หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 953

อชิ เบนนี่ และไอรดาจ้องมองเลอศิลป์ที่เดินหายออกไปก่อนจะมองหน้ากัน เด็กทั้งสามคนรู้สึกไม่เต็มใจอย่างยิ่งที่เห็นเขาเดินออกไป

เราอุตส่าห์วางแผนจัดฉากให้พ่อกับแม่ยอมตกลงที่จะค้างคืนที่นี่ แล้วมันก็จะเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าพ่อออกไปแบบนั้นจริงๆ ความพยายามทั้งหมดของเราก็เสียเปล่าน่ะสิ! อีกอย่าง พ่อตัวสูงมาก แล้วรถนั่นก็แคบเกินไป มันคงทรมานมากหากว่าเขานอนในรถ!

สมองของพวกเขาแล่นปั่นป่วนอย่างรวดเร็วขณะที่พยายามคิดให้ออกว่าจะทำอย่างไรให้เลอศิลป์เปลี่ยนใจ

ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตาของรษิกาวูบไหวขณะที่เฝ้ามองร่างของชายหนุ่มเดินห่างออกไป

“เบียดๆ กันหน่อยก็พอจะมีที่ว่างอยู่นะคะ”

ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดแบบนั้นเมื่อเขาเกือบจะหายไปจากสายตาของเธอ

ทันทีที่คำพูดของเธอดังขึ้น เลอศิลป์ก็หยุดเดินและหันกลับไปมอง

รษิกาหรี่ตาลง “คุณนอนเหยียดตัวในรถไม่ได้ ดังนั้นคุณคงจะเมื่อยแย่แน่หลังจากไปนอนในรถอย่างนั้น แต่ว่าในเต็นท์ก็ยังมีพื้นที่ว่าง และสะดวกสบายกว่าในรถยนต์มาก ถ้าคุณไม่รังเกียจ คุณเลอศิลป์ เราแค่ค้างคืนในเต็นท์นี้ไปก่อนก็ได้ค่ะ”

แม้ว่าเธอไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา เธอก็รู้ว่าเขาจะต้องทรมานแน่หากเขาไปนอนในรถเมื่อดูจากความสูงของเขา

ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็รู้สึกผิดกับสถานการณ์ก่อนหน้านี้ เขาแค่มาเพื่อช่วยเหลือเธอ และมันไม่มีเหตุผลที่จะขับไล่ไสส่งเขาไปนอนในที่ที่ลำบากอย่างนั้น

เด็กๆ ไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะเป็นคนเริ่มพูดและขอให้เขาอยู่ต่อ พวกเขาอึ้งไปพักหนึ่งก่อนที่จะรีบพูดเสริมรษิกา

“หนูอยากนอนกับพ่อค่ะ!” ไอรดาคร่ำครวญ เธอยื่นมือออกไปหาเลอศิลป์

เช่นนั้นแล้ว อชิกับเบนนี่ก็เร่งเร้าด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย “นอนกับเราเถอะครับ คุณเลอศิลป์! พวกเรากลัวกันนิดหน่อย”

เลอศิลป์กวาดตามองพวกเขา และท้ายที่สุดสายตาเขาก็มาหยุดที่รษิกา

พูดตามตรง เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะเสนอให้เขาอยู่ต่อเหมือนกัน

เมื่อรษิกาสัมผัสได้ถึงสายตาเขา เธอก็กะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้เขาอย่างสดใสเพื่อแสดงออกถึงความจริงใจของเธอ

พอเห็นว่าเธอไม่ได้ยื่นข้อเสนอนั้นแค่เพื่อความสุภาพ เลอศิลป์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาหันหลังเดินกลับเข้าไปในเต็นท์ โดยล้มตัวลงไปนั่งอีกฟากหนึ่งของเด็กๆ

เมื่อเขากลับมา แววเจ้าเล่ห์ก็เปล่งประกายในดวงตาของเด็กๆ

ไม่นานนัก เสียงอ่อนโยนของรษิกาก็ดังมาเข้าหูพวกเขา “ดึกแล้วนะ รีบเข้านอนกันเถอะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เด็กๆ ก็หลับตาลงอย่างพึงพอใจ

เวลาต่อมา ไอรดาลืมตาและมองไปทางรษิกาด้วยท่าทีน่าสงสาร

“หนูนอนไม่หลับ คุณช่วยเล่านิทานให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ? คุณรษิกา”

ในตอนนั้น รษิกากำลังนอนอยู่ข้างเธอถัดจากพวกเด็กๆ โดยกำลังรอให้เด็กทุกคนหลับก่อนแล้วเธอจึงค่อยหลับ

ดังนั้น เธอจึงตอบตกลงตามคำขอของไอรดาโดยไม่ลังเล และเริ่มเล่านิทานอย่างอ่อนโยน

ในชั่วพริบตา เต็นท์ทั้งเต็นท์ก็เงียบไป เหลือแค่เพียงเสียงอันไพเราะของรษิกาลอยวนไปมาในอากาศ

มีโคมไฟกลางคืนเล็กๆ เปิดอยู่ในเต็นท์ และแสงไฟนั้นก็สลัว

เลอศิลป์นั่งอยู่อีกฝั่งของเต็นท์ เขาจับจ้องเด็กๆ ที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างลึกลับ และหญิงสาวก็เล่านิทานให้พวกเขาฟังภายใต้แสงไฟที่สลัว

เด็กๆ นั้นน่ารักและเป็นเด็กดี ส่วนเสียงของรษิกาก็อ่อนโยนและอบอุ่นมาก

ใครที่ได้มาเห็นภาพนี้ก็จะต้องรู้สึกอบอุ่นใจอย่างไม่น่าเชื่อ รวมทั้งตัวเลอศิลป์เองก็ด้วย

ขณะที่นิทานกำลังจะจบลง สายตาเธอก็ยิ่งอ่อนโยนมากขึ้นจนเห็นได้ชัด

เวลาผ่านไป เด็กทั้งสามก็ค่อยๆ หลับลง

เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของพวกเขา รษิกาก็ล้มตัวลงนอนอย่างระมัดระวัง

อนิจจา แม้ว่าจะผ่านไปนานแล้ว เธอก็ยังคงนอนไม่หลับ

แม้ว่าเด็กๆ จะนอนเป็นกำแพงกั้นระหว่างเธอกับเลอศิลป์ แต่เธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อการที่ชายคนนั้นอยู่ในเต็นท์เดียวกันกับเธอได้

ในความเป็นจริง ความเสียใจกำลังคืบคลานเข้ามาในใจเธอ โอ๊ย! ฉันไม่น่าขอให้เขาอยู่ต่อตอนที่เขาต้องการจะออกไปก่อนหน้านี้เลย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม