กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 314

“ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น” เวธัสยกมุมปากเป็นเส้นโค้งขึ้นอย่างเย็นชา “เกมนี้ไม่ได้มีไว้เล่นงานณิชา แต่มีไว้เล่นงานฉัน พวกเขาอยากใช้ณิชามาบีบบังคับฉันให้สละทิ้งทุกอย่าง อย่างนั้นก็ต้องดูว่าจะมีความสามารถนี้หรือไม่!”

โทนี่ตกใจ และก็เข้าใจความหมายของเวธัส

“ท่านกำลังพยายามถ่วงเวลาเหรอครับ”

“นายช่วยฉันถ่ายคลิปวิดีโอสั้นหน่อย หากคนร้ายโทรศัพท์มา นายก็บอกเขาว่าฉันกำลังคำนวณบัญชีทั้งหมดอยู่ ส่วนคนที่เหลือให้ตามฉันขึ้นไปบนเขา”

“คุณเวธัสครับ ให้ผมพาคนไปตามหาเถอะ!” เวลานี้เอกได้เสนอหน้าออกมา

สองสามวันก่อนเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ม้านั่งมาโดยตลอด เวลานี้เกิดเรื่องขึ้นกับณิชา เขาไม่อาจจะนิ่งดูดายได้!”

เวธัสหันมามองเอกแวบหนึ่ง สีหน้าบึ้งตึง “ถ้าหากว่าผู้หญิงของฉันยังต้องให้นายไปช่วย แล้วฉันนับเป็นผู้ชายประสาอะไร”

“แต่บนเขามันอันตราย อีกทั้งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนร้ายลักพาตัวนั้นเป็นใคร……” เอกร้อนใจจนสีหน้าแดงก่ำ และยังคงไม่หยุดที่จะกล่าวเกลี้ยกล่อม “ถือว่าให้ผมได้ทำความดีไถ่โทษเถอะ ผมจะต้องพาตัวคุณณิชากลับมาให้ได้!”

“วางใจได้ ป่าไพรกว้างใหญ่เช่นนี้ มีโอกาสให้นายได้ทำดีไถ่โทษแน่……”

จากนั้น เวธัสก็จัดแจงแบ่งคน เข้าไปตามหาในพนาไพร ขณะเดียวกันก็ได้สั่งกำชับ อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด เมื่อพบณิชา ให้แจ้งพรรคพวกทันที

……

สองชั่วโมงผ่านไป

คนร้ายสองคนที่อยู่นอกประตูยังคงเล่นไพ่กันอยู่ หนึ่งในนั้นมักจะแพ้อยู่เสมอ จึงไม่ค่อยพอใจ และได้ทะเลาะกับอีกคนขึ้นมา

ณิชาอาศัยช่วงจังหวะที่ทั้งสองคนโต้เถียงกัน แอบแก้เชือกบนเท้าของตัวเอง และวิ่งออกไปทางหน้าต่างไป

แต่ว่าก่อนหน้านี้เข่าของเธอถูกคนร้ายเตะจนได้รับบาดเจ็บ วินาทีที่ล้มลงไป รู้สึกเหมือนกระดูกจะเคลื่อน และก็เจ็บปวดอย่างมาก แต่เธอไม่กล้าที่จะหยุด สูดลมหายใจเข้าลึกและวิ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว……

แม้คนร้ายทั้งสองคนจะทะเลาะกัน แต่ก็คอยจับตาดูสถานการณ์ภายในบ้านด้วยตลอดเวลา

“ทำไม ตอนชนะได้เงินยิ้มไม่หุบ พอแพ้ก็ไม่อยากจ่ายเงินซะงั้น”

อีกคนหนึ่งชี้มาทางณิชาแล้วตะโกนขึ้น “เหี้ย เพราะนายคนเดียว ทะเลาะอะไรนักหนา ผู้หญิงคนนั้นวิ่งหนีไปแล้ว! รีบตามเร็ว!”

ณิชาได้ยินเสียงด่าทอ ไม่กล้าที่หันกลับไปมอง ลากขาขวาด้วยความเจ็บปวด วิ่งไปด้านหน้าอย่างสุดชีวิต

ฝนเพิ่งหยุดตก และที่นี่ก็เป็นป่าดงพงไพร

ถนนก็เต็มไปด้วยหลุมบ่อ แอ่งน้ำเล็กๆ มากมาย เธอวิ่งเข้าไปยังถนนเส้นเล็กๆ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเจ็ดแปดโค้ง อยากจะให้ตัวสามารถแวบหายตัวได้จริงๆ

ตลอดเส้นทาง ก็ไม่รู้ว่าถูกกิ่งต้นไม้ขูดไปกี่ต้น แก้มบนใบหน้าถูกตบตีจนชาไปหมด

“นังตัวดี หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงฝีเท้าด้านหลังยิ่งอยู่ยิ่งเข้ามาใกล้ ทำให้จิตใจของณิชาตึงเครียด

หากว่าครั้งนี้ถูกจับตัวกลับไปได้ เธอจะต้องไม่มีโอกาสรอดอย่างแน่นอน

ความเสี่ยงนี้ณิชาสู้ไม่ไหว

เสียงตะโกนด่ายิ่งอยู่ยิ่งใกล้ ณิชาเห็นด้านหน้าว่ากำลังวิ่งไปยังขอบหน้าผา ลนลานจนสีหน้าแดงก่ำ

และในเวลานี้ เธอสังเกตเห็นกำแพงหินต่ำๆ อยู่ไม่ไกล

ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ข้างๆ กำแพงหินต่ำๆ นี้ยังมีกองพุ่มหญ้า

กองหญ้าเปียกชุ่มด้วยหยาดฝน และปนเปื้อนด้วยดินโคลน สกปรกสุดๆ

ณิชากัดฟันของเธอกระโดดข้ามกำแพงต่ำๆ นั้นไป และเข้าไปหมอบอยู่หลังพุ่มหญ้าที่เปียกชุ่ม

ณิชาคำนวณเวลาไว้เสร็จสรรพ และคาดว่าคนเหล่านั้นน่าจะตามมาแล้ว จึงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เธอรู้ดีว่าหลบอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

จากนั้นในเวลานี้ มีมือข้างหนึ่งยื่นมาจากทางด้านหลัง มาปิดปากปิดจมูกของเธอไว้

ปิดแน่นจนเธอตกใจไม่สามารถที่จะกรีดร้องออกมาได้

ขวัญหายกระเจิดกระเจิงไปหมด ณิชาตกใจอย่างมาก ก้มหน้าลงแล้วศอกเข้าที่หน้าอกของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง——

“ผมเอง อย่าขยับ” เสียงแหบพร่าชายหนุ่มลอยเข้ามาในใบหู

เวธัสกางแขนของเธอที่จับไว้ออก และกลายเป็นท่าที่เขากอดเธอไว้พอดี ด้านหลังของณิชาจึงแนบชิดกับทรวงอกของเขา สามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้นที่หนักแน่นและทรงพลังของเขา

แผ่นทรวงอกของเขาอบอุ่น ได้ช่วยขจัดความหนาวเย็นรอบตัวเธอ

ณิชาดมกลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่เขาใช้เป็นประจำ หัวใจทั้งดวงก็เต้นแรงขึ้น

เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง เธอมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา

ว่าเวธัสจะมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ได้!

ณิชาใช้แรงกะพริบตา สงสัยว่าตัวเองกำลังเห็นภาพหลอนอยู่หรือไม่

บังเอิญกับที่เวธัสมองเธอพอดี ทั้งสองจึงสบสายตากันกลางอากาศอย่างไม่คาดคิด ณิชาเหมือนกับถูกของบางอย่างทิ่ม จึงรีบเบนสายตาไปมองด้วยความตกใจ……

เวธัสมั่นใจว่าเธอจะไม่กรีดร้องออกมาแล้ว จึงค่อยๆ คลายมือออก

มือของเธอเย็นมาก ร่างกายก็เย็นเช่นกัน

เขารีบถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมให้กับเธอ ใช้ปลายนิ้วเช็ดแก้มสกปรกของเธอ ใจสั่นเล็กน้อย พลันโน้มตัวลงประทับรอยจูบลงไปอย่างแรง

ริมฝีปากชมพู ปลายจมูก ดวงตา ขยับไปมา จนกระทั่งวินาทีนี้ จิตใจที่กระวนกระวายของเขาถึงค่อยๆ สงบลง

สมองของณิชาเต็มไปด้วยความอันตรายตรงหน้าและการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเวธัสที่นี่ จนถึงขั้นที่อยากจะผลักเขาออกไป

ก็ไม่รู้ว่าถูกเขาจูบแบบนี้นานเท่าไร เวลายาวนานราวกับว่าได้ผ่านไปหนึ่งศตวรรษแล้ว และก็เหมือนกับเป็นเพียงเวลานั้นสั้นๆ ไม่กี่นาที และสองคนร้ายนั้นก็ได้ไล่ตามมาติดๆ

เมฆครึ้มขึ้นบนฟากฟ้า พื้นล่างมืดมิดเป็นชั้นๆ

คนร้ายลักพาตัวตามมาถึงที่ขอบหน้าผาก็หยุดชะงักเท้าลง

“ด้านหน้าคือทางตัน อย่างนั้นผู้หญิงคนนั้นจะต้องอยู่บริเวณใกล้ๆ นี้อย่างแน่นอน”

“ถ้าหากว่าลูกพี่กลับมาแล้วพบว่าผู้หญิงคนนี้หนีไปแล้ว พวกเราจะต้องซวยอย่างแน่นอน!”

“ดูกำแพงนั่นสิ……” ชายคนหนึ่งชี้ไปที่กำแพงหินต่ำๆ ที่อยู่ตรงหน้า

ทั้งคู่สบตากัน จากนั้นก็ค่อยๆ เดินย่องเบาๆ เข้าไปใกล้กำแพงหิน ยิ่งเข้ายิ่งใกล้ขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าณิชาจะต้องซ่อนอยู่ในนี้อย่างแน่นอน จึงแกล้งหยอกเล่นๆ อย่างเจ้าเล่ห์

อีกสักครู่เมื่อจับณิชาได้ จะต้องให้เธอร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ ขอตายก็ไม่ได้!

ใต้กองพุ่มหญ้าหลังกำแพงต่ำ ณิชาจับขากางเกงไปหนึ่งที

ขากางเกงถูกพวกเขาฉีกขาดในตอนนั้น สายตาที่พวกนั้นจ้องมาที่ขาของเธอ……

น่าขยะแขยงมาก

เวธัสเองก็สังเกตเห็นท่าทางของณิชา สายตาของเขาจึงกวาดไปมองขาที่เรียวขาวของเธอ ในดวงตาผุดอารมณ์เดือดพล่านกระหายเลือดขึ้น

“ซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ให้ดี อย่าออกมา”

คำเตือนอันละมุนของชายหนุ่มลอยเข้ามาในใบหู จากนั้นด้านหน้าของณิชาก็เห็นเพียงเงาที่ขยับไปมา

เวธัสรูปร่างที่สูงใหญ่ได้พุ่งกระโจนออกไป ราวกับสัตว์ร้ายที่กระหายเลือด การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วที่พร้อมจะเด็ดชีวิต ก่อนที่คนร้ายสองคนนั้นจะตั้งตัวทันนั้น ก็ถูกโจมตีจนนอนกองไปกับพื้นแล้ว……

หนึ่งในคนร้ายท้ายทอยไปชนกับลำต้นของต้นไม้จึงหมดสติไป

อีกคนหนึ่งนอนพะงาบอยู่บนพื้น และร้องโอดโอยครวญคราง

เวธัสยืนด้วยแผ่นหลังที่ตรง ราวกับภูเขาสูงตระหง่าน ที่สามารถบดบังพายุลมทั้งหมด แล้วตะโกนเบาๆ กับณิชาอย่างอ่อนโยน “ปลอดภัยแล้ว ออกมาได้แล้ว”

ณิชากัดริมฝีปากล่าง จับเสื้อสูทที่เขาได้ให้ไว้แน่น แล้วเดินกะเผลกออกมา

และก็เป็นเวลานี้ ที่เวธัสเห็นความกระเซอะกระเซิงของเธออย่างชัดเจน

ใบหน้าเล็กๆ ที่จืดชืดแลเหมือนแมวน้อย ที่เลอะไปด้วยกิ่งไม้ดินโคลน กางเกงขาขวาขาดปลิ้น ส่วนขาและหลังมือล้วนถูกกิ่งไม้ขูดจนเป็นรอยคราบเลือด……

เวธัสผุดความเจ็บปวดขึ้นในใจ เขาน่าจะหาเธอให้เจอเร็วกว่านี้

เขารีบเดินมาด้านหน้าประคองเธอไว้ แต่ณิชาแสร้งทำเป็นจับคอเสื้อสูท จะได้เลี่ยงการสัมผัสจากตัวเขา ก้มหน้ามองลงตลอด ไม่กล้าสบตากับเขา……

และในใจเกิดความปั่นป่วนเช่นกัน

เดี๋ยวก็เหมือนขึ้นสวรรค์ เดี๋ยวก็เหมือนตกนรก สับสนวุ่นวายไปหมด

“นายจ้างผู้อยู่เบื้องหลังของนายคือใคร ทำไมต้องลักพาตัวฉันด้วย” ณิชาเดินมาที่ด้านหน้าคนร้าย แล้วเตะใส่เขาไปหนึ่งที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊