กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 311

ปลายนิ้วจับถูอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ เป็นรูปถ่ายรวมสามคนแม่ลูกของเธอ

น้องปัณณ์ น้องอรัล รอแม่นะ แม่ไม่มีวันทิ้งพวกหนูไป

ก็แค่แต่งงานเท่านั้น

ก็แค่แต่งกับเขากลายเป็นนายหญิงของตระกูลสนธิไชยเท่านั้น……

เธอน่าจะดีใจน่าจะพึงพอใจสิ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย!

เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในความคิดของณิชานั้น เธอก็ถึงกับตกใจตัวเอง แต่เพียงครู่เดียวความคิดนี้ก็ราวกับเถาวัลย์ค่อยๆ คืบคลานเติบโตอย่างไม่หยุด จนในที่สุดได้เข้ายึดครองทุกสิ่งอย่าง……

……

ณ แผนกผู้ป่วยในที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

กันญ่าเพลิดเพลินกับการดูแลรักษาพยาบาลที่ดีที่สุด โดยมีพยาบาลห้าหกคนคอยปรนนิบัติดูแลชีวิตประจำวันของเธอ

แต่ว่าเธอก็ยังคงอารมณ์เสียตลอดเวลา และอารมณ์ของเธอเพิ่งจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงสองวันที่ผ่านมา

เตชินท์ตั้งใจมาร่วมทานอาหารเย็นกับเธอ

กันญ่าสั่งอาหารมากกว่า 20 จานในคราเดียว ประคองหลังนั่งลงบนเบาะนุ่มที่ปูไว้ คิ้วที่เอื่อยเฉื่อยแลดูเย้ายวนมีเสน่ห์

ถึงแม้กำลังตั้งครรภ์ แต่เพื่อรักษารูปร่างของเธอ จึงไม่ได้ทานอาหารเสริมเพิ่มบำรุงมากมาย

เตชินท์เกลี้ยกล่อมเธอให้ทานมาก ๆ หน่อย เธอก็ยังคงทานอาหารแต่ละอย่างเพียงไม่กี่คำ

“ปัณณ์กับอรัลสองแสบนั่นถูกพากลับไปที่ตระกูลสนธิไชยแล้วเหรอ” กันญ่ากำลังทานฟัวกราอย่างมีความสุข พลันเลิกคิ้วแล้วกล่าวถามเตชินท์

เตชินท์พยักหน้า “ถูกส่งกลับเมื่อสองวันก่อนแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือ ดูเหมือนระหว่างทางเวธัสได้สกัดขวางกลุ่มคนของลุงพรไว้ ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่……”

“ไม่ต้องไปสนหรอกว่าเขาคิดอะไร สรุปแล้วณิชาเสียลูกไปสองคน คงจะเจ็บปวดอย่างมากล่ะสิท่า” กันญ่าผุดรอยยิ้มที่ชั่วร้ายอย่างดูแคลน

เตชินท์ชอบดูกันญ่ายิ้ม ถึงแม้จะเป็นยิ้มที่ชั่วร้ายก็ตาม

เขาหยิบรูปถ่ายสองสามใบออกมาแล้วยื่นให้กับกันญ่า

ในรูปถ่ายล้วนเป็นภาพของณิชา มีภาพที่เธอถูกปฏิเสธตอนไปขอพบเวธัส มีภาพที่เธอยืนอยู่ท่ามกลายสายฝนโปรยปรายจนเปียกปอนไปทั้งตัว ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอยืนอย่างเหม่อลอยอยู่ด้านนอกโรงเรียนอนุบาล……

แต่ละรูปทำให้กันญ่ารู้สึกอารมณ์ดีสุดๆ

แต่มีเพียงใบเดียว ที่ทำให้กันญ่าต้องหรี่ตาลง

เป็นณิชาที่เพิ่งออกมาจากสนธิไชยกรุ๊ป เป็นโทนี่ที่ส่งเธอกลับมา บอดี้การ์ดก็ไม่ได้ขวางเธอไว้ แล้วท่าทางก็ยังแลดูค่อนข้างให้ความเคารพ

“เวธัสบอกจะไม่เจอณิชาไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอถึงออกมาจากบริษัทได้ล่ะ”

เตชินท์พูดกล่าวเพื่อเลี่ยงหัวข้อนี้ไป “เธอใช้กลยุทธ์ทุกข์กาย เวธัสจึงใจอ่อนกับเธอ ญ่า นี่คือลูกแพร์ตุ๋นไวน์แดงที่คุณชอบทานที่สุด……”

เตชินท์คีบลูกแพร์ชิ้นหนึ่งมาใส่ในจานตรงหน้าของกันญ่า......

กันญ่าตบเข้าที่หลังมือของเขาแล้วปัดออก จากนั้นถาม “คุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า”

“ผมจะมีเรื่องอะไรปิดบังล่ะ”

“จ้องตาของฉัน!” กันญ่าไม่จบ ดึงกระชากเตชินท์อย่างแรง บังคับให้เขาสบตากับตัวเอง แล้วกล่าวอย่างน้อยใจ “เต คุณได้รับปากกับฉัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็จะไม่ปิดบังฉัน ตอนนี้ฉันกำลังตั้งท้องลูกของคุณอยู่ แต่ละวันต้องลำบากเพียงนี้……”

เตชินท์ทนฟังไม่ได้ว่ากันญ่าลำบาก เขาขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ผมได้ข่าวว่าเวธัสได้จองตั๋วเครื่องบินสำหรับสองคนไปลาสเวกัสในเช้าวันพรุ่งนี้"

“ตั๋วสองที่ไปลาสเวกัสเหรอ” กันญ่าขมวดคิ้ว “พวกเขาไปทำอะไรที่ลาสเวกัส……. หรือว่าจะเป็น”

“จดทะเบียนสมรส” เตชินท์สบถห้าคำนี้ออกมา

ถึงแม้เขาจะไม่ชอบเวธัส แต่ตอนนี้กันญ่าและลูกในครรภ์ของเธอคือสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องอื่นเขาไม่ต้องการที่จะเอ่ยถึง

“นี่เขาต้องการหลีกเลี่ยงทางบ้าน และไปจดทะเบียนสมรสกับณิชาที่ต่างประเทศเหรอ” กันญ่ากลับกระสับกระส่ายกะทันหัน ลุกยืนขึ้นฉับพลัน “ไม่ เต ฉันไม่ต้องการให้พวกเขาแต่งงานกัน!”

“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว……”

“สิ่งที่ฉันต้องการคือความเจ็บปวดของณิชา ไม่ใช่ให้เธอได้เป็นนายหญิงของตระกูลสนธิไชยอย่างราบรื่น เต หรือคุณลืมความอัปยศที่เวธัสทำกับพวกเราแล้ว ฉันยอมให้พวกเขามีความสุขไม่ได้!”

เตชินท์คิ้วขมวดแน่นขึ้น สายตาของเขากวาดไปที่ท้องน้อยของกันญ่าที่นูนออกมา “คุณอยากให้ผมทำอะไร”

กันญ่ายกรอยยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์

……

วันรุ่งขึ้น ณิชาไม่ลังเลใจ และไปที่สนามบินตามนัดหมาย

เพราะไม่สามารถแย่ไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

เป็นนายหญิงของตระกูลสนธิไชยแล้วไง ก็แค่จากคุณหนูที่ล้มละลาย กลับคืนสู่แวดวงอีกครั้งก็เท่านั้น! คิดเสียว่าช่วยเวธัสแสดงฉากละครแล้วกัน ณิชาพยายามปลอบใจตัวเอง……

นั่งอยู่ในรถแท็กซี่ ณิชาพิงอยู่ที่ริมหน้าต่างอย่างใจลอย ความคิดที่จดจ่อเกินไป ทำให้ไม่ทันสังเกตความชั่วร้ายที่แวบเข้ามาในดวงตาของคนขับแท็กซี่

เมื่อณิชาตระหนักได้ว่าเหมือนคนขับรถจะมาผิดทางนั้น รถก็ได้เลี้ยวเข้าไปยังเส้นถนนเล็กๆ ที่ห่างไกลชุมชนไปแล้ว

แม้แต่รถก็มีเพียงไม่กี่คันเท่านั้น……

ใบหน้าของณิชาถอดสีเล็กน้อย ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับอาชญากรรมหลายอย่าง ที่คนขับรถแท็กซี่จงใจลากลูกค้าไปยังที่ห่างไกลเพื่อปล้นพวกเขา

“พี่คนขับรถ ดูเหมือนพี่จะมาทางผิดแล้วนะคะ” ณิชาพลางถามหยั่งเชิงพลางล้วงโทรศัพท์

คนขับรถสังเกตดูเธออย่างใกล้ชิดผ่านกระจกหลัง “คุณไม่ใช่จะไปสนามบินหรอกเหรอ วางใจเถอะ ทางที่ผมพาไปเป็นทางลัด ลัดเลาะผ่านตรงนี้ แป๊บเดียวก็จะถึงสนามบินแล้ว!”

ณิชาเห็นกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่สั่นเทาของคนขับแท็กซี่ ผ่านกระจกที่ห้อยอยู่ในรถโดยไม่ตั้งใจ

ใบหน้าราวกับตื่นเต้นที่ตกได้ปลาตัวใหญ่!

ณิชาแอบสาปแช่งด่าในใจ

เวธัสยังรอเธออยู่ที่สนามบิน หากว่าเลยเวลาแล้วเธอยังไปไม่ถึง เขาจะคิดว่าเธอปฏิเสธเขาหรือเปล่า แผ่นหลังณิชาเย็นวาบ พยายามบอกให้ตัวเองใจเย็น

เธอพยายามตีสนิทคนขับรถ พยายามบอกเป็นนัย ๆ ว่าตัวเองนั้นจนมาก ถูกเจ้านายไล่ออกจากงาน ไม่มีเงิน แล้วยังต้องเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัวอีก ชีวิตรันทดยากจนมาก……

ในที่สุดก็ล้วงเจอโทรศัพท์

ไม่กล้าที่จะหยิบออกมาดู ณิชาจึงกดโทรออกไปโดยตรง

คิดไม่ถึงเสียงรอสายเพิ่งจะดังขึ้นสองครั้ง และก็ไม่รู้ว่าปลายสายกดรับสายแล้วหรือยัง จู่ๆ คนขับรถก็กระแทกพวงมาลัย ยิ่งขับมุ่งไปยังพื้นที่ห่างไกลออกไป!

จากนั้นเลี้ยวโค้งกะทันหัน ณิชาที่ไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย บวกกับจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงถูกเหวี่ยงสะบัดอย่างแรง! 

โยกโคลงเคลง……

กระเป๋าตกไปอยู่ที่พื้น โทรศัพท์ก็หล่นดังตุบ แบตเตอรี่กับตัวเครื่องแยกออกจากกัน

คนขับรถได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงหันหน้ามาดู นี่เธอแอบโทรศัพท์เหรอ ตระหนักได้ว่าตัวเองถูกจับได้แล้ว คนขับรถก็ยิ่งเหยียบคันเร่งอย่างบ้าคลั่ง รถส่ายไปส่ายมา ณิชาถูกเหวี่ยงสะบัดอยู่ในตัวรถจนเวียนหัวไปหมด

ท้องไส้ปั่นป่วน และคลานขึ้นจากช่องว่างระหว่างเบาะหลัง พยายามจะไปแย่งพวงมาลัยคนขับรถ……

เอี๊ยด...

เท้าคนขับรถเหยียบเบรก ได้มาถึงที่หมายแล้ว

ประตูรถถูกเปิดจากคนภายนอก มีชายฉกรรจ์ชุดดำหลายคนเดินเข้ามาจับมือและเท้าของณิชาไว้ ณิชาพยายามขัดขืนดิ้นรน และเตะเข้าไปยังใบหน้าหนึ่งในนั้นของชายฉกรรจ์

“พวกคุณเป็นใครกัน ปล่อยฉัน……อย่า……”

คำพูดยังไม่ทันจบ หนึ่งในชายฉกรรจ์ก็ลากณิชาออกมา ยกมือขึ้นสูงแล้วฟาดไปที่หลังคอของณิชาสองสามทีจนเธอสลบไป

“รีบลากเธอไป นายจ้างรออยู่”

“ลูกพี่ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยดี หรือว่าพวกเราเล่นกันก่อน แล้วค่อยส่งไปให้นายจ้าง เพราะยังไงก็ต้องตายอยู่ดี……” ชายเหี้ยมเกรียมอีกคนกำลังลูบคางอย่างตะกละตะกลาม

จู่ ๆ ศีรษะก็ถูกลูกพี่ตบเข้าอย่างแรง “สิ่งที่สำคัญที่สุดในอาชีพของพวกเราคือความน่าเชื่อถือ ก่อนที่ยังไม่ได้ส่งมอบของให้กับนายจ้าง อย่าริอ่านมีความคิดต่ำ ๆ เมื่อได้ค่าจ้างมายังจะต้องกลัวอีกเหรอว่าหาจะสาวที่งามกว่าไม่ได้”

“เหอะๆ ลูกพี่พูดถูก……” ชายเหี้ยมเกรียมลูบหลังศีรษะแล้วยิ้มแหย

กลุ่มคนทิ้งรถไว้ และรีบมุ่งหน้าไปยังป่าดงพงไพรอันเงียบสงบ ตั้งแต่เมื่อวานฝนได้ตกอย่างต่อเนื่อง น้ำฝนจึงซัดสาดรอยเท้าของพวกเขาจางไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หลงเหลือร่องรอย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊