“ตื่นได้แล้วเหรอ” คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นได้โน้มตัวมาจ้องณิชา ในสายตาของพวกเขา เธอคือคนที่ตายได้ไปแล้ว
ไหล่ทั้งสองข้างของณิชาสั่นเทา มองดูแล้วเหมือนจะกลัวมาก คำพูดยังกระตุกกระตักเล็กน้อย
“พวก……พวกคุณเป็นใคร ฉันเป็นแค่พนักงานธรรมดา ถ้าพวกคุณต้องการเงิน คงลักพาตัวผิดคนแล้ว……”
คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นยิ้มอย่างดูแคลน และกระชากผมของณิชา จากนั้นยื่นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งไปยังด้านหน้าเธอ “ยังจะมาตอแหลอีก! โทรศัพท์หาเวธัส บอกเขาว่าหากต้องการให้คุณปลอดภัย ก็ให้บริจาคทรัพย์สินทั้งหมดให้กับมูลนิธิการกุศลต่อสาธารณะ”
ณิชารู้สึกเจ็บปวดที่หนังศีรษะ และผมก็ราวกับจะถูกกระชากให้หลุด
เธอทนความเจ็บปวดไว้ แล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ที่แท้พวกคุณทำก็เพื่อเวธัสหรอกเหรอ เขาไม่มีทางยกทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อฉันหรอก พวกคุณจับผิดคนแล้วจริงๆ……”
“ไอ้สาม ถอดเสื้อผ้าเธอออกให้หมด” คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นสั่งกำชับกับคนหน้าเหี้ยมเกรียมอีกคน
ชายคนนั้นฉีกปากยิ้ม เผยให้เห็นถึงฟันสีเหลืองของเขา ถูมือทั้งสองข้าง แววตาเป็นประกาย “ครับผม ผมอยากจะถอดเสื้อผ้าของเธอตั้งนานแล้ว กลัวแต่ว่าลูกพี่จะไม่เห็นด้วย……”
ดึงกระชากลากถูจนกางเกงขายาวขาดเป็นส่วนๆ เผยให้เห็นถึงต้นขาที่ขาวเนียน
ณิชาพยายามจับกางเกงไว้ ขนแขนทั้งตัวลุกซู่ แล้วกรีดร้องตะคอกใส่คนเหล่านั้น “อย่าเข้ามานะ! ถ้าพวกคุณเข้ามาแตะต้องตัวฉันอีก ฉันจะกัดลิ้นตายทันที!”
คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นเตะเข้าที่เข่าของณิชา “ยังจะมาแข็งข้ออีก”
รองเท้าหนังปลายแหลมคม ได้เตะลงมาที่เข่าของเธออย่างแรง เข่าของณิชาจึงอ่อนในทันใด เหงื่อท่วมไปทั้งตัว เหลือเพียงแค่ไม่ล้มกลิ้งไปกองกับพื้นเท่านั้น ช่วงเจ็บปวดจริงๆ……
คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นยื่นโทรศัพท์มาที่ด้านหน้าของเธออีกครั้ง แล้วก็จ้องมองเธอ
“จงโทรศัพท์ดีๆ จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวให้มาก”
ณิชากอดเข่าด้วยมือข้างเดียว มืออีกข้างหนึ่งรับโทรศัพท์มาด้วยมือที่สั่นเทา
เธอไม่ได้ไปที่สนามบิน เวธัสไม่แน่ตอนนี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วจะให้เขาบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดได้อย่างไร
แต่ถ้าไม่ทำการโทรศัพท์ เธอจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
เมื่อทำการโทรออกไป หัวใจของณิชาก็ทรมานเมื่อได้ยินเสียงรอสาย
เขาจะมาช่วยเธอไหม
ด้านหนึ่งคือทรัพย์สินทั้งหมด อีกด้านหนึ่งคือเธอ แล้วเขาจะเลือกอะไร
“......ใคร” ในเวลานี้ เสียงในลำโพงมีคนรับสายขึ้น
ณิชาใช้มืออุดปากทันที เวลานี้ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของชายหนุ่ม เธอกลับสะอึกพูดไม่ออก ในใจถาโถมด้วยอารมณ์หลากหลายที่ซับซ้อน
อีกด้านหนึ่ง เวธัสได้รับสายที่ไม่รู้จัก ถึงแม้เวลาจะเร่งด่วน แต่ก็กลัวว่าจะพลาดสายโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือของณิชา จึงได้รับสายขึ้น
ความเงียบแผ่กระจายทั่วลำโพงโทรศัพท์ ราวกับมีมือข้างหนึ่งที่มองไม่เห็นบีบเข้าที่หัวใจของเวธัส
“ณิชาเหรอ” เขาถามด้วยความสงสัย
ณิชาคัดจมูกขึ้น แม้จะไม่เต็มใจสักเท่าไร แต่เวลานี้เธออยากฟังเสียงของเขามาก เธอข่มความกลัวในใจไว้ แล้วพยักหน้า “ฉันเอง ตอนนี้ฉัน……”
ทันทีที่เธออ้าปาก ก็เริ่มสะอึกอีกครั้ง รู้สึกเกลียดตัวเองในตอนนี้อย่างมาก
เวธัสเปลี่ยนท่าทีการบีบบังคับคนจากเมื่อวาน แล้วกล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องกลัว ผมรู้แล้วว่าคุณถูกคนลักพาตัว เป็นคนร้ายต้องการให้คุณโทรหาผม พวกเขาต้องการให้ผมทำอะไร คุณค่อยๆ พูด……”
เสียงที่สงบน่าฟังได้ผ่านเข้ามาในใบหู และทำให้หัวใจที่กระสับกระส่ายของณิชาสงบลงอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้น เธอสูดลมหายใจเข้าลึก มองดูคนร้ายลักพาตัวที่ชั่วร้ายแล้วกล่าว “พวกเขาต้องการให้คุณบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดต่อสารธณะ ไม่เช่นนั้นก็จะฆ่าฉันให้ตาย”
เมื่อกล่าวจบ ณิชารู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นเงียบกริบลงไป
เธอจึงยิ้มเยาะให้กับตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...