กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 313

“ตื่นได้แล้วเหรอ” คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นได้โน้มตัวมาจ้องณิชา ในสายตาของพวกเขา เธอคือคนที่ตายได้ไปแล้ว

ไหล่ทั้งสองข้างของณิชาสั่นเทา มองดูแล้วเหมือนจะกลัวมาก คำพูดยังกระตุกกระตักเล็กน้อย

“พวก……พวกคุณเป็นใคร ฉันเป็นแค่พนักงานธรรมดา ถ้าพวกคุณต้องการเงิน คงลักพาตัวผิดคนแล้ว……”

คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นยิ้มอย่างดูแคลน และกระชากผมของณิชา จากนั้นยื่นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งไปยังด้านหน้าเธอ “ยังจะมาตอแหลอีก! โทรศัพท์หาเวธัส บอกเขาว่าหากต้องการให้คุณปลอดภัย ก็ให้บริจาคทรัพย์สินทั้งหมดให้กับมูลนิธิการกุศลต่อสาธารณะ”

 ณิชารู้สึกเจ็บปวดที่หนังศีรษะ และผมก็ราวกับจะถูกกระชากให้หลุด

เธอทนความเจ็บปวดไว้ แล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ที่แท้พวกคุณทำก็เพื่อเวธัสหรอกเหรอ เขาไม่มีทางยกทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อฉันหรอก พวกคุณจับผิดคนแล้วจริงๆ……”

“ไอ้สาม ถอดเสื้อผ้าเธอออกให้หมด” คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นสั่งกำชับกับคนหน้าเหี้ยมเกรียมอีกคน

ชายคนนั้นฉีกปากยิ้ม เผยให้เห็นถึงฟันสีเหลืองของเขา ถูมือทั้งสองข้าง แววตาเป็นประกาย “ครับผม ผมอยากจะถอดเสื้อผ้าของเธอตั้งนานแล้ว กลัวแต่ว่าลูกพี่จะไม่เห็นด้วย……”

ดึงกระชากลากถูจนกางเกงขายาวขาดเป็นส่วนๆ เผยให้เห็นถึงต้นขาที่ขาวเนียน

ณิชาพยายามจับกางเกงไว้ ขนแขนทั้งตัวลุกซู่ แล้วกรีดร้องตะคอกใส่คนเหล่านั้น “อย่าเข้ามานะ! ถ้าพวกคุณเข้ามาแตะต้องตัวฉันอีก ฉันจะกัดลิ้นตายทันที!”

คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นเตะเข้าที่เข่าของณิชา “ยังจะมาแข็งข้ออีก”

รองเท้าหนังปลายแหลมคม ได้เตะลงมาที่เข่าของเธออย่างแรง เข่าของณิชาจึงอ่อนในทันใด เหงื่อท่วมไปทั้งตัว เหลือเพียงแค่ไม่ล้มกลิ้งไปกองกับพื้นเท่านั้น ช่วงเจ็บปวดจริงๆ……

คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นยื่นโทรศัพท์มาที่ด้านหน้าของเธออีกครั้ง แล้วก็จ้องมองเธอ

“จงโทรศัพท์ดีๆ จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวให้มาก”

ณิชากอดเข่าด้วยมือข้างเดียว มืออีกข้างหนึ่งรับโทรศัพท์มาด้วยมือที่สั่นเทา

เธอไม่ได้ไปที่สนามบิน เวธัสไม่แน่ตอนนี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วจะให้เขาบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดได้อย่างไร

แต่ถ้าไม่ทำการโทรศัพท์ เธอจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด 

เมื่อทำการโทรออกไป หัวใจของณิชาก็ทรมานเมื่อได้ยินเสียงรอสาย

เขาจะมาช่วยเธอไหม

ด้านหนึ่งคือทรัพย์สินทั้งหมด อีกด้านหนึ่งคือเธอ แล้วเขาจะเลือกอะไร

“......ใคร” ในเวลานี้ เสียงในลำโพงมีคนรับสายขึ้น

ณิชาใช้มืออุดปากทันที เวลานี้ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของชายหนุ่ม เธอกลับสะอึกพูดไม่ออก ในใจถาโถมด้วยอารมณ์หลากหลายที่ซับซ้อน

อีกด้านหนึ่ง เวธัสได้รับสายที่ไม่รู้จัก ถึงแม้เวลาจะเร่งด่วน แต่ก็กลัวว่าจะพลาดสายโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือของณิชา จึงได้รับสายขึ้น 

ความเงียบแผ่กระจายทั่วลำโพงโทรศัพท์ ราวกับมีมือข้างหนึ่งที่มองไม่เห็นบีบเข้าที่หัวใจของเวธัส

“ณิชาเหรอ” เขาถามด้วยความสงสัย

ณิชาคัดจมูกขึ้น แม้จะไม่เต็มใจสักเท่าไร แต่เวลานี้เธออยากฟังเสียงของเขามาก เธอข่มความกลัวในใจไว้ แล้วพยักหน้า “ฉันเอง ตอนนี้ฉัน……”

ทันทีที่เธออ้าปาก ก็เริ่มสะอึกอีกครั้ง รู้สึกเกลียดตัวเองในตอนนี้อย่างมาก

เวธัสเปลี่ยนท่าทีการบีบบังคับคนจากเมื่อวาน แล้วกล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องกลัว ผมรู้แล้วว่าคุณถูกคนลักพาตัว เป็นคนร้ายต้องการให้คุณโทรหาผม พวกเขาต้องการให้ผมทำอะไร คุณค่อยๆ พูด……”

เสียงที่สงบน่าฟังได้ผ่านเข้ามาในใบหู และทำให้หัวใจที่กระสับกระส่ายของณิชาสงบลงอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้น เธอสูดลมหายใจเข้าลึก มองดูคนร้ายลักพาตัวที่ชั่วร้ายแล้วกล่าว “พวกเขาต้องการให้คุณบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดต่อสารธณะ ไม่เช่นนั้นก็จะฆ่าฉันให้ตาย”

เมื่อกล่าวจบ ณิชารู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นเงียบกริบลงไป

เธอจึงยิ้มเยาะให้กับตัวเอง

เธอน่าจะรู้แต่เนิ่นๆ แล้ว ว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้

อะไรที่บอกว่าให้เลือกระหว่างใต้หล้ากับสาวงาม คงไม่มีใครหรอกที่จะเลือกสาวงามแล้วสละใต้หล้า

โดยเฉพาะเธอกับเวธัสที่ยังมีช่องว่างระหว่างกันมากมาย……

“ถ้าหากว่าฉันกลับไปไม่ได้แล้ว ช่วยฉันดูแลลูกสองคนให้ดีๆ” เธองึมงำเบาๆ ราวกับถูกดูดแรงกายออกไปจนหมด และกล่าวคำอำลาครั้งสุดท้าย

“ใครบอกว่าคุณจะกลับมาไม่ได้” เวธัสขัดจังหวะคำพูดที่คิดไปเองของณิชา “คุณจะต้องมีชีวิตกลับมา”

“ถึงแม้ปัณณ์จะชอบเถียงคุณเป็นประจำ แต่เขาเป็นคนจิตใจดี ต่อไปคุณก็ยอมให้เขาหน่อย ยังมีอรัล ถึงแม้เขาจะค่อนข้างคุยรู้เรื่อง แต่มีอะไรก็มักจะเก็บไว้ในใจ คุณมีเวลาก็คุยเปิดอกกับเขาบ้าง……”

“ณิชาคุณพูดเรื่องโง่ๆ อะไร!” สั่งเสียหรืออย่างไร

เขายังไม่อนุญาตให้เธอไปจากเขาเลย!

ณิชายิ้มเศร้า ยังไม่ทันรอให้เธอได้เอ่ยปาก คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นเกิดความรำคาญ จึงได้แย่งโทรศัพท์ไป เดินมาที่ด้านหน้าของณิชา แล้วก็ดุด่าต่อว่า……

“บอกลาชีวิตเหรอ ยังไม่ถึงเวลาหรอกนะ! เวธัสคุณได้ยินหรือยัง ผู้หญิงของคุณตอนนี้อยู่ในมือของผม เงื่อนไขผมก็บอกกับคุณแล้ว คุณเลือกเองก็แล้วกัน”

ณิชาจ้องหน้าของคนที่มีรอยแผลเป็น กลัวว่าตัวเองจะฟังพลาดอะไรไป

แต่คั่นด้วยระยะห่างช่วงหนึ่ง ลำโพงที่ไม่ได้ถูกเปิดให้ดัง เธอจึงได้ยินเพียงเสียงของคนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นเท่านั้น ไม่ได้ยินเสียงพูดของเวธัสแม้แต่น้อย เห็นเพียงสีหน้าที่พึงพอใจของคนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็น ยิ้มแล้วมองมาทางตัวเองอย่างน่ากลัว

“ช่างโง่จริงๆ ด้วย!”

ณิชาหัวใจบีบรัดแน่น “อะไรของคุณ เวธัสว่าอย่างไร”

คนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นกลับไม่สนใจณิชา เพียงแต่กำชับลูกน้องสองสามคำ “ฉันจะออกไป พวกนายเฝ้าผู้หญิงคนนี้ให้ดีๆ!”

ชะงักครู่หนึ่ง เขาก็กำชับเป็นพิเศษอีกครั้ง “ก่อนที่เวธัสยังไม่บริจาคทรัพย์สิน หากใครคิดจะทำอะไร ปืนของฉันจะไม่ปล่อยไว้แน่!”

ลูกน้องสองคนยิ้มแหยแล้วมองคนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นเดินออกไป จากนั้นก็หันหน้ามามองตัวของณิชา

กางเกงของณิชาถูกกระชากขาดไปส่วนหนึ่ง เพราะการถูกสาดน้ำเมื่อสักครู่ เวลานี้ทำให้เสื้อผ้าบนตัวแนบติดกับร่างกายของเธอ จึงเห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงามของรูปร่างเธอ

และยังเห็นขอบสีเสื้อชั้นในรางๆ……

รับรู้ถึงแววตาของทั้งสองคน ณิชารีบเหยียดมือมาปิดช่วงหน้าอกไว้ “อย่าลืมคำพูดของลูกพี่พวกคุณนะ หากทำเรื่องของนายจ้างเสียการ ผลลัพธ์พวกคุณต้องรับผิดชอบเอง!”

“ถุย ต้องมีเวลาที่คุณขอร้องผมแน่” หนึ่งในนั้นได้ถ่มน้ำลายออกมา และก็ดึงสายตากลับไป

ทั้งสองเฝ้าณิชาแล้วรู้สึกเบื่อ จึงหยิบเชือกมามัดณิชาไว้ และก็เดินมาที่ประตูที่แสงดีกว่าเพื่อเล่นไพ่

ฝ่ายนั้นมัดเชือกให้เธอโดยเป็นเงื่อนพิรอด เธอยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น ข้อมือและข้อเท้าถูกเชือกถูไถจนหนังถลอก แต่ณิชาก็ไม่กล้าที่จะแก้เชือก แต่แอบใช้แหวนขอแต่งงานของเวธัสค่อยๆ ขัดถูกับเชือกเพื่อให้ขาด

คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าแหวนวงนี้จะเป็นเครื่องมือในการเอาตัวรอดของเธอในตอนนี้……

แต่พูดเหมือนจะดูง่าย แต่เมื่อทำการขัดถูขึ้นมาเป็นอะไรที่ช่างยากจริงๆ

ผ่านไปเพียงครู่เดียว เชือกไม่เพียงไม่หลุด ส่วนเธอกลับหอบเหนื่อยจนเหงื่อไหลท่วมหน้า ต่อให้เป็นเช่นนี้เธอก็ไม่กล้าที่จะหยุด เธอไม่รู้ว่าเวธัสเลือกทางไหน และจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอเมื่อคนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นกลับมา……

เธอจะตายไม่ได้ และจะตายอยู่ที่นี่ไม่ได้!

……

อีกฝั่งหนึ่ง ณ ทางเข้าป่ามรณะ

เวธัสสืบเส้นทางเจอจนได้ มองไปทางโทนี่และกลุ่มช่างคนอื่นๆ เมื่อสักครู่ตอนที่ผู้ร้ายลักพาตัวได้โทรศัพท์มานั้น เขาได้ให้คนเริ่มติดตามสัญญาณของหมายเลขนี้……

“คุณเวธัสครับ เวลาในการคุยโทรศัพท์มีจำกัด จึงยืนยันตำแหน่งที่แน่นอนไม่ได้ รู้แค่เพียงว่าอยู่ในพื้นที่ทางเหนือของดงป่าแห่งนี้” ผู้รับผิดชอบแผนกเทคนิคกล่าวอย่างรู้สึกเสียใจ

เวธัสเม้มริมฝีปากบาง แล้วรับสั่งกับโทนี่ “จงให้ฝ่ายบัญชีเตรียมบัญชีทรัพย์สินไว้”

“คุณเวธัสไม่ได้นะครับ!” โทนี่รู้ว่าเวธัสเตรียมที่จะตอบตกลงเงื่อนไขของคนร้ายลักพาตัว จึงรีบห้ามปราม “ทรัพย์สินส่วนตัวของท่านยังรวมไปถึงสนธิไชยกรุ๊ปด้วย แล้วก็หุ้นต่างๆ ของบริษัท ถ้าบริจาคไป จะเป็นเกิดผลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้... "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊