พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 326

จนถึงเวลาอาหารเย็นตอนหัวค่ำ

เพราะมีนวิยา เด็กทั้งสองคนก็ไม่ร่าเริงอย่างปกติ ตอนที่กินข้าว เอาแต่ก้มหน้ากินข้าว ไม่พูดอะไรสักคำ

วารุณีไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ก็ไม่พูดไปซะเลย

จึงทำให้ ห้องทานอาหารที่กว้างใหญ่ มีบรรยากาศแปลกๆ กดดันอย่างมาก

สุดท้าย ก็เป็นนวิยาที่พูดก่อน ทำลายความเงียบลง

เธอมองคอของวารุณี“คุณวารุณี จี้ที่ฉันให้คุณ คุณไม่ได้สวมเหรอ?”

“ทิ้งไปแล้ว”วารุณีดื่มซุป แล้วตอบไปตรงๆ

ใบหน้าของนวิยารับไม่ได้“ทิ้งแล้ว?”

“ใช่ค่ะ”วารุณีพยักหน้า

นวิยากัดริมฝีปาก ท่าทางเหมือนเสียใจมาก“ทำไม?เป็นเพราะฉันให้เหรอคะ?”

วารุณีวางตะเกียบลง จะพูดอะไร

นวิยาพูดอีกครั้ง“คุณวารุณี คุณไม่คิดว่าคุณทำแบบนี้มันมากเกินไปเหรอ?ฉันตั้งใจให้ขอขวัญคุณ คุณทิ้งได้ไงคะ?”

ฟังน้ำเสียงถามไถ่ของเธอ วารุณีก็เอามือกอดอก มองเธอเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม“ของขวัญแย่มาก ฉันทิ้งไม่ได้เหรอ?”

“ของขวัญอะไร?”เห็นหญิงสาวสองคนเถียงกัน ในที่สุดนัทธีก็พูด วางตะเกียบลงมองไปที่นวิยา

สายตานวิยาสั่นคลอน“เป็นจี้”

“จี้แบบไหน รบกวนคุณคุณนวิยาพูดออกมาได้ไหม?”คำเยอะเย้ยที่ใบหน้าวารุณีก็ชัดเจนขึ้น

เห็นสถานการณ์แบบนี้ นัทธีก็เดาได้แล้วว่าของขวัญมีปัญหา สีหน้าหม่นลงไป“นวิยา คุณให้อะไรไปกันแน่?”

“ฉัน......”นวิยาจับตะเกียบแน่น พูดว่าฉันอยู่นาน ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากฉัน

วารุณีรอต่อไปไม่ไหว หัวเราะอย่างเย็นชา“พูดไม่ออกใช่ไหม งั้นฉันพูดเอง เธอให้หนูตัวหนึ่งฉันมา”

“หนู?”นัทธีขมวดคิ้วเป็นเส้นตรงสามเส้น“นวิยา ทำไมคุณถึงให้หนูล่ะ?”

นวิยาก้มหน้าลง“เพราะว่า......คุณวารุณีเกิดปีหนู ดังนั้น......”

“ถ้าเป็นเพราะปีนักษัตรของฉัน แล้วคุณให้เครื่องประดับหนูฉันมา ฉันดีใจมากค่ะ เพราะว่าเครื่องประดับประเภทนี้น่ารักมาก แต่หนูที่คุณให้ฉันมา ไม่มีชิ้นส่วนประกอบที่เข้ากันเลย เห็นได้ชัดว่าสั่งทำเอง เป็นหนูขี้ขโมยโดยเฉพาะ คุณกำลังแอบบอกเป็นนัยอะไรฉันหรือเปล่าคะ?”วารุณีมองเธออย่างสงสัย

ได้ยินคำนี้ นัทธีก็เข้าใจแล้ว

นวิยาให้เครื่องประดับหนูที่สั่งทำแก่วารุณี แต่หนูตัวนี้ไม่ได้น่ารัก แต่เป็นหนูที่ตั้งใจขโมยของโดยเฉพาะ

หมายความว่า นวิยาแอบบอกเป็นนัยวารุณีว่าเป็นคนขโมยของ ส่วนของที่ขโมยนั้นเป็นอะไรนั้น

สีหน้านัทธีหม่นลงอย่างดูแย่ รอบตัวนั้นเยือกเย็น

“นวิยา คุณฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ?”เขามองนวิยาด้วยสายตาเย็นชา

วารุณีเห็นเด็กทั้งสองคนกินกันพอประมาณแล้ว ตบไหล่ของอารัณ สื่อว่าให้อารัณพาน้องสาวออกไป

ยังไงเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กก็อย่าฟังมากเลย

นวิยาได้ยินน้ำเสียงแสนเย็นชาของนัทธี เบ้าตาก็แดงก่ำทันที“นัทธีฉัน......”

“ผมคุยกับคุณกี่ครั้งแล้ว ผมเคยบอกแล้ว วารุณีเป็นภรรยาผม คุณอย่าเล่นงานเธอ ก่อนหน้านี้คุณรับปากอย่างดี แต่จากนั้นก็เปลี่ยนไป ครั้งที่แล้วทำเช่นนี้ที่ห้องคนไข้ ครั้งนี้ก็ทำแบบนี้ คุณอยากจะทำอะไรกันแน่?”นัทธีถามเธอ

นวิยาเหมือนจะตกใจ ตัวสั่น น้ำตาไหลพรากยิ่งกว่าเดิม“นัทธีคุณอย่าดุฉันสิ ฉัน......ฉันแค่......”

“พอแล้ว”นัทธียกมือขึ้นมา“อย่าให้มีอีกเป็นครั้งที่สาม นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ถ้ามีอีกครั้ง คุณย้ายออกไปจากที่นี่ได้เลย”

พูดจบ เธอก็จูงมือของวารุณี ออกไปจากห้องรับแขก

ในห้องอาหารก็เหลือแค่นวิยาเอง

นวิยานั่งกลับไปที่เก้าอี้ ก้มหน้าลงต่ำ ปกปิดความมืดมิดที่พลุ่งพล่านในดวงตา

เอคิดไม่ถึงว่า วารุณีจะพูดเรื่องจี้ออกมาตรงๆ ทำให้เธอโดนนัทธีตำหนิ

แต่ช่วงนี้ เธอก็หัวรุนแรงมากเกินไปจริงๆ จะทำเช่นนี้อีกไม่ได้แล้ว ไม่งั้นก็จะทำลายความอดทนของนัทธีไปหมดจริงๆ ซึ่งสำหรับเธอแล้ว ไม่ใช่เรื่องดี

อีกด้าน วารุณีตามนัทธีมาที่ห้องรับแขก

วารุณีชักมือของตัวเองกลับ“ฉันคิดว่า คุณจะปกป้องเธอเสียอีก”

นัทธีเม้มริมฝีปาก“สำหรับคุณแล้ว ผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ