หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 91

หลังจากทานอาหารเสร็จอัครพลก็กลับไปที่ห้องของเขาเพื่อพักผ่อน

รษิกาเดินตามเขาไปเพื่อตรวจดูอาการของอัครพลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะลงไปข้างล่างเพื่อกล่าวลา

“นี่ก็ดึกมากแล้ว ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านเถอะ” จักรภพเอ่ยขึ้น

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ” รษิกาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “คุณยังมีแขกที่ต้องดูแล”

จักรภพรู้ว่าเธอพูดถูกและไม่อยากเซ้าซี้เธอ “ถ้าอย่างนั้น ก็เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะครับ อ้อ ยังไงก็อย่าใส่ใจกับคำพูดของคุณปู่มากเลยนะครับ คนแก่ก็มักจะกังวลแต่เรื่องอะไรแบบนั้นแหละครับ”

รษิกาทำได้แค่ยิ้มให้ ก่อนที่จะหันหลังเตรียมตัวกลับ

“นี่ก็ดึกแล้ว และฉันยังมีงานที่ต้องกลับไปทำ ฉันคงต้องขอกลับก่อนนะ” จู่ๆ เลอศิลป์ก็เอ่ยขึ้นเมื่อเขาเห็นว่ารษิกาเดินออกจากบ้านไป

อัญชสาผู้ที่ระแวงอยู่แล้วจึงเอ่ยขึ้นเช่นกันว่า “อ้อ ฉันก็คิดว่าฉันก็ต้องกลับแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรากลับด้วยกันเลยแล้วกันนะ”

“ไม่ได้หรอก ผมไปคนละทางกับคุณน่ะ ผมขอตัวก่อนนะ” เลอศิลป์ตอบกลับเรียบๆ และเดินออกไปก่อนที่อัญชสาจะทันได้พูดอะไรออกมาอีก

ขณะที่เธอมองเขาเดินออกไป อัญชสาก็ยืนงงอยู่อย่างนั้น ใบหน้าของเธอมีแต่ความตะลึงงัน

จักรภพเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเช่นกัน

ตั้งแต่เริ่มรับประทานอาหาร เขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างระหว่างเลอศิลป์และหญิงสาวทั้งสองคน แต่เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่

“อัญชสา เธอโอเคไหม?” ฝนทิพย์พึมพำเมื่อเห็นอาการตะลึงงันของเพื่อนสาว

โชคดีที่อัญชสาดึงสติกลับมาได้และยิ้มอย่างรวดเร็ว “อืม ฉันยังมีงานที่ต้องทำ ดังนั้นฉันจะไม่รบกวนพวกเธอแล้วล่ะ”

จักรภพและฝนทิพย์สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของอัญชสา พวกเขาจึงไม่ถามอะไรเธอต่อ หลังจากคุยกันต่ออีกสองสามคำ เธอก็กลับไป

เมื่อทั้งคู่กลับเข้ามาในบ้าน จักรภพก็หันมามองน้องสาวของเขาทันที “นี่ เธอรู้ได้ยังไงว่าคุณหมอรษิกามีลูกแล้ว?”

ฝนทิพย์เม้มปาก “ฉันเห็นพวกเขาตอนที่ฉันออกไปทานข้าวกลางวันกับอัญชสาน่ะ อ้อ! แล้วฉันก็รู้มาด้วยว่าเธอคือภรรยาเก่าของเลอศิลป์ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะยังมีหน้ากลับมาอีก”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จักรภพก็อึ้งไปชั่วขณะด้วยความที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

เขาไม่สงสัยแล้วที่รู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดระหว่างคุณหมอรษิกาและเลอศิลป์! เธอคือผู้หญิงเมื่อหกปีก่อนคนนั้นนั่นเอง!

ถึงแม้ว่ารษิกาจะออกมาจากบ้านและขึ้นรถของเธอเรียบร้อยแล้ว เธอก็ยังรู้สึกจิตใจฟุ้งซ่านจากบทสนทนาที่เธอได้ยินบนโต๊ะอาหาร

เธอใช้เวลาพักหนึ่งเพื่อเรียบเรียงความคิดและเริ่มสตาร์ทรถเมื่อเธอสงบจิตใจลงได้

ทันใดนั้นเองก็มีคนมาเคาะที่หน้าต่าง

รษิกาหันไปตามเสียงนั้น แต่เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเคาะกระจกเธอก็ทำเหมือนว่าเธอไม่ได้ยิน

คนที่อยู่ด้านนอกรถเคาะกระจกรถเธออีกครั้ง จนกระทั่งเขาก้มลงมองเข้าไปในรถ

แม้ว่ารษิกาจะรู้ว่าไม่มีใครสามารถมองเห็นเธอได้จากด้านนอกรถ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะเครียด หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็ลดกระจกหน้าต่างลง “มีอะไร?”

เลอศิลป์ที่ยืนอยู่ข้างรถรษิกาเลิกคิ้วอย่างใจเย็นเมื่อได้ยินเสียงของเธอ “วันนี้ผมไม่ได้ขับรถมา ถ้าคุณสะดวกรบกวนไปส่งผมหน่อยได้ไหม?”

ทันทีที่พูดจบเขาก็เอื้อมมือไปเปิดประตูรถ

ก่อนที่รษิกาจะตั้งสติได้เลอศิลป์ก็ขึ้นรถและนั่งตรงเบาะผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว

เขาคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็วและพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ”

เมื่อรษิกาได้สติเธอก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “แล้วคนขับรถของคุณไปไหนซะล่ะ?”

“มันดึกมากแล้วน่ะ ในเมื่อผมสามารถหารถกลับบ้านได้ง่ายๆ ทำไมผมต้องรบกวนให้เขามาถึงนี่ด้วยล่ะ?”

คำตอบนั้นทำให้รษิกาพูดไม่ออก และใช้เวลาพักหนึ่งก่อนที่จะโพล่งออกไปว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด คุณอัญชสาก็ยังไม่กลับนะ และฉันคิดว่าเธอคงยินดีไปส่งคุณ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม