ปาจรีย์พยักหน้าด้วยสีหน้าที่ดูแย่เช่นกัน“ฉันถามแล้ว มีเกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกัน”
“มีด้วยเหรอ?”วารุณีกำหมัดแน่น ทันใดนั้นก็คิดถึงส่วนสำคัญในนั้นได้ทันที“ดูเหมือนทางโรงงานจะมีปัญหา”
“ฉันก็คิดอย่างนั้น จะต้องมีช่างตัดเสื้อที่เปลี่ยนผ้า ใช้ผ้าคุณภาพต่ำมาแทนผ้าเดิมแน่ ดังนั้นฉันคิดว่าเดี๋ยวจะไปดูที่โรงงาน”ปาจรีย์พูด
วารุณีสูดหายใจลึกๆ พยายามระงับความโกรธไว้“เดี๋ยวฉันไปกับเธอ ตอนนี้เธอติดต่อหน้าร้านแต่ละแห่งทันที ให้พวกเขาเอาเสื้อผ้าคุณภาพต่ำพวกนั้นลงให้หมด อันอื่นที่ขายไปแล้ว ติดต่อลูกค้าที่ซื้อไปแล้วเอาคืนมา และเตรียมของขวัญชดเชยให้ด้วย ขอโทษดีๆ พยายามรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ไว้”
“โอเค”ปาจรีย์ตอบไป
วารุณีพูดไปอีกว่า:“และก็ เธออธิบายเรื่องนี้ในบล็อกทางการของบริษัทด้วย แม้ว่าเรื่องตอนนี้จะยังไม่ร้ายแรง แต่พวกเรายอมรับเองว่าเสื้อผ้ามีปัญหา ก็ดีกว่าเรื่องต่อจากนี้จะใหญ่โตขึ้นมา”
“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะโทรศัพท์ไปที่บริษัทให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์โพสต์บล็อก และติดต่อหน้าร้านแต่ละแห่งด้วย”พูดไป ปาจรีย์ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรศัพท์ออกไป
วารุณีเม้มริมฝีปาก เรียกผู้จัดการร้านออกมา “คุณใส่เสื้อผาพวกนี้ที เดี๋ยวฉันเอาไป”
“โอเค”ผู้จัดการร้านตอบไป แล้วเก็บเสื้อผ้าที่พื้นไปใส่ถุง
แป๊บเดียว ปาจรีย์ก็โทรศัพท์เสร็จกลับมา“วารุณี จัดการเรียบร้อยแล้ว”
วารุณีตอบอือ“งั้นพวกเราไปเถอะ”
“โอเค”
ทั้งสองคนถือถุงสองสามถุงออกไปจากร้าน เดินไปที่ลิฟต์
เดินไปถึงลิฟต์ เหมือนวารุณีจะรู้สึกอะไรได้ หยุดฝีเท้าลง หันมองไปด้านตรงข้าม
ด้านตรงข้ามไม่ไกลนัก เธอเห็นด้านนอกร้านเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง มีคนหนึ่งที่แต่งตัวมิดชิดยืนอยู่หลังราวบันไดทรงโค้ง กำลังจ้องมองเธอมาอย่างใจจดใจจ่อ
วารุณีมองไม่เห็นหน้าคนนั้น ได้แต่รับรู้ว่าคนนั้นเป็นผู้หญิง ผ่านส่วนสูงและรูปร่างของคนนั้น
แต่เหมือนคนนั้นจะรู้จักเธอ ในดวงตาที่อยู่ใต้หมวก เป็นความเกลียดชังที่ทำให้คนรู้สึกกลัว และความเกลียดชังนั้นดูเหมือนใกล้จะกลายเป็นมีดจริงๆ
คนนั้นคือใคร?
ปาจรีย์ที่อยู่ข้างๆเห็นจู่ๆวารุณีไม่ยอมเดิน และยังหันไปเอาแต่มองด้านตรงข้าม ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปอย่างแปลกใจ
การมองนี้ ก็มองเห็นฉากที่คนตรงข้ามแปลกๆกดหมวกลง ปิดหน้าแล้วก้มหลังวิ่งออกไปพอดี
คนนั้นวิ่งไวมาก เหมือนกับปลาหมู แป๊บเดียวก็หายไปกับฝูงคน
“วารุณี คนนั้นใครน่ะ?”ปาจรีย์ชี้ไปทางที่คนนั้นวิ่งออกไปแล้วถาม
วารุณีส่ายหน้า“ฉันก็ไม่รู้”
“ไม่รู้?”ปาจรีย์เลิกคิ้ว“งั้นทำไมเธอเอาแต่มองไปที่เธอล่ะ?”
วารุณีไม่พูด คิ้วที่สวยงามขมวดเป็นเส้นสามเส้น ในใจไม่สบายใจแปลกๆ
จู่ๆคนนั้นก็แค้นเธอขนาดนี้ บางทีต่อไปอาจจะทำอะไรเธอก็ได้
ก็แค่ไม่รู้ว่า คนนั้นใช่คนที่ทำลายโกดังของพวกเธอ และยังจับตัวเธอ พาตัวอารัณไปและยังทำให้อารัณกับพงศกรประสบอุบัติเหตุอีกหรือไม่
“โอเควารุณี อย่ายืนอีกเลย พวกเรารีบไปเถอะ”ปาจรีย์เอาไหล่ชนวารุณี
วารุณีได้สติคืนมา ตอบอือ แล้วเข้าไปในลิฟต์
หนึ่งชั่วโมงถัดมา ทั้งสองคนมาที่โรงงาน
ผู้จัดการโรงงานเรียกพนักงานทุกคนมารวมตัว ยืนอยู่ลานกว้างด้านนอกโรงงาน
วารุณียืนอยู่ตรงหน้าทุกคน ดูเย็นชา ปาจรีย์ยืนอยู่ข้างๆเธอ สีหน้าก็เหมือนกัน
“ทุกคนอยู่ตรงนี้หมดไหม?”วารุณีถามผู้จัดการโรงงาน น้ำเสียงนั้นเยือกเย็น
ตอนที่ผู้จัดการโรงงานได้รับสายของปาจรีย์ ก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตอนนี้จึงพยักหน้าด้วยเหงื่อที่เต็มหน้า“ไม่สิ......ยังมีอีกสองคนที่ไม่อยู่ครับ”
“ใคร?”วารุณีหรี่ตาลง
ผู้จัดการโรงงานก็ไม่ปิดบัง“ผู้จัดการโกดังที่ดูแลเรื่องผ้า และหัวหน้าที่ดูแลการผลิตขั้นต้น”
“พวกเขาล่ะ?”หน้าเล็กๆของวารุณีหม่นลงไป ถามเสียงคมกริบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...