไปทางอื่น เธอเลยตั้งใจจ้องมองไปที่พื้นแทน

การมองเขานานเกินไปรังแต่จะสร้างความเข้าใจผิด เลอศิลป์เกลียดเธออย่างแน่นอนแต่ทำไมจู่ๆ เขาถึงเกิดเป็นห่วงเธอขึ้นมากันนะ?

หลังจากใส่ยาที่แผลของเธอเรียบร้อยแล้ว เลอศิลป์ก็พันผ้าพันแผลให้เธอ

รษิกาแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขาปล่อยมือเธอในที่สุด เธอขยับตัวออกห่างจากเขาทันทีที่เธอทำได้ “ขอบคุณนะและขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องลำบาก”

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อบกับคำพูดของเธอ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร

รษิกาเหลือบมองไปยังพื้นห้องครัวที่เละเทะและลุกขึ้น

“คุณจะทำอะไร?” น้ำเสียงหงุดหงิดดังขึ้นอีกครั้ง

รษิกานิ่งไป “พื้นห้องครัวนี่ต้องทำความสะอาด” เธอเอ่ยขึ้น “เดี๋ยวเด็กๆ อาจเดินเข้ามาเหยียบเศษแก้วได้”

เลอศิลป์หน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิม

ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีชื่อเสียงโด่งดังแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถดูแลตัวเองได้อยู่ดี!

รษิการู้สึกประหม่ากับสีหน้าบึ้งตึงของเลอศิลป์ในตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าคราวนี้เธอทำอะไรผิดอีก

หรืออาจเป็นเพราะปัญหาที่เธอสร้างไว้ให้เขาก่อนหน้านี้?

คิดดูดีๆ แล้ว รษิกากำลังจะกล่าวขอโทษเขาเมื่อเขาเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า

“คุณจะให้ผ้าพันแผลของคุณเปียกไม่ได้ เดี๋ยวผมหาแม่บ้านมาให้คุณเอง”

โดยไม่ให้โอกาสเธอตอบ เลอศิลป์ก็โทรหาผู้ช่วยของเขา

หลังจากอาหารเย็น ครรชิตกำลังจะอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอน จู่ๆ ก็มีสายเรียกเข้าจากเจ้านายของเขา ครรชิตจึงรับโทรศัพท์ด้วยความตื่นตระหนก

“หาแม่บ้านให้ฉันหน่อย และส่งเธอมาที่บ้านเลขที่สามสิบสอง ในสวนดาราวรรษภายในครึ่งชั่วโมง”

ครรชิตตะลึงงัน ก่อนที่เขาจะทันได้ถามคำถามใดๆ ปลายสายก็กดวางไปเรียบร้อยแล้ว

หลังจากจ้องหน้าจอโทรศัพท์ที่มืดสนิทอยู่หลายวินาที ครรชิตก็ติดต่อบริษัทแม่บ้านและส่งแม่บ้านส่วนตัวไปตามที่อยู่ที่เลอศิลป์แจ้งไว้

“พวกเขากำลังมา” เลอศิลป์บอกกับรษิกาเสียงเบาหลังจากที่เขาวางสาย

รษิกาหยุดขัดขืนเมื่อเขาหาแม่บ้านให้เรียบร้อยแล้ว เธอนั่งเว้นระยะห่างจากเขาพอสมควร

เด็กๆ ทั้งสามคนนั่งอยู่ระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองและมองหน้ากันไปมาอย่างเงียบๆ

บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเป็นไปอย่างอึมครึม

ราวๆ ยี่สิบนาทีถัดมา กริ่งที่หน้าประตูก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดในห้องนั่งเล่น

รษิกากำลังจะเดินไปเปิดประตูแต่เลอศิลป์ไปถึงก่อน

“คุณเลอศิลป์ครับ” ครรชิตยืนอยู่ที่อีกฝั่งของประตูกับหญิงผมสั้นวัยกลางคน

เลอศิลป์เบี่ยงตัวไปด้านข้างขณะที่ผงกศรีษะเชิญให้พวกเขาเข้ามา

แม่บ้านทำความสะอาดห้องครัวอย่างสะอาดเอี่ยมจนน่าประหลาดใจ และยังคุยกับเด็กๆ ไปด้วยขณะที่เธอทำงาน

เธอทำให้เด็กๆ สนุกสนานจนหยุดหัวเราะไม่ได้

หลังจากเห็นว่าเด็กๆ กับแม่บ้านเข้ากันได้ดีเพียงใด รษิกาก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา เธอตัดสินใจเป็นฝ่ายเริ่มถามก่อนว่า “ขอโทษนะคะ ฉันรบกวนถามคุณได้ไหมคะว่าคุณต้องการทำงานแบบเต็มเวลาที่นี่ไหม หน้าที่หลักๆ ของคุณคือการดูแลเด็กๆ และทำความสะอาดบ้านนิดหน่อย ฉันมีเงินเดือนให้คุณค่ะ”

หญิงคนนั้นรีบตอบตกลง “ฉันอยากทำค่ะ และบังเอิญว่าฉันชอบเด็กๆ มากด้วย คุณเรียกฉันว่าลิสาได้เลยค่ะ ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม