“หรือว่าอนุญาตให้คุณสูบได้แค่คนเดียว เลยไม่อนุญาตให้ฉันลองบ้างเลยเหรอคะ?” ณิชายิ้มพลางย้อนถามกลับ แต่กลับบี้ก้นบุหรี่อย่างเชื่อฟัง พลันโยนเข้าถังขยะ
เวธัสอาศัยจังหวะที่เธอหันตัวกลับมาโอบกอดเธอให้อยู่ในอ้อมกอด ราวกับเป็นคนรักที่สนิทสนมกันคู่หนึ่ง และเดินมุ่งหน้าไปยังโรงงิ้วหมายเลข 6ทันที
“การสูบบุหรี่เป็นสิทธิ์เฉพาะของผู้ชาย” น้ำเสียงสุขุมของเขากึกก้องอยู่ข้างหู “คุณรู้มั้ยว่าบุหรี่หนึ่งมวนมันมีสารพิษกี่ชนิด? นิโคติน น้ำมันดิน มีส่วนผสมที่อันตรายอยู่ 3000ชนิด จนเกิดสารก่อมะเร็ง ซึ่งสารก่อมะเร็งมาก30กว่าชนิด ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้ว บุหรี่หนึ่งมวนที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบสามารถวางยาพิษหนูในห้องทดลองที่มีขนาดเล็กจนตายได้เลยนะ...”
เมื่อณิชาได้ยินเขาเอ่ยถึงความอันตรายในการสูบบุหรี่อย่างเรียบเฉย พลันย้อนถามกลับทันที “คุณรู้ทั้งรู้อยู่เต็มอก งั้นทำไมตัวเองถึงยังสูบอยู่ล่ะคะ?”
เวธัสเหล่ตามองเธออย่างเรียบเฉย
“เพราะว่าผมเป็นผู้ชาย ส่วนคุณ...เป็นผู้หญิงนะสิ”
จนฟังการแสดงงิ้วอีกเรื่องจนจบแล้ว ทางที่ดีที่สุดจงกลไม่ควรรออยู่ทางด้านนอกอยู่นาน เวธัสไม่ได้จัดเตรียมโปรแกรมอื่นเอาไว้เลย
คนกลุ่มหนึ่งจึงวางแผนจะไปรับประทานที่ร้านอาหารเจแห่งหนึ่งที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง
ก่อนที่จะออกประตูไปนั้น ทันใดนั้นก็มีบริกรคนหนึ่งวิ่งมาจากทางด้านหลัง พลันรั้งณิชาเอาไว้
“ไม่ทราบว่าคุณคือคุณณิชามั้ยครับ?” บริกรชำเลืองมองณิชาอย่างวิตกกังวล
ณิชาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด “ฉันเองค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“คืออย่างนี้ครับ ก่อนที่คุณเก้าจะออกไป ได้ให้ผมเอาสิ่งของชิ้นหนึ่งมาคืนให้คุณครับ” บริกรควานหาจี้หยกที่คล้องด้วยเชือกสีแดงขึ้นมาหนึ่งอันจากกระเป๋า พร้อมทั้งชี้ไปทางบ่อปลาคาร์ฟทางลานด้านหลัง พลางกล่าวทันที “เขาพูดว่าก่อนหน้านี้คุณทำมันหล่น รบกวนคุณช่วยเก็บรักษามันไว้ให้ดีด้วยครับ”
ณิชาเห็นจี้หยกขาวนั้น จึงคลำกระเป๋าเสื้อของตนเองตามสัญชาตญาณ
ถึงค้นพบว่า ...กระเป๋าว่างเปล่าจริงๆ
จี้หยกชิ้นนี้เธอยืมเวธัสเพื่อมาปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายไปจากเธอในคืนวันนั้น เธอพูดเต็มปากว่าจะคืนให้ในวันรุ่งขึ้น แต่กลับไม่คิดว่าใกล้จะทำหายอยู่แล้ว....
ตอนที่จงกลเห็นจี้หยกชิ้นนี้นั้น แววตาฉายอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก
เธอจ้องมองณิชากับเวธัสอย่างลึกซึ้ง และสูดหายใจเข้าลึกๆ ราวกับเป็นการควบคุมอะไรบางอย่าง
“ขอบคุณค่ะ”
ณิชาไม่กล้ามองหน้าเวธัสที่แสดงอาการหม่นหมองออกนอกหน้าอยู่ข้างกาย พลันกล่าวขอบคุณบริกร และรับจี้หยกมาอย่างระแวดระวัง
แต่ในวินาทีนั้น จู่ๆ เวธัสก็แย่งจี้หยกไปจากมือของเธอ
เขาใช้สายตาเย็นเฉียบจดจ้องณิชาอย่างเยือกเย็น--
“ผมให้ของกับคุณ คุณก็จัดการมันแบบนี้เหรอ?”
นัยน์ตาไม่มีความอ่อนโยนสักนิดก่อนหน้านี้ มีแค่ความหนาวเย็นไปถึงกระดูก
ณิชาถูกสายตาแบบนี้มองจนเสียวสันหลัง “ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ น่าจะตอนที่ลื่นเมื่อกี้นี้แหละ จนทำให้จี้หยกหล่น ขอโทษด้วยนะ เดี๋ยวฉันจะเช็ดให้...”
“ไม่จำเป็นแล้วแหละ!”
เวธัสไม่ฟังคำอธิบายของเธอ พลันหยิบทิชชูเปียกที่สะอาดออกมา และจัดการค่อยๆ เช็ดจี้หยกให้สะอาด ด้วยท่าทางตั้งใจอย่างระมัดระวัง ราวกับกำลังปฏิบัติกับอัญมณีอันล้ำค่าอะไรสักอย่าง
“คุณไม่รู้จักการหวงแหน และจะยังดื้อรั้นเพื่อรั้งเอาไว้ทำไม?”
“……” ณิชาอ้าปาก ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะพาลูกหนีไปให้ไกล การอธิบายหรือไม่มันก็ไม่มีข้อแตกต่างอะไรมากอยู่ดี
เวธัสเช็ดจี้หยกอย่างระมัดระวัง ซึ่งลงมือย่างช้าๆ ละเมียดละไมมาก ราวกับรอคอยอะไรอยู่ แต่รอมาจนสุดท้ายก็ไม่มีอะไร จู่ๆ เขาก็หงุดหงิดขึ้นมา พลันดึงด้ายสีแดงเส้นนั้นออก พร้อมทั้งทิ้งลงถังขยะไปพร้อมกับทิชชูเปียกพร้อมกัน และเดินมุ่งหน้าไปทางด้านนอกอย่างไม่หันศีรษะกลับมามองอีกเลย
จงกลไม่ได้กลับออกไปตามหลังเขาทันที แต่กลับใช้สายตาสับสนจดจ้องณิชาแทน “เธอรู้หรือเปล่าว่าจี้หยกชิ้นนั้นมันมีความหมายอะไรกับตาธัส?”
ณิชาส่ายหน้าตามจิตใต้สำนึก
“หยกชิ้นนั้นเป็นสิ่งของเพียงสิ่งเดียวที่พี่สาวของฉันทิ้งเอาไว้ให้ตาธัสดูต่างหน้า และก็อาศัยมันนี่แหละ ธัสถึงได้เข้ามาอยู่ในตระกูลสนธิไชยได้ ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะเอาสิ่งของสำคัญเช่นนี้ให้เธอ และที่คาดไม่ถึงไปกว่านั้นเธอกลับทำมันหายอย่างไม่ดูดำดูดี...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...