กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 182

ทันทีที่หมอพูดจบ สายตาที่เย็นชาของเวธัสก็มองไปทันที

“เธอผอมขนาดนี้แล้วยังต้องลดน้ำหนักอีกเหรอ? ” น้ำเสียงมืดมน ตามมาด้วยความกดอากาศที่แข็งแกร่งมาก อากาศภายในห้องดูเหมือนว่าจะเบาบางลงเล็กน้อย

หมอรีบหุบปากด้วยความไม่พอใจฉันที

สายตาของเวธัสก็มองไปที่ณิชาอีกครั้ง

เขาเคยไปบ้านเธอหลายครั้งก็ไม่เคยเห็นยาลดน้ำหนัก แล้วอีกอย่างปกติเธอเป็นคนใส่ใจเรื่องอาหารและร่างกายของตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรต้องใช้ยาลดน้ำหนัก พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เขาค่อนข้างจะมั่นใจว่าเธอไม่ได้กินยาถ่าย

ถ้าอย่างนั้นความเป็นไปได้ที่หลงเหลืออยู่ก็คือ……กินเข้าไปโดยบังเอิญ หรือถูกคนวางยา

อาหารเช้าที่เธอกินในวันนี้เขาเป็นคนซื้อเอง และเขาก็กินด้วย ความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย

ความน่าจะเป็นมากที่สุดก็คือ……

มีคนเจตนาวางแผนทำร้าย!

พอคุณย่าศิริจันทร์ได้ยินว่าณิชากินยาถ่ายเข้าไป คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น แต่ว่าเธอก็มีจุดให้ต้องสนใจอีกข้อหนึ่งในตอนนี้ ก็คือความสัมพันธ์ของเวธัส ณิชาและชาลี

ทั้งๆ ที่ชาลีก็ดูปกป้องณิชาขนาดนั้น แต่ดูท่าทาง……

เวธัสจะดูสนิทสนมกับณิชามากกว่าอีก

“ชาลี……”คุณย่าศิริจันทร์จ้องมองชาลีด้วยความสงสัย ถามด้วยสายตาว่า “สรุปแล้วแกกับณิชาเป็นอะไรกัน ”

ชาลีเข้าใจความหมายของคุณย่า เขายักไหล่ “ก็เหมือนกับที่ย่าเห็นนั่นแหละ”

“……ณิชาไม่ใช่แฟนแกเหรอ?”คุณย่าศิริจันทร์ขมวดคิ้ว

“ย่าเคยเห็นผมเอาผู้หญิงดีๆ มาเป็นแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”มีรอยยิ้มชั่วร้ายอยู่ตรงมุมปากของชาลี และอธิบายต่อว่า “คุณย่า ณิชาเป็นคนของธัสมาโดยตลอด”

“……”คุณย่าศิริจันทร์รู้สึกอึดอัดใจอย่างอธิบายไม่ได้

เธอเห็นชาลีปกป้องณิชาขนาดนี้ ก็นึกว่าเขากำลังตามจีบเธออยู่ซะอีก……

พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว หลานชายของเธอดีทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวในชีวิต

คนภายนอกต่างบอกว่าเขาเจ้าชู้ แต่คุณย่ารู้ดีว่าเขาก็แค่ยังไม่เจอคนที่ใช่เท่านั้นเอง

คุณย่าศิริจันทร์จ้องมองเขาอย่างข่มขืน ในคำพูดของเธอนั้นแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจต่อเวธัส “พออ้าปากได้ก็พูดถึงแต่ธัส ย่ารู้ว่าพวกแกน่ะสนิท โตมาด้วยกัน แต่แกก็เห็นนี่ว่าเขามีลูกชายแล้วด้วยซ้ำ เมื่อไหร่แกจะพาแฟนมาให้ย่าเจอแบบจริงจังบ้าง?”

ปกติแล้วชาลีไม่ค่อยชอบคุยกับคุณย่าเรื่องส่วนตัวอะไรแบบนี้

เพราะถ้าพูดขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณย่าก็จะพูดแบบน้ำไหลไฟดับ

ตอนนี้เวธัสก็ปล่อยณิชาออก ดึงผ้าห่มบางๆ ขึ้นมาจากเตียงผู้ป่วย แล้วก็ห่มให้เธออย่างระมัดระวัง

แล้วเขาก็ลุกขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาดำขลับของเขาต้องไปที่คุณย่าศิริจันทร์

“ท่านย่า รบกวนอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยครับ”

สายตาของคุณย่าศิริจันทร์จ้องไปที่ใบหน้าของณิชา มือถือไม้เท้าเอาไว้ และก็รู้สึกปวดใจและเสียใจที่ได้ทำลงไป

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าถึงคิวของเธอแล้วไม่เห็นมาปรากฏตัว แล้วจู่ๆ ก็วิ่งออกไปขวางรถฉัน”

เธอไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งแล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้มีความจำเป็นอะไรต้องอธิบายให้เวธัสฟัง ก็เลยได้แต่มองเขาอย่างเย็นชาและพูดว่า “อธิบายงั้นเหรอ? ต่อให้เธอจะเป็นแฟนของนาย แต่นี่มันก็คือเรื่องภายในบริษัทของฉัน แม้แต่ปู่ของนายยังไม่กล้ามาขอให้ฉันอธิบายอะไรเลย แล้วฉันจะไปต้องอธิบายอะไรให้ฟังด้วยเหรอ? ”

เวธัสนึกย้อนไปถึงข้อความที่ณิชาบอกว่าท้องเสีย

ดวงตาเริ่มมีระลอกคลื่น กระเพื่อมขึ้นมา ราวกับว่าความหนาวเหน็บกำลังแผ่ซ่านไปทั่วทุกที่

เขาค่อยๆ พับแขนเสื้อขึ้น แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา——

“ขอโทษด้วยนะครับ ที่ผ่านมาผมค่อนข้างเป็นคนปกป้องพรรคพวกของตัวเอง ตอนนี้ผมเป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับตระกูลสนธิไชย”

“เหอะ”คุณย่าศิริจันทร์มีสีหน้าเคร่งขรึม “ก็ดี ตระกูลรุ่งโรจน์กับตระกูลสนธิไชยยุติการโจมตีกันมาตั้งนานหลายปี ฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าหลานชายของประเสริฐกับหลานชายของฉันถ้ามาเทียบกันดูเลย ใครสั่งสอนมาดีกว่ากัน? ”

ภายในห้องผู้ป่วย ผู้สูงอายุกับเด็กหนุ่มเผชิญหน้ากัน

ถึงแม้ว่าคุณย่าศิริจันทร์จะอายุเกิน70ปีไปแล้ว แต่ว่าตอนที่เธอโกรธขึ้นมา พลังของเธอก็ไม่ได้ดูอ่อนแอเลยแม้แต่นิดเดียว

แต่ชาลีรู้ดีว่าตอนนี้คุณย่าได้กระจายอำนาจไปแล้ว ความสัมพันธ์ภายในตระกูลรุ่งโรจน์ก็วุ่นวายเช่นกัน สถานการณ์ win-win คือสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น

เขาลดเสียงลง แล้วขยับเข้าไปใกล้หูของคุณย่าศิริจันทร์และกระซิบเตือนว่า “คุณย่าครับ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตรวจสอบหาความจริง และปฏิบัติให้สมกับที่เป็นเอสพี จิวเวลรี่ด้วย”

ณิชา……

รูม่านตาของคุณย่าศิริจันทร์หดตัวลง แล้วก็หันไปมองณิชา

ตอนที่เธอเจอณิชาครั้งแรก เธอก็มีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊