รษิกาพาอชิกับเบนนี่กลับไปที่ห้องนั่งเล่นหลังจากเห็นรถของเลอศิลป์ขับออกไปแล้ว
เด็กชายทั้งสองคนมองรษิกาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
แม่อารมณ์ไม่ดีมาสองสามวันแล้ว พอออกจากห้องทำงานมา แม่ก็อารมณ์ไม่ดีมากขึ้นไปอีก ฉันสงสัยว่าพ่อพูดอะไรกับแม่เมื่อกี้นี้บ้าง
เบนนี่เก็บซ่อนความรู้สึกไม่เก่ง เขาจึงถามออกมาทันทีว่า “แม่ครับ เมื่อกี้แม่คุยอะไรกับคุณเลอศิลป์เหรอครับ?”
เมื่อได้ยินคำถามเขา ดวงตาของรษิกาก็เข้มเครียดขึ้นมาขณะที่ก้มหน้าลงมามองเขา
ทั้งอชิกับเบนนี่แค่จ้องมองเธอ ราวกับจะบอกว่าเธอหลอกพวกเขาไม่ได้
ขณะที่เธอสบตาพวกเขา รษิกาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และตอบไปเพราะไม่อาจเลี่ยง “เราคุยกันเรื่องงานจ้ะ”
ทว่า เบนนี่ก็ถามอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ “แต่แม่ดูเหมือนจะอารมณ์เสียมากเลยนะครับ”
เมื่อก่อนนี้ พวกเขาไม่เคยเห็นรษิกาเป็นแบบนี้มาก่อนเพราะเรื่องเกี่ยวกับงานเลย
มันเหมือนว่าเธอกำลังระแวงอะไรบางอย่างอยู่
อชิกับเบนนี่มองตากัน สายตาของพวกเขามีแต่ความสับสน
พ่อไปทำอะไรให้แม่ต้องระแวงเขาแบบนี้นะ?
รษิการู้ว่าคำอธิบายของเธอไม่อาจหลอกลูกชายทั้งสองได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่อธิบายให้พวกเขาฟังสั้นๆ “คุณเลอศิลป์อยากจะร่วมงานกับแม่ แต่แม่ปฏิเสธข้อเสนอของเขา”
เด็กชายทั้งสองไม่ได้รับคำตอบตามที่พวกเขาต้องการ จึงขมวดคิ้วและอยากจะไล่ถามต่อไป
แต่ว่ารษิกาไม่อยากอธิบายอะไรต่อ เธอแค่เสริมไปว่า “ความขัดแย้งที่เกี่ยวกับงานมันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกจ้ะ เป็นเรื่องธรรมดามากๆ พวกลูกไม่ต้องกังวลมากเกินไปหรอกนะ”
ฟังดูเหมือนเป็นสิ่งเดียวกันกับที่เลอศิลป์ได้บอกกับไอรดา
แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากเชื่อคำพูดเธอ แต่อชิกับเบนนี่ก็ยอมรับว่าสิ่งที่รษิกาพูดมานั้นเป็นความจริง
กระนั้น เด็กชายทั้งสองก็ไม่ได้รู้ว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานแค่นั้นจริงๆ หรือไม่
ถ้าคิดไม่ผิด นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ไอรดาได้ไปตั้งแคมป์ ดูจากบุคลิกของเลอศิลป์แล้ว เขาเองก็น่าจะไม่รู้เรื่องการตั้งแคมป์มากนัก ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเตรียมของไปให้ไอรดาได้หรือเปล่า ฉันจึงควรจะเตรียมไปให้เธอด้วย เผื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม