จู่ๆ คุณย่าศิริจันทร์ก็เสียงดังขึ้น ใช้ไม้เท้านี่มือกระแทกพื้นอย่างแรง 2 3 ครั้ง
เดิมท่านคือผู้อาวุโสที่มีเกียรติที่สุดในตระกูลรุ่งโรจน์
แน่นอนว่าออร่าของเธอนั้นต้องไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะมาเปรียบเทียบได้ และการที่เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้ น้ำตาลเห็นน้อยมาก
เธอดีใจจนแทบจะบินได้เลย
ทำให้คุณย่ารังเกียจได้ขนาดนี้ มาดูสิว่าต่อไปณิชาจะเอาตัวรอดอยู่ยังไง?
“คุณย่าคะ ณิชาบังอาจมากจริงๆ แต่ว่าเธอ……”
“ฉันบอกว่าคนที่บังอาจก็คือเธอ!”ทันใดนั้นคุณย่าก็หันหน้ามา แล้วก็มองไปที่น้ำตาลด้วยสายตาที่โกรธเคือง
ความกดอากาศที่เย็นยะเยือกเปิดออก อากาศดูเหมือนว่าจะฉีกขาดออกจากกัน ทำให้น้ำตาลหายใจได้อย่างลำบาก
น้ำตาลหัวใจรัดแน่นขึ้นมาในทันที อ้าปากค้างยังไม่อยากจะเชื่อ
“คุณ……คุณย่าคะ คุณย่าพูดผิดไปหรือเปล่าคะ? คนที่ทำให้คุณย่าโกรธคือณิชา เธอ……”
“ทำไมไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ ว่าเธอคือณิชา?”
หลังจากออกจากเคาน์เตอร์เอสพี จิวเวลรี่ในวันนั้น คุณย่าศิริจันทร์ก็ได้ให้คนสนิทของตัวเองไปตามหาณิชา
แต่ว่าโชคไม่ดี ตอนนั้นก็วงจรปิดในร้านถ่ายได้แค่ใบหน้าด้านข้าง ไม่ก็เห็นแค่บนหัวของณิชาเท่านั้น ไม่สามารถสืบได้เลย หลังจากนั้น คุณย่าศิริจันทร์ก็ยังสงสัยว่าตัวเองจะมีโอกาสได้เจอกับเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกไหม……
แต่ไม่คิดเลยว่า เธอก็คือณิชานั่นเอง!
ณิชาที่น้ำตาลบอกว่าเป็นคนก้อปปี้ผลงานคนอื่น บังอาจ ไร้ยางอายและต่ำต้อย
ตอนนั้นที่เคาน์เตอร์เอสพี จิวเวลรี่ เธอออกหน้าแทนพนักงานขายทั่วไป แล้วเธอจะเป็นผู้หญิงที่นิสัยได้ยังไงกัน?
จากใบหน้าของเธอ คุณย่าศิริจันทร์ค่อนข้างจะเอนเอียงไปทางณิชามากกว่า แล้วนึกไปถึงการที่เธอให้ท้ายน้ำตาลให้ขับรถชนณิชา ก็รู้สึกแค้นเคืองเป็นพิเศษ และโกรธเคืองด้วย
น้ำตาลได้แต่อึ้งไปเลย
คนที่เธอเคยเน้นย้ำตลอด คนนี้ก็คือณิชาไม่ใช่เหรอ?
……
ชาลีอุ้มณิชาเข้าไปในห้องผู้ป่วย หมอยังไม่ทันได้ตรวจร่างกายให้ณิชา เวธัสก็มาถึงแล้ว
พอประชุมเสร็จก็ได้รับข่าวสารจากชาลี เขาก็ตรงมาที่โรงพยาบาลทันทีเลย
ชาลีเพิ่งจะวางณิชาลงบนเตียงพอดี
เวธัสก็ก้าวยาวเข้ามา พอเห็นณิชาที่นอนอยู่บนเตียง ผู้หญิงที่เมื่อเช้ายังร่าเริงอยู่กับเขา แล้วก็แกล้งให้เขากินแพนเค้กจีน ตอนนี้ใบหน้าของเธอนั้นซีดเซียว แถมที่ข้อมือเสื้อยังมีเลือดติดอยู่ด้วย
สิ่งที่เขามองเห็น ก็คือใบหน้าเล็กๆ ที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ขมวดรวมกันเป็นก้อนเดียว
แค่ไม่เจอกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหน้าอกของเธอขยับขึ้นลงเพราะกำลังหายใจอย่างอ่อนโรย เขาก็คงจะคิดว่าเธอได้กลายเป็นศพที่เย็นเยือกไปแล้ว
เวธัสใจสั่น มากกว่าความโกรธคือความรู้สึกสงสาร
เธอก็แค่ไปร่วมการแข่งขันหนึ่งเท่านั้นเอง แต่กลับทำให้ตัวเองมาต้องเป็นแบบนี้……
ชาลีวางณิชาลงบนเตียง ตอนที่กำลังดึงมือกลับมานั้น ก็รู้สึกได้ถึงความกดอากาศต่ำภายในห้อง หันหน้าไปก็เห็นว่าเวธัสมาแล้ว แล้วก็ต้องตกใจกับเมฆครึ้มบนใบหน้าของเขา
“ธัส นายใจเย็นก่อนนะ ณิชาน่าจะไม่เป็นอะไร……”
เวธัสไม่ฟังคำปลอบจากเขา เขาไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ยื่นมือมาดึงเขาออก แล้วก็นั่งลงที่ขอบเตียงของณิชา
เขาประคองณิชาให้ลุกขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แล้วก็พิงกับอ้อมแขนของตัวเอง
ฝ่ามือหนาที่อบอุ่นเครื่องไปแตะที่หน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิของเธอ……
ยังดีหน่อย ไม่ได้เป็นไข้
“ตรวจให้เธออย่างละเอียด”เวธัสหันไปสั่งคุณหมอ
คุณหมอรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ก้าวมาด้านหน้าด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา แล้วก็ตรวจร่างกายให้ณิชาตามปกติ
ณิชาสับสนมึนงง ที่จริงเธอก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกตัวทั้งหมด จริงๆ เธอก็ยังได้ยินอยู่ว่ามีใครพูดอะไรข้างๆ เธอ ดูเหมือนพึมพำ แต่ฟังไม่ออกว่าใครพูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...