กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 303

ณิชาไม่ได้หวาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว เธอยังคงเพิกเฉยต่อรัศมีอันทรงพลังของเขา แล้วก็กินอาหารต่อไปอย่างไม่แยแส

“คุณคิดว่าจะต่อกรกับผมด้วยความเงียบแบบนี้ได้งั้นเหรอ? ผมไม่มีทางปล่อยคุณไปอยู่แล้ว!”เวธัสขยับเนกไทออกด้วยความหงุดหงิด เริ่มรู้สึกเหมือนหายใจลำบาก

เสียงที่ดังมาจากด้านบนนั้นค่อนข้างดังแสบแก้วหู

ณิชาเหลือบมองเขาเล็กน้อย พอกลืนข้าวคำสุดท้ายลงไปแล้วถึงได้พูดออกมาว่า “แล้วแต่”

เหมือนกับว่าณิชาได้หาวิธีกระตุ้นเขาได้แล้ว ก็พูดทั้งสองคำออกมาอย่างแน่

มีสิทธิอะไรมาโกรธเธอกัน เขาควรจะได้ลิ้มรสรสชาติของการไร้อำนาจบ้างสินะ?

ท่าทางที่เฉยเมยของเธอนั้น ทำให้เวธัสไม่สามารถระเบิดความโกรธออกมาได้

เหมือนกับต่อยหมัดหนักๆ ใส่ปุยฝ้าย

การดึงหมัดกลับนั้นมันไม่สามารถระบายความโกรธได้ แต่ว่าการปล่อยหมัดออกไปอย่างไม่มีเป้าหมายนั้น ก็สามารถทำให้คนช้ำในได้เหมือนกัน

และในที่สุดก็กินข้าวเสร็จ ณิชาวางช้อนส้อมลงและเช็ดมุมปากอย่างสง่างาม พร้อมกับหันหลังเดินกลับไปที่ห้องนอนโดยที่ไม่สนใจมองใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของชายหนุ่มเลยแม้แต่นิดเดียว

“คุณจะไปไหน?” เวธัสรีบตามไปในทันที แล้วก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้จากด้านหลัง

“กลับห้องนอน”

เธอพูดแค่ 3 คำอีกแล้ว!

เวธัสไม่เคยรู้สึกหดหู่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เขากัดฟันกรอดและพูดว่า “ผมอนุญาตให้คุณไปแล้วงั้นเหรอ? ถ้าคุยกับผมดีๆ ได้เมื่อไหร่ ก็กลับไปได้เมื่อนั้นแหละ!”

ณิชาเหลือบมองเขานิ่งๆ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ หลับตาลง

ไม่ใช่แค่ไม่พูดอะไร แต่แม้แต่แค่มองเธอยังขี้เกียจจะมองเขาเลย

เวธัสถูกยั่วโมโห มือของเขากำหมัดเข้าหากันในทันที “ลืมตาเดี๋ยวนี้!ณิชา ลืมตาเดี๋ยวนี้เลยนะ เป็นใบ้รึไง? ”

“……”

เหมือนกับว่ากระดูกข้อมือของณิชากำลังจะแหลกสลาย แต่ว่าเธอก็ได้แต่กัดฟัน ไม่ร้องออกมาสักแอะเดียว

“คุณอย่าให้ความอดทนเส้นสุดท้ายของผมหมดไปจะดีกว่านะ”

“ไม่อดทนก็ดีแล้ว”ณิชาถูกเขาตะคอกใส่จนจำเป็นต้องมองเขาอย่างช่วยไม่ได้ “ทำไมต้องทำให้วุ่นวายด้วย? ”

“ยอมพูดดีๆ แล้วเหรอ? ” ในที่สุดก็ไม่ได้พูดแค่สามคำที่น่ารำคาญนั้นอีกต่อไปแล้ว!

ณิชาตอบด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคนที่ไร้เหตุผลอย่างคุณหรอกนะ”

“คุณเคยตอบตกลงยอมแต่งงานกับผมแล้ว!”

“แหวนก็โยนทิ้งไปแล้ว แล้วการขอแต่งงานนั้นยังนับอยู่อีกเหรอ? ”ทันใดนั้นดวงตาของณิชาก็เริ่มแดงขึ้นมาทันที เธอจ้องมองร่างเล็กๆ ของตัวเองที่สะท้อนผ่านดวงตาทั้งสองข้างของเขา “เวธัส คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ การที่พวกเราทรมานกันไปแบบนี้ ไม่สู้เก็บความทรงจำดีๆ สุดท้ายของพวกเราไว้……”

“ผมบอกแล้วไง ว่าจะใช้อนาคตที่ดีมาชดใช้ให้!แล้วทำไมผมยังต้องมองย้อนกลับไปในอดีตด้วยล่ะ? ”

เวธัสดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา

เหมือนกับว่ายิ่งกอดเธอแน่นเท่าไหร่ ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าเธอจะไม่มีวันจากเขาไปไหน……

ณิชารู้ว่าตัวเองขัดขืนไม่ได้ แล้วก็ขี้เกียจที่จะผลักเขาออกด้วย

“การชดเชยของคุณคือการขังฉันไว้ที่นี่อย่างนั้นเหรอ? ไม่ปล่อยให้ฉันออกไป แล้วก็ไม่ให้ฉันได้เจอลูกทั้งสองคนด้วยงั้นเหรอ? ตอนนี้มันต่างอะไรกับการที่คุณเห็นฉันเป็นแค่ข้าวของ!”

เวธัสพูดอะไรไม่ออก เขาก้มหน้าลงด้วยความหงุดหงิดและอยากจะจูบเธอ

เมื่อได้กลิ่นฮอร์โมนเพศชายลอยเข้ามาในจมูก ณิชาก็เหมือนจะรู้สึกตัวว่าเขากำลังต้องการทำอะไร สายตาของเธอมีท่าทีต่อต้านและเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างแรง “ออกไป!”

ท่าทางที่รังเกียจนี้ทำให้ความโกรธที่พึ่งจะสลายหายไปของเวธัสเมื่อกี้มันปะทุกลับขึ้นมาอีกครั้ง

เขาใช้มือหนึ่งจับคางของณิชาเอาไว้ เตรียมจะพุ่งเข้าไปจูบเธอ……

แต่ว่าในตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงที่รีบร้อนของเอกดังขึ้นมา——

“คุณเวธัส แย่แล้วครับ คุณหนูอรัลแจ้งตำรวจบอกว่าคุณกักขังหน่วงเหนี่ยว ตอนนี้ชั้นล่างมีตำรวจมาเยอะมากเลยครับ!”

ทันใดนั้น อากาศภายในห้องนั้นก็แข็งตัวลงในทันที ทั้งห้องนั้นเงียบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่นได้เลย

“……”

ณิชากับเวธัสยืนแข็งทื่อไปในทันที

ณิชาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงด้วยซ้ำ

อรัลกล้าแจ้งตำรวจ และบอกว่าเวธัสกักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างนั้นเหรอ?

……

อรัลกับธนาเดินขึ้นมาข้างบนด้วยกัน

ความจริงเขาก็ไม่อยากเรียกธนามาหรอก แต่ว่าเขาอายุแค่สามขวบครึ่งเท่านั้น ต่อให้เขาจะพูดเก่งแค่ไหน ตำรวจก็ไม่มีทางเชื่อ คำพูดของเขาอย่างแน่นอน

ต้องพาผู้ใหญ่ไปด้วยเท่านั้นตำรวจถึงจะออกมา

รถตำรวจจอดอยู่ตรงถนนที่ชั้นล่าง ไฟจากรถนั้นกะพริบไม่หยุด

ตรงทางเดินที่คับแคบนั้น บอดี้การ์ดของเวธัสก็เผชิญหน้ากับตำรวจ สถานการณ์ดูตึงเครียดเป็นอย่างมาก

ประตูที่อยู่ด้านหลังของพวกเขานั้นปิดสนิท ไม่มีใครรู้ว่าข้างในตอนนี้นั้นเป็นยังไงบ้าง

“คุณตำรวจครับ เขาก็คือเวธัส”ธนาชี้ไปที่เวธัส ใบหน้าของเขาดูถมึงทึง “สงสัยว่าเขาจะกักขังณิชาเพื่อนของผมอย่างผิดกฎหมาย และเด็กน้อยคนนี้คือลูกชายของเวธัส เขาเป็นพยานได้ครับ!”

พออรัลถูกธนาเรียกชื่อขึ้นมา ริมฝีปากสีชมพูของเขาก็เม้มแน่นในทันที

แต่ว่าเขากลับไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว

เขาพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แล้วก็พูดภาษาฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่วพร้อมกับขยิบตาให้ลุงตำรวจอย่างน่ารัก——

“ใช่ครับคุณลุง เพราะว่าความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ ทำให้นิสัยของพ่อของผมเปลี่ยนไปเยอะมากเลยครับ ได้โปรดช่วยพาคุณน้าในห้องนั้นออกมาหน่อยนะครับ อย่าปล่อยให้พ่อของผมทำผิดต่อไปอีกเลย”

เด็กน้อยคนนี้มีความชอบธรรมเป็นอย่างมาก ทำให้คุณลุงตำรวจอดไม่ได้ที่จะลูบหัวของเด็กน้อย

“เด็กน้อยไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะ พวกเราจะหยุดไม่ให้พ่อของหนูทำผิดเอง”เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงอีกคนก็ตกหลุมความน่ารักของเด็กน้อยไปซะได้ ก็เลยได้แต่พูดจาปลอบใจเขา

ใบหน้าที่หล่อเหลาของเวธัสนั้นบูดบึ้ง ก้มหน้าลงและเหลือบมองไปที่ธนากับอรัลที่กำลังผนึกกำลังเป็นแนวหน้าร่วมรบกันอยู่

ดีมาก ตอนนี้แม้แต่ลูกชายของเขาเองก็ยังทรยศเลย

ไม่ใช่แค่ทรยศ แต่ว่ายังไปยืนเคียงข้างคู่ต่อสู้ของเขาอีก!

“อรัล มานี่เดี๋ยวนี้นะ!”

“คุณผู้ชายคะ การทารุณกรรมเด็กเป็นสิ่งผิดกฎหมาย……”ความเป็นแม่ของตำรวจหญิงนั้นล้นหลามมาก เธอรีบเข้าไปปกป้องเด็กน้อย พร้อมกับตำหนิเวธัสอย่างเย็นชา

อรัลก็ไม่ได้ฟังในสิ่งที่เวธัสพูด เขายื่นมือไปดึงชายเสื้อของตำรวจหญิงคนนั้น ส่งสัญญาณให้เธอรีบเข้าไปช่วยตัวประกัน

ตำรวจหญิงถือปืนเข้ามาแล้วก็จอไปที่เวธัสพร้อมกับพูดว่า “คุณปล่อยตัวคุณณิชาออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”

เวธัสยิ้มเยาะออกมา

“ไม่รู้ว่าคุณตำรวจได้ถามอรัลมาก่อนรึเปล่า ว่าณิชาไม่ใช่แค่เป็นคู่หมั้นของผมเท่านั้น แต่ยังเป็นแม่แท้ๆ ของพวกเขาอีก? ผมจะกักขังแม่ของลูกผมอย่างผิดกฎหมายงั้นเหรอ? ”

“……”ตำรวจรู้สึกงุนงงกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้

แล้วพวกเขาก็หันไปมองอรัลทันที……

อรัลก็ตอบกลับอย่างไม่รีบร้อนว่า “ใช่ครับ คนที่อยู่ด้านในนั้นคือหม่ามี๊ของผม แต่ว่าหม่ามี๊ยังไม่ได้แต่งงานกับพ่อ และพ่อก็ไม่ให้เธอออกไปไหน ไม่ให้ติดต่อกับพวกผมด้วย นี่มันไม่ได้ถือว่าเป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยวงั้นเหรอ? ”

กฎหมายของประเทศเรากับประเทศอื่นนั้นมันต่างกัน ความรุนแรงของการลงโทษสำหรับ” การคุมขังที่ผิดกฎหมาย” ระหว่างแฟนกันหรือสามีภรรยากันนั้นระดับมันก็แตกต่างกัน

ซึ่งกฎหมายประเทศฝรั่งเศสนั้นมันรุนแรงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ตำรวจดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็วและพูดอย่างเย็นชาว่า “ทุกคนล้วนมีอิสรภาพ คุณผู้ชายคะ ฉันขอถามคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณจะยอมปล่อยคุณณิชาออกมาไหม? ”

มีพายุลูกหนึ่งก่อตัวขึ้นในดวงตาของเวธัส

“เธอป่วยหนักอยู่ออกมาข้างนอกไม่ได้ ถ้าเกิดว่าผมให้เธอออกมาก็เหมือนเป็นการทำร้ายเธอ แล้วใครจะยอมรับผลที่ตามมานี้? ”

“ไร้สาระ ณิชาป่วยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ทั้งๆ ที่สองวันก่อนหน้านี้ผมยังเห็นเธอดีๆ อยู่เลย……”ธนาเถียงแทนณิชา “คุณตำรวจ เขาไม่ต้องการจะปล่อยเธอออกมาครับ!”

“คุณผู้ชาย ดูท่าทางคุณอยากจะรับโทษนะครับ”

ตำรวจขู่เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นก็ชูปืนขึ้นพร้อมกับเหนี่ยวไก

เวธัสยังคงไม่เคลื่อนไหวใดๆ อยู่เหมือนเดิม เขากวาดสายตาไปที่คนพวกนี้อย่างเย่อหยิ่ง——

“พวกคุณมาจากสถานีตำรวจไหน? ใครเป็นหัวหน้า? ”

“ทำผิดกฎหมายก็คือผิดกฎหมาย ต่อให้เป็นเจ้านายของเขาท่านก็ไม่ลำเอียงหรอก !”ตำรวจยกปืนขึ้นและเล็งกระบอกปืนไปที่เวธัส

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊