หลังจากทานอาหารเสร็จอัครพลก็กลับไปที่ห้องของเขาเพื่อพักผ่อน
รษิกาเดินตามเขาไปเพื่อตรวจดูอาการของอัครพลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะลงไปข้างล่างเพื่อกล่าวลา
“นี่ก็ดึกมากแล้ว ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านเถอะ” จักรภพเอ่ยขึ้น
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ” รษิกาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “คุณยังมีแขกที่ต้องดูแล”
จักรภพรู้ว่าเธอพูดถูกและไม่อยากเซ้าซี้เธอ “ถ้าอย่างนั้น ก็เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะครับ อ้อ ยังไงก็อย่าใส่ใจกับคำพูดของคุณปู่มากเลยนะครับ คนแก่ก็มักจะกังวลแต่เรื่องอะไรแบบนั้นแหละครับ”
รษิกาทำได้แค่ยิ้มให้ ก่อนที่จะหันหลังเตรียมตัวกลับ
“นี่ก็ดึกแล้ว และฉันยังมีงานที่ต้องกลับไปทำ ฉันคงต้องขอกลับก่อนนะ” จู่ๆ เลอศิลป์ก็เอ่ยขึ้นเมื่อเขาเห็นว่ารษิกาเดินออกจากบ้านไป
อัญชสาผู้ที่ระแวงอยู่แล้วจึงเอ่ยขึ้นเช่นกันว่า “อ้อ ฉันก็คิดว่าฉันก็ต้องกลับแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรากลับด้วยกันเลยแล้วกันนะ”
“ไม่ได้หรอก ผมไปคนละทางกับคุณน่ะ ผมขอตัวก่อนนะ” เลอศิลป์ตอบกลับเรียบๆ และเดินออกไปก่อนที่อัญชสาจะทันได้พูดอะไรออกมาอีก
ขณะที่เธอมองเขาเดินออกไป อัญชสาก็ยืนงงอยู่อย่างนั้น ใบหน้าของเธอมีแต่ความตะลึงงัน
จักรภพเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเช่นกัน
ตั้งแต่เริ่มรับประทานอาหาร เขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างระหว่างเลอศิลป์และหญิงสาวทั้งสองคน แต่เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่
“อัญชสา เธอโอเคไหม?” ฝนทิพย์พึมพำเมื่อเห็นอาการตะลึงงันของเพื่อนสาว
โชคดีที่อัญชสาดึงสติกลับมาได้และยิ้มอย่างรวดเร็ว “อืม ฉันยังมีงานที่ต้องทำ ดังนั้นฉันจะไม่รบกวนพวกเธอแล้วล่ะ”
จักรภพและฝนทิพย์สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของอัญชสา พวกเขาจึงไม่ถามอะไรเธอต่อ หลังจากคุยกันต่ออีกสองสามคำ เธอก็กลับไป
เมื่อทั้งคู่กลับเข้ามาในบ้าน จักรภพก็หันมามองน้องสาวของเขาทันที “นี่ เธอรู้ได้ยังไงว่าคุณหมอรษิกามีลูกแล้ว?”
ฝนทิพย์เม้มปาก “ฉันเห็นพวกเขาตอนที่ฉันออกไปทานข้าวกลางวันกับอัญชสาน่ะ อ้อ! แล้วฉันก็รู้มาด้วยว่าเธอคือภรรยาเก่าของเลอศิลป์ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะยังมีหน้ากลับมาอีก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จักรภพก็อึ้งไปชั่วขณะด้วยความที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
เขาไม่สงสัยแล้วที่รู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดระหว่างคุณหมอรษิกาและเลอศิลป์! เธอคือผู้หญิงเมื่อหกปีก่อนคนนั้นนั่นเอง!
ถึงแม้ว่ารษิกาจะออกมาจากบ้านและขึ้นรถของเธอเรียบร้อยแล้ว เธอก็ยังรู้สึกจิตใจฟุ้งซ่านจากบทสนทนาที่เธอได้ยินบนโต๊ะอาหาร
เธอใช้เวลาพักหนึ่งเพื่อเรียบเรียงความคิดและเริ่มสตาร์ทรถเมื่อเธอสงบจิตใจลงได้
ทันใดนั้นเองก็มีคนมาเคาะที่หน้าต่าง
รษิกาหันไปตามเสียงนั้น แต่เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเคาะกระจกเธอก็ทำเหมือนว่าเธอไม่ได้ยิน
คนที่อยู่ด้านนอกรถเคาะกระจกรถเธออีกครั้ง จนกระทั่งเขาก้มลงมองเข้าไปในรถ
แม้ว่ารษิกาจะรู้ว่าไม่มีใครสามารถมองเห็นเธอได้จากด้านนอกรถ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะเครียด หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็ลดกระจกหน้าต่างลง “มีอะไร?”
เลอศิลป์ที่ยืนอยู่ข้างรถรษิกาเลิกคิ้วอย่างใจเย็นเมื่อได้ยินเสียงของเธอ “วันนี้ผมไม่ได้ขับรถมา ถ้าคุณสะดวกรบกวนไปส่งผมหน่อยได้ไหม?”
ทันทีที่พูดจบเขาก็เอื้อมมือไปเปิดประตูรถ
ก่อนที่รษิกาจะตั้งสติได้เลอศิลป์ก็ขึ้นรถและนั่งตรงเบาะผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว
เขาคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็วและพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ”
เมื่อรษิกาได้สติเธอก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “แล้วคนขับรถของคุณไปไหนซะล่ะ?”
“มันดึกมากแล้วน่ะ ในเมื่อผมสามารถหารถกลับบ้านได้ง่ายๆ ทำไมผมต้องรบกวนให้เขามาถึงนี่ด้วยล่ะ?”
คำตอบนั้นทำให้รษิกาพูดไม่ออก และใช้เวลาพักหนึ่งก่อนที่จะโพล่งออกไปว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด คุณอัญชสาก็ยังไม่กลับนะ และฉันคิดว่าเธอคงยินดีไปส่งคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
เนื้อเรื่องวนอยู่อ่าง10รอบ,😁😁😁...
วนกลับมาที่เดิมอีกรอบ ประสาทแดก นิคือ 2วันกลับมาอ่าน1บท ก้อยังวนอยู่ที่เดิม ใครซื้ออ่าน เอาตังค์ซื้อบ้านได้เลยมั้ง...
แล้วจะไงต่อ ไอวีโดนตี โดนทำร้าย หนักก่อน ? ทั้งๆ ควรจะรู้ได้แล้ว ที่โดนวางยา ขนาดนั้น เห้อออออ มาตามอ่านแต่ก็เบื่อ ว่าวนๆอยู่ที่เดิม...
ทะเลาะอึกแล้ว ถึงตอนนี้ ถ้าควรมีไรเปลี่ยนแปลงบ้างค่ะ นอกจากพากลับบ้าน วนหลูบอีกกกกแล้ว...
ที่สุดของการวนเวียนย่ำอยู่กับที่ เนื้อเรื่องไม่มีไรเลย น้ำล้วนๆ น่าจะไป5000ตอน พ่อแม่ลูกยังไม่รู้จักกัน โอ้ยประสาท ละครไทยชิบ มีไรไม่พูดกัน หลบกันไปหลบกันมา...
เนื้อเรื่องวนอยู่ในอ่างมากค่ะ น่าเบื่อ ไม่สนุก เสียดายตอนแรกๆทำไว้สะสนุกเลย เนื้อหาออกทะเล กู่ไม่กลับ ใครไหวไปก่อนเลยจ้าาา...
ไม่ถึงไหนเลยจริงๆ พอดีน่าจะเก่งกว่านี้ดูมีอิทธิพล แต่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง แค่ลูกก็ยังไม่รู้เลย มึนนนนค่ะ...
ทำไมกดไปตอน1036ไม่ไปละ...
เข้าไปอ่านถึงตอน1035แล้วอ่ะแต่ไปต่ออีกไม่ได้...
เนื้อเรื่องหลงทางวนไปมา ไม่สนุก...