กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 119

“ด้วยเหตุผลที่ต้องติดต่อพูดคุยกันเรื่องการทำงานอยู่บ้าง ก็ไม่ถือว่าใกล้ชิดสนิทสนมกันค่ะ”

“คุณไม่ต้องแสร้งถ่อมตัว ฉันได้ยินมาหมดแล้ว เพราะคุณ แม้แต่ความสัมพันธ์ของตาธัสกับกันญ่าสี่ปีเขายังไม่สนใจเลย” จงกลยังคงมีสีหน้าท่าทางเพิกเฉยสงบนิ่งอยู่อย่างนั้น แม้แต่น้ำเสียงก็ไม่ได้ดูถูกแต่อย่างใด

ณิชาเข้าใจคำตักเตือนที่อยู่ในคำพูดของเธอชัดเจนมาก จึงมองจงกลด้วยแววตาจริงใจ แฝงด้วยความดื้อรั้นแบบเด็กๆ

เธอไม่ใช่คนประเภทนั้นอย่างที่จงกลคิด!

“สำหรับเรื่องการยกเลิกการแต่งงานของคุณเวธัสและคุณกันญ่าฉันต้องแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แต่ฉันก็เป็นแค่ลูกจ้างของคุณเวธัสเท่านั้นค่ะ”

“พอเถอะ อย่าพูดจาด้วยคำพูดหรูหราสูงส่งหลอกลวงคนอื่นพวกนั้นเลย แม้ฉันจะไม่ได้ฉลาดหลักแหลมพอ แต่ก็แก่กว่าเธอ เคยเห็นผู้หญิงวัยรุ่นมานักต่อนักแล้ว โดยการวางแผนคิดจะเกาะผู้ชายให้ได้ดิบได้ดี ผู้หญิงพวกนี้คิดจะเข้าหาเวธัส ฉันไม่เคยคิดจะเข้ามาขัดขวางมาก่อน เพราะอย่างไรเสียเรื่องพวกนี้คนที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบก็มักจะเป็นผู้หญิง”

จงกลพูดจาเสียงเบาๆ สาเหตุเพราะใบหน้าที่ขาวซีดของเธอ เสียงจึงไม่ดัง พอสายลมพัดมาก็เหมือนจะได้ยินไม่ชัดเจน

แต่คำพูดเหล่านั้นณิชาได้ยินทั้งหมดแล้ว อีกอย่างทุกคำก็กระแทกใจดำของเธออย่างแรง

จงกลกระแอมเบาๆ พร้อมทั้งพูดต่อไปอย่างเนิบนาบว่า “ในโลกนี้ไม่มีทางลัดไปสู่จุดสูงสุดตลอดไปหรอก ตัวของตัวเองยังไม่รัก แล้วจะหวังให้คนอื่นมารักคุณได้ยังไง”

“คุณณิชา ฉันอยากจะเกลี้ยกล่อมคุณสักสองสามประโยค การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ แน่นอนว่าต้องมีสถานะทางบ้านเหมาะสมคู่ควรกัน ถ้าเธอกอบโกยเงินได้มากพอแล้วก็หยุดเถอะ มิเช่นนั้นอนาคตเธอจะต้องจบอย่างอนาถ คนที่น่าสมเพชก็คือตัวเอง”

ณิชารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตัวเธอเองนั้นเย็นเฉียบไปทั้งตัว

ทว่างหางตามองก็ไม่พลาดสายตาอันท้าทายอย่างสะใจแบบนั้นของกันญ่าไปได้

กันญ่ายินดีในความอับอายขของณิชา เธอแอบดีใจ

จงกลเป็นบุคคลสำคัญในใจของเวธัส ซึ่งรู้ว่าณิชาสู้เธอไม่ได้

อีกอย่างคำพูดเหล่านี้ เป็นการลดคุณค่าในตัวณิชาให้ต่ำลงไปอยู่ในเศษฝุ่นธุลีทุกถ้อยทุกคำ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอากาศสดใสมาก ผู้หญิงหน้าเงินที่เปลี่ยนใจง่ายที่ถูกแส้เฆียนตีอยู่ในอากาศอย่างไร้ร่องรอย

ดูสิว่าณิชาจะโต้แย้งอย่างไร…

ณิชาเองก็ไม่มีอะไรจะอธิบายได้จริงๆ

ในเมื่อ เธอได้รับผลประโยชน์จากเวธัส ทั้งยังได้มาไม่น้อยด้วย

จงกลในฐานะที่เป็นญาติผู้ใหญ่ของเวธัส แน่นอนว่าเธอมีเหตุผลที่จะสงสัยว่าผู้หญิงที่เข้าใกล้เขามีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์

แพขนตาแน่นและเรียวเล็กสั่นเล็กน้อย ณิชาคิดจะวิ่งหนีเตลิดไปไกลโดยไม่คิดอะไร แต่จู่ๆ เวธัสก็พูดขึ้นมา เพื่อขัดขวางการกระทำของณิชา

เขาพูดว่า “น้าเล็กครับ ผมจริงจังกับเธอครับ”

เสียงที่ทรงพลัง มีพลังมากพอที่จะทะลุทะลวง

ภายในห้องรับรองทั้งห้อง เกิดความเงียบงันไปชั่วขณะ

ณิชาเองก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ จนเผยให้เห็นสีหน้าท่าทางเหลือเชื่อออกมา

เธอมองเวธัสอย่างตกตะลึง สงสัยว่าตนเองคงจะหูฝาดอย่างรุนแรง

แต่เวธัส เดินมาข้างกายณิชา ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเธอ จากนั้น มือใหญ่ที่หยาบกร้านก็กุมมือเล็กๆ ของเธอ พร้อมทั้งบีบเบาๆ จากนั้นจึงใช้สิบนิ้วสอดประสานกันและยกขึ้นมา

ราวกับว่าจงใจให้จงกลเห็น และยังส่ายเบาๆ ให้เห็น

กลางอากาศ มีมือสองข้างซึ่งมีข้างหนึ่งใหญ่ข้างหนึ่งเล็ก สีของหลังมือก็แตกต่างกันไป ผิวสีแทนเกี่ยวกระหวัดกับผิวขาวนวลผ่อง ส่องประกายให้กันและกัน

เขาประสานสายตากับจงกล ซึ่งแววตาไม่ได้สงบเหมือนอย่างที่ผ่านมา แต่เคร่งขรึมจริงจัง “การหมั้นหมายของตระกูลสนธิไชยกับตระกูลสถานนท์ไม่สามารถยกเลิกได้ ถ้าไม่ถอนหมั้น งั้นก็เปลี่ยนเจ้าสาวใหม่ ในเมื่อชื่อก็ต่างกันแค่เสียงคำเดียวเอง”

จงกลมองสองมือที่จับกันไว้ของทั้งสองคน ทำไมยิ่งมองก็ยิ่งทิ่มตาชะมัด

“นาย…นายพูดอีกรอบสิ”

เวธัสเม้มริมฝีปากบางเบาๆ

ตระกูลสถาวระ บ้านคุณตาของเวธัสก็ถือว่าเป็นครอบครัวฐานะปานกลาง

แต่ลำดวนผู้ซึ่งเป็นแม่จับพลัดจับผลูเข้าสู่วงการบันเทิง ต่อมาได้รู้จักกับคุณพ่อ ทั้งสองคนเกิดความรู้สึกดีต่อกัน

แต่ว่าเมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อน ตระกูลสนธิไชยเรียกตัวเองว่าเป็นตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวย ตระกูลสนธิไชยไม่ยอมรับศิลปินนักแสดงแต่งเข้าบ้าน ดังนั้นที่ผ่านมาลำดวนจึงไม่ได้แต่งเข้ามาเป็นสมาชิกในตระกูลอย่างเปิดเผย

ต่อมาลำดวนตั้งครรภ์ ตอนคลอดก็คลอดยากอีก

ก่อนที่จะตายก็ได้ฝากฝังเวธัสไว้กับจงกล

จงกลขี้โรคมาตั้งแต่เด็ก ที่ผ่านมาเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยออกจากบ้าน เพราะว่าปัจจัยทางด้านร่างกายทำให้ไม่สามารถมีลูกสืบวงศ์ตระกูลได้ จึงดูแลเวธัสเหมือนเป็นลูกชายของตัวเอง

ความผูกพันยาวนานหลายปีของทั้งสองคน แม้ไม่ใช่แม่ แต่กลับแนบแน่นกว่าแม่เสียอีก

“น้าเล็ก น้าก็รู้จักนิสัยของผมดี ที่ผมบอกจะถอนหมั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น” เขาพูดด้วยเสียงอ่อนลง พร้อมทั้งพูดอธิบายอย่างจริงจัง

จงกลก็ยังไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ แม้เธอจะรู้ดีมากว่าเวธัสเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น

“แต่กันญ่าคบหากับนายมาสี่ปี….”

“ผมจะชดเชยให้เธอเองครับ คุณน้าร่างกายไม่แข็งแรง คุณหมอเคยบอกว่าทางที่ดีอย่าเที่ยวมาเดินตากลมให้มาก ผมให้คนส่งคุณน้ากลับบ้าน” เวธัสพูดจบ ก็มองไปที่เด็กเสิร์ฟ “ไปจัดการเรื่องรถ”

เด็กเสิร์ฟไม่กล้ารีรอ รีบไปหาคน

ซึ่งเป็นเรื่องที่แน่นอนว่าจงกลไม่อยากจะกลับไปในสถานการณ์แบบนี้ แต่ด้วยสุขภาพร่างกายของเธอไม่เหมาะให้เธออารมณ์แปรปรวน

เธอกำลังคิดว่าจะพูดเกลี้ยกล่อมอะไรสักอย่างกับเวธัส แต่พออ้าปากก็กลายเป็นเสียงไอเบาๆ เธอกำมือข้างหนึ่งแน่นแล้วแนบชิดที่มุมปาก ใบหน้างดงามของเธอก็ค่อยๆ ย่นเข้าหากัน….

กันญ่ารีบมาประคองจงกลอย่างเป็นเด็กดี

ความจริงแล้ว หัวสมองแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

เวธัส…ถึงขั้นกล้าขัดคำสั่งจงกล

แล้วยังประกาศว่าถ้าเธอไม่ยอมถอนหมั้น เขาก็จะเปลี่ยนตัวเจ้าสาวด้วย

นี่เป็นการหยามเกียรติกันญ่าอย่างชัดเจน!

“ในเมื่อคุณเวธัสพูดขนาดนี้แล้ว น้าเล็กคะ หนูกลับไปเป็นเพื่อนคุณน้านะคะ” กันญ่ากัดริมฝีปาก ราวกับได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจอย่างมาก

แววตาเวธัสเย็นยะเยือกลง น้ำเสียงแฝงด้วยการเตือนว่า “ไม่จำเป็นต้องรบกวนคุณกันญ่าหรอกครับ ละครฉากเมื่อกี้นี้แสดงพอแล้ว น้าเล็กร่างกายไม่แข็งแรง ไม่เหมาะที่จะคุณแสดงละครต่อ อีกอย่าง การแต่งงานต้องยกเลิกอยู่แล้ว ต่อไปขอความกรุณาคุณเรียกว่าคุณจงกลด้วยนะครับ”

น้าเล็กมาช้าไปหน่อย อาจจะมองเห็นไม่ถนัดสักเท่าไหร่

แต่เขาไม่ใช่คนโง่

เมื่อครู่ณิชาไม่ได้ออกแรง กันญ่ากลับทิ้งตัวล้มลงบนพื้น…

กันญ่าเสแสร้งเงยหน้าขึ้นมา หยาดน้ำตาคลออยู่ในเบ้าตา

เวธัส…ช่างใจร้ายจริงๆ เลย!

……

เวธัสลากณิชาออกจากWong Jiang

ใกล้กับเมืองพรมีคูเมืองยาวๆ สายหนึ่ง

เมื่อถึงฤดูร้อน ยามค่ำคืนมีลมพัดเย็นสบาย แต่กลับไม่ได้รู้สึกร้อนอบอ้าว จนกระทั่งสายลมนี้พัดมาปะทะใบหน้าณิชา ณิชามองไปยังมือที่ถูกเวธัสกุมไว้ แผ่นหลังเย็นวูบ ราวกับเพิ่งตื่นจากความฝัน--

“เวธัส นี่คุณล้อเล่น แรงไปหน่อยนะ”

ยืนอยู่บนถนนที่เงียบสงบ เงาของต้นไม้ร่ายรำหมุนวน แสงไฟสลัวของโคมไฟถนนก็สาดส่องลงมา

เธอจ้องมองเวธัสตรงๆ ดวงตาคู่สวยกลมโต ขนตาสั่นไหว

เวธัสโน้มตัวมา ลมหายใจที่ร้อนผ่าวของชายหนุ่มโอบล้อมเธอเอาไว้ พูดคำต่อคำว่า “ถ้าผมบอกว่า ไม่ได้ล้อเล่นล่ะ”

ณิชามองใบหน้าหล่อเหลาที่จู่ๆ ก็ขยายใหญ่ตรงหน้า ความกดดันเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ถอยหลังไปก้าวหนึ่งตามสัญชาตญาณ

ไม่ได้ล้อเล่นอะไร เขาต้องกำลังล้อเล่นอยู่แน่ๆ

เขาจงใจแกล้งเธอ

เวธัสเห็นเธอถอยหลังก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อบีบให้ใกล้ขึ้น ดวงตาสีดำจ้องมองเธออยู่ ไม่พลาดทุกสีหน้าท่าทางของเธอ

ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ โน้มลงมา นิ้วมือยึดท้ายทอยเธอไว้ กระตุกขึ้นด้านบนเบาๆ ตอนที่เขาพูดอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาก็แหบพร่าดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก เต็มไปด้วยเสน่ห์ ผสมกับการหยอกล้อ “อยากลองกับผมดูมั้ยล่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊