เมื่อสัมผัสได้ถึงความโกรธของเลอศิลป์ รษิกาก็กะพริบตาและหลบตาด้วยความรู้สึกผิด
“ถ้ามันไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แล้วคุณมาที่นี่ทำไมคะ? คุณเลอศิลป์” เธอถาม
เลอศิลป์เหลือบมองเธออย่างหม่นหมอง เขาแค่มาเยี่ยมเธอตามคำแนะนำของจักรภพ นั่นคือเพื่อช่วยเธอในช่วงวิกฤติ
แต่ท่าทีเย็นชาของเธอที่มีต่อเขาก็ทำให้เขาไม่อยากจะบอกความจริงกับเธอ
ห้องทำงานปกคลุมไปด้วยความเงียบในทันที
รษิการู้สึกหนักใจมาก
ผ่านไปสักพัก เธอก็ทนความเงียบไม่ไหว เธอก้มหน้าลงและพูดว่า “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราออกไปกันเถอะค่ะ เด็กๆ รอพวกเราอยู่นานแล้ว”
พอพูดเช่นนั้นแล้ว รษิกาก็เดินเข้าไปหาเลอศิลป์เพื่อจะออกจากห้องทำงาน
หลังจากก้าวออกไป ข้อมือเธอก็มีมือใหญ่ของชายหนุ่มมาคว้าเอาไว้
รษิกาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดเดินและขมวดคิ้วใส่เลอศิลป์
เขาเป็นอะไรไป? เขาไม่บอกฉันว่าเรื่องอะไร แล้วก็ไม่ให้ฉันออกไปด้วย เขาต้องการอะไรกันแน่?
รษิกาไม่รู้จริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงเหวี่ยงแขนอย่างหมดความอดทนเพื่อพยายามจะให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา
“ตามข้อมูลที่ผมมี ไฟที่ไหม้ในสถาบันทำลายสมุนไพรที่คุณเอามาจากมโหสถกรุ๊ปไปจนหมดแล้ว” เลอศิลป์พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำหลังจากใช้เวลาอยู่นานเพื่อระงับความโมโห
เมื่อได้ยินเช่นนั้น รษิกาก็หยุดดิ้นรนเพราะความสงสัยในใจเธอก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง
เขารู้เรื่องราวทั้งหมดอย่างแจ่มแจ้งได้ยังไงถ้าเขาไม่ได้เป็นคนทำ? แต่ในเมื่อเขาอธิบายตัวเองไปแล้ว ฉันก็แสดงความสงสัยออกไปอย่างเปิดเผยไม่ได้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม