กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 307

การเคลื่อนไหวนั้นมันรวดเร็วจนเด็กๆ ถูกจับไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ตอนที่ดึงสติกลับมานั้นก็ถูกโยนเข้ามาที่เบาะหลังแล้ว ประตูรถถูกปิดอย่างแรง เป็นการกั้นพวกเขาออกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง……

ป้าเจนก็ถูกผลักลงกับพื้น

“ปัณณ์ อรัล! จอดรถเดี๋ยวนี้นะ!พวกแกเป็นใครกัน? ปล่อยลูกฉันเดี๋ยวนี้นะ……”ณิชาเห็นเหตุการณ์นี้จากไกลๆ เหงื่อเธอซึมออกมาทันที แล้วก็เริ่มวิ่งตามอย่างบ้าคลั่ง

แต่ว่าตอนที่เธอวิ่งเข้ามานั้น ประตูรถก็ปิดแล้ว

คนขับสตาร์ทรถ และณิชาก็ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของลูกน้อยทั้งสองคนเท่านั้น

หลังจากนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงร้องของเด็กน้อยทั้งสองคนนั้นหยุดลงทันที!

เธอรู้สึกเหมือนมดที่อยู่บนกระทะร้อน ณิชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะแจ้งตำรวจ

คุณ……คุณณิชา” ป้าเจนตาแดง เธอสะอื้นและยื่นมือไปจับมือของณิชา พร้อมกับพูดอย่างร้อนใจว่า “เมื่อกี้ตอนที่คุณยังไม่มา มีผู้ชายคนหนึ่งมาพูดอะไรบางอย่างกับป้า ให้ป้ามาบอกคุณต่อ”

ณิชารู้สึกเหมือนเลือดไหลพล่านไปทั่วร่างกายของตัวเอง เธอรีบถามว่า “ว่าไงคะ? เขาให้ป้ามาพูดอะไร? ”

“เขาบอกว่า คุณไม่คู่ควรจะเลี้ยงคุณหนูทั้งสองคน มีแค่ตระกูลสนธิไชยที่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของพวกเขา……”

“ตระกูลสนธิไชย?ตระกูลสนธิไชย……”

ณิชาพูดคำนั้นซ้ำอีกครั้ง เธอกัดริมฝีปากแน่น แล้วก็ตบหน้าตัวเองอย่างแรง

เวธัส

ต้องเป็นเพราะว่าปัณณ์กับอรัลหลอกเวธัสเพื่อช่วยเธออย่างแน่นอน เขาก็เลยโกรธ ก็เลยมาแย่งพวกเขาไปจากเธอ!

“คุณณิชา คุณทำอะไรคะ? ”ป้าเจนเห็นว่าณิชาตบหน้าตัวเอง จนมีรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้วแปะอยู่บนใบหน้าของตัวเอง ก็เลยรีบถามออกมาด้วยความเป็นห่วงทันที

ปากของณิชารู้สึกชาเล็กน้อย เหมือนกับว่าเสียเลือดไปมาก เธอพูดพึมพำว่า “มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรจะไปต่อกรกับเขาเลย ทำไมฉันถึงได้โง่ขนาดนั้นที่คิดจะไปยั่วโมโหเขาด้วย? ”

ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอำนาจของเวธัสเป็นสิ่งที่ไม่สามารถท้าทายได้ แต่ว่าเธอก็ยังหนีออกมาแบบนี้อยู่ดี……

เธอได้อยู่อย่างสงบเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ คืนเดียวเท่านั้น

แล้วเขาก็เอาลูกน้อยทั้งสองคนไปจากเธอแล้วอย่างนั้นเหรอ?

มิน่าล่ะเมื่อวานเธอถึงรู้สึกไม่สบายใจเลย

“ต่อกรยังไงเหรอ? ”ป้าเจนไม่เข้าใจที่ณิชาพูด และก็ไม่รู้ว่าสรุปแล้วมันคือเรื่องอะไรกันแน่ “คุณณิชาคะ ไปแจ้งตำรวจดีไหม สถานีตำรวจอยู่ข้างหน้านี้เอง……”

“ไม่!แจ้งตำรวจไม่ได้!”

ณิชาเข้าใจดีเกี่ยวกับความอ่อนแอและไร้ซึ่งอำนาจของตัวเอง

ถ้าเกิดว่าแจ้งจำรวจไป ทำให้เรื่องมันใหญ่โตกว่านี้แล้วไปยั่วให้เวธัสโกรธเข้าอีกครั้ง ณิชาล่ะไม่อยากคิดเลยจริงๆ ว่ามันจะมีผลลัพธ์แบบไหนตามมาอีก

เธอกัดปลายลิ้นของตัวเอง ให้ความเจ็บปวดทำให้ตัวเองสงบลง

“ป้าเจนคะ ป้าช่วยทำเหมือนวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทีนะคะ ขอบคุณที่ป้ามาช่วยฉันไปส่งปัณณ์กับอรัล ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง……”

ปัณณ์ อรัล รอหม่ามี๊ก่อนนะ หม่ามี๊ไม่มีทางแยกจากกับพวกหนูอย่างแน่นอน

ณิชาให้กำลังใจตัวเอง

สายตามองตรงไปยังทางที่รถแลนด์โรเวอร์เรนจ์โรเวอร์คันเมื่อกี้นี้หายไป จู่ๆ ก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมาทันที

……

ณิชาต่อสายหาเวธัส

เสียงรอสายดังอยู่สักพัก แต่ว่าก็ไม่มีใครรับสาย

เขาจงใจ เพราะว่าอยากจะให้เธอเป็นคนไปหาเขาเองงั้นเหรอ?

ณิชารู้สึกเหมือนเส้นเลือดในสมองจะแตก แต่ว่าการกระทำของเธอมันเร็วกว่าความคิด เธอเรียกรถมุ่งหน้าตรงไปที่สนธิไชยกรุ๊ปสาขาฝรั่งเศสในทันที

ระยะทางไม่ค่อยไกลเท่าไหร่ ใช้เวลาไม่เกินสิบกว่านาทีเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตูของตึกสูงระฟ้าแล้ว

สูงตระหง่าน หรูหรา และตระการตาไม่แพ้ใคร

หน้าประตูบริษัทมีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา แต่ณิชากลับนึกถึงตอนที่ปัณณ์กับอรัลร้องโวยวายออกมาตอนที่ถูกบอดี้การ์ดจับตัวไปอย่างหยาบคาย

พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องความปลอดภัยของปัณณ์กับอรัลเลยแม้แต่นิดเดียว……

มันเป็นคำสั่งของเวธัสงั้นเหรอ?

เพราะว่าไปเล่นละครตบตาเขาเข้า เขาก็เลยไม่สนใจแม้กระทั่งความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเลยงั้นเหรอ?

“คุณผู้หญิงคะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ? ”พนักงานต้อนรับเห็นว่าณิชายืนนิ่งอยู่กับที่ ก็เลยเข้ามาถามพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

ณิชาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ตอบว่า “ฉันอยากเจอเวธัสค่ะ”

“……ใครนะคะ? ”พนักงานต้อนรับมึนงงไปครู่หนึ่ง

เพราะว่าเวธัสเป็นนายใหญ่ที่สุดที่อยู่เบื้องหลังของบริษัท ส่วนใหญ่คนที่ออกหน้ามักจะเป็นประธานสาขามากกว่า ดังนั้นเมื่อกี้พนักงานต้อนรับก็เลยไม่ทันตระหนักถึง

“เวธัส คุณเวธัส ฉันต้องการพบเขาค่ะ”ณิชาพยายามกลั้นน้ำตาไว้อย่างสุดความสามารถ แล้วก็พูดซ้ำอีกครั้งอย่างหนักแน่น

พนักงานต้อนรับอีกคนหนึ่งเริ่มตอบสนอง เธอยังคงยิ้มอยู่และถามต่อว่า “ได้ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณได้นัดไว้ไหมคะ? ”

นัดเหรอ?

เวธัสไม่แม้แต่จะรับสายเธอด้วยซ้ำ แล้วเธอจะนัดเขาได้ยังไงกันล่ะ?

ณิชาไม่กล้าพูดว่าตัวเองไม่ได้นัดเอาไว้ กลัวว่าพนักงานต้อนรับจะเข้าใจผิดว่าเธอมาสร้างปัญหา และไล่เธอออกไป

ภายใต้ความตื่นตระหนกนั้น ณิชาก็นึกถึงเอกขึ้นมา

เธอบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของเอกเอาไว้……

โชคดีที่เอกไม่ได้หลบเลี่ยงเธอ เขารับสายของเธออย่างรวดเร็ว

พอรู้ว่าณิชาอยู่ที่บริษัท เอกก็รีบตามมาทันที

ทันทีที่เห็นณิชา เอกก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที

“คุณณิชา ทำไมถึงได้กล้ามาที่นี่ได้ครับ? ”เอกลดเสียงลงและดึงณิชาไปตรงมุม “เมื่อคืนผมจงใจปล่อยพวกคุณไปแล้ว แล้วนี่คุณกำลังเดินเข้ามาในกับดักเองงั้นเหรอ? ”

ณิชาตะลึงไป “คุณจงใจงั้นเหรอ? ”

“ความจริงตอนนั้นผมก็ควรจะเกลี้ยกล่อมคุณเวธัสไม่ให้เขาทำเกินกว่าเหตุขนาดนั้น แต่ว่าคุณเวธัสกำลังโมโหอยู่ ผมก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถเกลี้ยกล่อมอะไรได้ ก็เลยอาศัยโอกาสให้พวกคุณแยกกันเมื่อวาน ให้ต่างฝากต่างได้สงบลงหน่อย……”

เอกไม่เคยขัดคำสั่งของเวธัสมาก่อนเลย

แต่ว่าครั้งนี้ มันจำเป็นต้องทำ

ไม่ยังงั้นการที่คุณเวธัสทำแบบนี้ มันมีแต่จำเป็นการผลักณิชาให้ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เท่านั้น……

เอกคิดมาแล้ว ว่ารอสักอีกสองวัน เขาจะไปรับโทษกับเวธัสเอง

แต่ไม่คิดเลยว่าณิชาจะมาถึงที่ขนาดนี้!

ณิชาไม่ได้สนใจอะไรมากขนาดนั้น เธอพูดออกมาตรงๆ ว่า “เวธัสส่งคนมาแย่งปัณณ์กับอรัลไป ฉันก็เลยจำเป็นต้องมาที่นี่!คุณพาฉันไปหาเขาหน่อยได้ไหมครับ? ”

“คุณเวธัสส่งคนไปแย่งคุณหนูทั้งสองงั้นเหรอครับ? ”ใบหน้าของเอกเต็มไปด้วยความงุนงง

ปกติแล้วเรื่องแบบนี้เวธัสจะเป็นคนสั่งให้เขาทำ

แต่ว่าเขาไม่ได้รับคำสั่งให้ทำอะไรแบบนั้นเลยนะ

“มันคือความจริง คนที่แย่งลูกทั้งสองคนไปพูดแบบนี้ บอกว่าจะเอาสิทธิ์การเลี้ยงดูไป ฉันไม่คู่ควรที่จะได้เลี้ยงพวกเขา นอกจากเวธัสแล้ว ฉันก็ไม่รู้จะไปนึกถึงใครได้อีก……”

“ตอนนี้คุณเวธัสกำลังประชุมอยู่ หรือว่าคุณจะขึ้นไปกับผมก่อนไหมล่ะ? ”

เอกลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพาณิชาขึ้นไปข้างบน

ณิชารู้สึกซาบซึ้งใจมาก เธอเดินตามหลังเอกไปจนถึงห้องประธานชั้นบนสุด

การที่เวธัสมาฝรั่งเศสในครั้งนี้ ความจริงแล้วยังมีหน้าที่งานอื่นที่ต้องทำอีกด้วย ต้องการขยายตลาดต่างประเทศ ร่วมมือกับโครงการเครือข่ายไฟฟ้าของออสเตรเรีย

เมื่อถึงเวลาพักการประชุม เอกก็เดินเข้าไปหาเวธัสเงียบๆ โน้มตัวเข้าไปกระซิบบอกเวธัสเรื่องที่คุณหนูทั้งสองคนถูกลักพาตัวไป

ชายหนุ่มหักข้อมือของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาสีดำของเขาก็จ้องตรงมาที่เอก แล้วก็ถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “เมื่อวาน นายไม่รู้ว่าณิชากับอลิสาเปลี่ยนตัวกันจริงๆ งั้นเหรอ? ”

แววตานั้นเฉียบแหลมเหมือนนกอินทรี ที่แทบจะควักหัวใจของเอกออกมา

“ผม……”

“ฉันถามบอดี้การ์ดที่ตามนายไปแล้ว พวกเขาบอกว่าระหว่างทางอลิสาจงใจยื่นมือออกมานอกหน้าต่าง แต่ว่ากลับไม่เห็นเด็กทั้งสองคนเลย ธนาก็ขับวนล้อมรอบพวกนายตั้งหลายครั้ง ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายที่มีประสบการณ์มามากมายจะมองไม่ออกจริงๆ? เอก อย่ามาโกหกฉันนะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊