กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 129

เมื่อก่อนเขาใช้ตัวตนของปัณณ์ เขากลัวว่าจะถูกเปิดเผยอยู่ตลอดเวลา ที่กลัวกว่าคือจะโดนน้าณิชาทิ้ง

ตอนนี้เขาก็เป็นลูกของหม่ามี๊แล้ว......

ไม่กลัวว่าจะถูกน้าณิชาเกลียดอีกแล้ว!

ผู้คนมักโลภมาก เมื่อก่อนเขาคิดแค่ว่าอยากให้หม่ามี๊กลับมา แต่ตอนนี้หม่ามี๊กลับมาแล้ว เขาก็อยากได้บ้านที่อบอุ่น

มีหม่ามี๊ มีคุณพ่อแล้วก็ปัณณ์ด้วย

ครอบครัวสี่คนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข......

เมื่อได้ยินแบบนี้ ณิชาก็นั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าของอรัล สายตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น แล้วก็จับมือของเด็กน้อยเอาไว้ “น้องอรัลรับปากหม่ามี๊เรื่องนึงได้ไหม?”

“ไม่มีปัญหาครับ” เด็กน้อยพยักหน้า

“ก่อนที่หม่ามี๊จะหาความจริงได้ว่าทำไมหนูถึงไปอยู่ที่ตระกูลสนธิไชยได้ หนูต้องช่วยหม่ามี๊กุมความลับนี้ไว้ อย่าให้คนอื่นรู้ว่าหม่ามี๊เป็นหม่ามี๊

ตาของเด็กน้อยหรี่ลงแล้วพึมพำว่า “คุณพ่อไม่ใช่คนไม่ดี”

“แต่หม่ามี๊กลัวเขาแย่งหนูกับปัณณ์ไปเลี้ยงดู พอถึงเวลานั้นเราจะไม่ได้เจอกันอีก...”

ขนตาเรียวยาวของอรัลสั่นไหว ในดวงตาที่มืดมิดมีความมุ่งมั่นที่ไม่เข้ากับวัยของเขา

“หนูไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแยกพวกเราออกจากกันอีก! หม่ามี๊ ผมรับปาก ถ้ามี๊ไม่เห็นด้วย ผมจะไม่บอกความลับนี้เด็ดขาด แต่มี๊ต้องรีบหาความจริงเร็วๆนะ...”

“น้องอรัลเป็นเด็กดีจริงๆ”

ณิชาลูบจมูกที่สูงโด่งของเขา สัมผัสอันอบอุ่นทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลเวียนในหัวใจของเธอ

เธอต้องรู้ความจริงให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!

เวธัสตั้งใจแย่งน้องอรัลไปใช่ไหม?

คืนนั้นในสี่ปีก่อนที่พรากความบริสุทธิ์ของเธอไป แล้วยังทำให้เธอฝันร้ายอีก คนๆนั้นคือใครกันแน่?

ฐานภพ เวธัส?

พวกเขาสองคนใครกันแน่ที่เป็นพ่อของลูกทั้งสอง?

......

เวธัสรีบส่งปัณณ์ให้กับลุงชัย แล้วสั่งให้เขารีบพาปัณณ์กลับไปที่คฤหาสน์สนธิไชย

เขากำลังคิดว่าจะวกกลับไปหาณิชา เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

ณิชาส่งข้อความมา

ตาจ้องไปที่ข้อความบนหน้าจอ คิ้วขมวดเล็กน้อย

“ฉันเจอปัณณ์แล้ว คุณไม่ต้องมาแล้ว วันนี้ขอบคุณมาก”

......

ตอนกลางคืน ณิชาเข้าครัวทำกับข้าวที่รสชาติจืดๆ แทนรสชาติที่จัดๆ ที่ทำมาตลอด

สีดายังเล่นไพ่อยู่ข้างนอก บอกว่าคืนนี้อาจจะไม่กลับบ้าน

เมื่อก่อนก็เกิดเรื่องแบบนี้บ้าง แต่ณิชาก็ไม่ได้ถามอะไร โอกาสที่จะได้อยู่กันตามลำพังสองแม่รู้ก็ไม่บ่อย เธอก็อยากจะคุยเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมากับน้องอรัล

โต๊ะอาหารที่อยู่ริมหน้าต่าง ณิชาไม่หยุดที่จะคีบกับข้าวให้กับเด็กน้อย

“แสดงว่า เมื่อก่อนเวธัสไม่ค่อยกลับบ้าน?”

ถึงแม้อรัลอยากจะพูดแต่ด้านดีๆของพ่อ แต่ก็ไม่อยากจะพูดโกหก เด็กน้อยพยักหน้า

“ครับ แต่ว่าหม่ามี๊อย่าเข้าใจผิดนะ คุณพ่อต้องดูแลกิจการที่ใหญ่โตอย่างสนธิไชยกรุ๊ปแบบนั้น งานยุ่งทุกวันเลย ถึงแม้จะไม่กลับบ้าน แต่ส่วนใหญ่ก็นอนอยู่ที่บริษัท...”

ณิชาทำท่าเข้าใจ แต่กลับไม่เห็นด้วย “ถึงแม้ว่างานจะยุ่งขนาดไหน เขาก็ไม่ควรลืมว่าในบ้านยังมีลูกรอคอยเขาอยู่”

“ที่จริงผมชินแล้ว...”ใจของเด็กน้อยอบอุ่น

สิ่งที่เขาอยากได้ที่สุดก็เหมือนกับตอนนี้ ได้อยู่กับหม่ามี๊

“หม่ามี๊ไม่ดีเอง ไม่ได้อยู่ด้วยตอนหนูกำลังโต ต่อไปหม่ามี๊จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้อยู่กับหนูดีไหม?”

ในใจของณิชาเต็มไปด้วยความเสียใจและความรู้สึกผิด

ถ้ารู้ถึงตัวตนของน้องอรัลเร็วกว่านี้ ก็จะไม่ทำให้เขาทุกข์มากขนาดนั้น

เธอยังทำอาหารเสฉวนที่มีรสจัดให้เจ้าตัวเล็กอีก......

“แน่นอนว่าดีอยู่แล้ว แต่ว่า...”อรัลเกาหัวของตนเองแล้วพูดว่า “แต่ว่าปัณณ์ยังอยู่ที่คฤหาสน์สนธิไชย”

เมื่อณิชาได้ยิน เธอก็นิ่งเข้าสู่วังวน

ใช่แล้ว เธอไม่สามารถมีลูกทั้งสองคนอยู่ข้างกายได้ในเวลาเดียวกัน

จำเป็นต้องมีหนึ่งคนอยู่ที่คฤหาสน์สนธิไชย ไม่อย่างนั้นเวธัสต้องพลิกแผ่นดินหาคนแน่ๆ

“ไม่เป็นไร หม่ามี๊จะหาวิธีช่วยปัณณ์ออกมาให้ได้ เราจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา”ณิชาให้กำลังใจตัวเอง

สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาว่าใครคือชายคนนั้นในคืนนั้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว

......

อีกวัน ณิชาพาอรัลไปเดินตลาด

ช่วงนี้เด็กน้อยคนนี้ใส่แต่เสื้อผ้าของปัณณ์ ถึงแม้จะพอดี แต่เขาสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้

แล้วอีกอย่างเด็กทั้งสองมีนิสัยต่างกัน ลวดลายและเสื้อนอกที่ชอบก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สองแม่ลูกจูงมือกันเดินลงจากตึก และก็เห็นรถของฐานภพตรงถนน

ฐานภพลงจากรถ ชัดมากว่ากำลังรอสองแม่ลูกอยู่

ณิชารีบให้อรัลหลบอยู่ข้างหลัง

ไม่ว่างฐานภพจะเป็นพ่อของลูกสองคนหรือไม่ เธอก็ไม่ยอมให้แย่งเด็กไป

“ทำไม เธอกลัวฉันแย่งเด็กไปขนาดนั้นเลย?”ฐานภพเดินมาแล้วยิ้ม ในมือคีบบุหรี่แต่ไม่ได้จุดเอาไว้ ท่าทางเหมือนกับนักเลง

ณิชายิ้มมุมปาก “คุณชายภพแวะมา มีธุระเหรอคะ?”

“แน่นอน วันนี้ฉันตั้งใจทิ้งงานเพื่อมาอยู่กับลูกชายของฉัน”สายตาของฐานภพโฟกัสไปที่อรัล

ณิชาประหลาดใจ

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?

ฐานภพไม่เคยสนใจเรื่องเป็นตายไร้ดีของปัณณ์ วันนี้เขาจะมาไม้ไหนอีก

ฐานภพพาทั้งสองคนไปห้างที่ใหญ่และหรูหรา

ตลอดทางแวะตรงไปแต่ที่โซนเสื้อผ้าของเด็ก รอยยิ้มที่มุมปากของเขาช่างอ่อนโยนและดูเหมือนคนเป็นพ่อมาก

“ชุดนี้ ชุดนี้ ชุดนี้”

“นอกจากชุดที่ฉันชี้เมื่อกี้แล้ว ที่เหลือห่อให้หมดเลย”

“ลูก ยังมีอะไรที่ชอบอีกไหม? โมเดลรถยนต์ เครื่องบิน หรือหุ่นยนต์แปลงร่าง ชอบอะไรก็บอกมาได้เลย แล้วพ่อจะจัดส่งให้ถึงมือของลูกโดยเร็วที่สุด ”

หลังจากที่ฐานภพสั่งจบแล้ว เขาก็ก้มลงด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเขาลดต่ำลงเล็กน้อย และเขามองไปที่ชายร่างเล็กที่อยู่ข้างหน้า

อรัลตัวเล็ก เลยต้องเชยคางถึงจะสามารถสบตากับฐานภพได้

เขายิ้มโดยไม่แสดงความขี้ขลาด “แต่ผมชอบแค่ของขวัญที่หม่ามี๊ซื้อให้ผมเท่านั้น ”

“ฐานภพ คุณเป็นอะไรกันแน่?”

ฐานภพปัดผมหน้าของเขาเบาๆ “ฉันก็แค่อยากทำหน้าที่ของคนเป็นพ่อ หรือเธอเห็นฉันทำดีกับลูกไม่ได้?”

“ถ้าคุณจริงใจ ฉันก็ยินดี แต่ว่า...”สีหน้าของณิชาไร้ความรู้สึก “ฉันไม่เชื่อว่าคนอย่างคุณจะมีความจริงใจ”

“หึ ณิชา อย่าคิดว่าคนอื่นจะน่ารังเกียจอย่างเธอสิ เธอยึดครองลูกชายของฉันมาสี่ปีแล้ว และตอนนี้ฉันอยากจะทำดีกับลูกชายของฉัน แต่เธอไม่อนุญาต ฉันคิดว่าเธอแค่ต้องการฝึกลูกชายของเธอเป็นเครื่องมือให้เธอแก้แค้นฉัน! ”

“แก้แค้นคุณ? ถามว่าคุณเหมาะเหรอ?”การโต้กลับของณิชาไม่ได้อ่อนน้อมถ่อมตนหรือหยิ่ง แต่ทุกคำเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย

สายตาของฐานภพเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ เขาอยากจะฉีกณิชาให้ออกเป็นชิ้นๆ

แพรถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองนอกแล้ว

แต่อาการของเธอยังคงไม่คงที่มาก เธอมักจะเป็นบ้า ตื่นมาก็ทำร้ายตัวเองและพูดคนเดียวด้วย หมอบอกว่านี่เป็นความผิดปกติทางจิตอย่างร้ายแรงซึ่งนำไปสู่โรคฮิสทีเรีย หากไม่ดีขึ้น เธออาจกลายเป็นคนบ้าอย่างสมบูรณ์

ทั้งหมดเป็นเพราะณิชา

ในเวลานั้น แสงสีขาวระยิบระยับส่องผ่านเปลือกตาของอรัล...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊