กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 320

ความหมายนั้นชัดเจน เธอจิตใจไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้หญิงที่ความคิดเหลี่ยมจัด

ณิชาค่อยๆ ยืดตัวตรง และสบตากับท่านประเสริฐ ไม่เพียงไม่โกรธกับยิ้มขึ้น “เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นค่อนข้างเหนื่อยในการเลี้ยงลูก ขอบคุณที่ท่านห่วงใย”

ท่านประเสริฐถูกคำพูดเบาๆ ของเธอสกัดไว้ สีหน้าจึงขึงขังขึ้น

“เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเด็กสองคนนี้เกิดมาได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ไม่รู้การมีอยู่ของปัณณ์ ตอนนี้ตระกูลสนธิไชยรู้แล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เลี้ยงดูอีก!”

แต่ละคำล้วนแดกดันถากถางณิชา ณิชายังคงไม่โมโห

“ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ไม่ใช่สิ่งที่สามารถกำจัดได้ด้วยคำพูดประโยคเดียวว่าไม่มีสิทธิ์ค่ะ หากว่าท่านไม่เชื่อ หนูสามารถไปที่สำนักงานรับรองเอกสาร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หนูก็จะไม่รับทรัพย์สินใดๆ ของตระกูลสนธิไชย”

“แต่หนูญ่าได้ตั้งท้องแล้ว ยากที่จะการันตีได้ว่าเธอจะไม่ยุยงให้ลูกชายของเธอไปแย่งของของลูกของหนูญ่า ที่เป็นเหลนตระกูลสนธิไชยของฉัน และจะไม่ไปเป็นเครื่องมือของเธอ!”

น้ำเสียงของประเสริฐเองก็ค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น

เมื่อมองจากมุมมองณิชา เขากับเวธัสมีบุคลิกที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน คือยากที่จะคบค้าสมาคมด้วย

เธอไม่ได้ตอบกลับในทันที แต่กลับมองไปยังท้องน้อยที่แบนเรียบของกันญ่า

หากว่าคืนนั้นสิ่งที่เวธัสพูดเป็นความจริง เขาไม่ได้แตะต้องตัวกันญ่าจริงๆ……

อย่างนั้นก้อนเนื้อในท้องของเธอ เป็นของตระกูลสนธิไชยหรือไม่ ยังต้องรอดูกันต่อไป

สัมผัสถึงสายตาของณิชาที่มองมายังท้องน้อยของตัวเอง กันญ่าก็ไม่ความระแวง แต่กลับยิ้มอย่างอบอุ่นและใจกว้าง “ณิชา เธอวางใจได้ เดิมทีฉันก็เป็นญาติผู้ใหญ่ของหนูน้อยทั้งสองคน ต่อไปฉันจะรักพวกเขาเหมือนเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง”

พลางพูดกันญ่าพลางหยิบเช็คมาใบหนึ่ง ที่ด้านบนนั้นเขียนจำนวนตัวเลขไว้เรียบร้อย

“นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของฉัน ลำบากเธอแล้วที่ดูแลเด็กๆ หากเธอคิดว่าไม่พอ สามารถระบุจำนวนมาได้เลย ถือเสียว่าเป็นค่าชดเชยการในคลอดเด็กๆ”

ค่าชดเชยการในคลอดเด็กๆ เหรอ

ณิชาได้ยิน ทันใดนั้นก็รู้สึกน่าขำ

เธอค่อยๆ ยื่นมือไปรับเช็คใบนั้น สีหน้าเรียบนิ่ง

กันญ่ามองดูเธอรับเช็คไป ในใจเกิดความดีใจ มีท่านประเสริฐอยู่ด้วยช่างแตกต่างจริงๆ เธอหมดหนทางจริงด้วย! ขอเพียงเธอจัดการกับเวธัสได้ ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย……

เมื่อเอกเห็นภาพนี้ ก็เกิดความตกใจ หรือณิชาจะรับเงินแล้วจากไปจริงๆ

หากคุณเวธัสตื่นขึ้นมาแล้วรู้เรื่องนี้ จะโมโหจนจับเธอมาอีกไหม

ครั้นแล้ว วินาทีต่อไป…..

แควก!

ณิชาฉีกเช็คนับสิบล้านใบนั้นเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าผู้คน เธอโยนเศษเช็คนั้นลงในถังขยะ โดยไม่แม้แต่กะพริบตา

“เธอคิดว่านี่เป็นธุรกิจเหรอ ให้เงินฉัน คิดว่าฉันจะขายลูกแฝดของฉันทิ้งอย่างนั้นเหรอ”

“เธอ……” กันญ่ากัดริมฝีปากล่างอย่างเสียใจ แล้วกล่าวออดอ้อนกับประเสริฐ “คุณปู่คะ เห็นทีณิชาไม่พอใจกับเงื่อนไขที่ท่านเสนอ ต้องการที่จะตอแยธัสต่อไปค่ะ……”

ประเสริฐตบเข้าที่หลังมือของกันญ่าเบาๆ เพื่อปลอบใจ แล้วหันหน้าไปเหลือบมองณิชาอย่างเย็นชา “หนูญ่านั้นเป็นคนที่คุยง่าย แต่กับฉันคงไม่มีความอดทนขนาดนั้น เธอจะคิดว่าเป็นการขายลูกก็ได้ ยอมให้ลูกก็ได้ เธอมีความสามารถก็จงมาแย่งสิทธิ์การเลี้ยงดูจากมือของฉัน ธัสต้องไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ”

เมื่อกล่าวจบ ประเสริฐก็พากันญ่าจากไป

กันญ่าคอยเอาใจประเสริฐตลอดทาง

“คุณปู่ท่านใจเย็นๆ ก่อนนะคะ รอให้ลูกของหนูเกิดมาก่อน หนูยังรอให้ท่านช่วยหนูเลี้ยงเหลนอยู่นะคะ……”

แววตาประเสริฐหม่นลงแล้วหันไปมองกันญ่า

ถึงแม้เรื่องที่กันญ่าเคยทรยศเวธัส เขาจะรู้ตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้เธอตั้งครรภ์ลูกของธัส เขาไม่อยากจะหักหน้าเธอ

ทุกอย่างรอให้เธอคลอดลูกออกมาแล้วค่อยว่ากัน

เมื่อเทียบกับณิชาแล้ว เขาย่อมยินดีที่จะให้กันญ่ามาเป็นหลานสะใภ้มากกว่า

น้ำเสียงก็อ่อนหวาน เอาใจเขาจนความโมโหจางหายไป……

ณิชามองดูหนึ่งชราหนึ่งวัยเยาว์จากไป กันญ่าเรียกคุณปู่อย่างออเซาะปากหวาน คอยประคองเขา คนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าเขาเป็นปู่แท้ๆ

……

เอกบอกกับณิชาว่า ตอนที่รถตกหน้าผานั้น เวธัสได้คว้าจับโดนเถาวัลย์ขอบหน้าผาอย่างบังเอิญ และก็ล้มลงไปบนต้นไม้ต้นนึ่งที่ทอดยาวในแนวราบพอดี จึงรอดชีวิตมาได้

แต่ว่าคุณหมอบอกว่าได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส และบวกกับแผลจากกระสุนปืนที่แขนมีอาการอักเสบ ดังนั้นตอนนี้จึงยังหมดสติ

ณิชาพยายามกล่อมตัวเองให้ไม่ไปคิด แต่ว่าในหัวสมองผุดใบหน้าของเวธัสอย่างควบคุมไม่ได้

ภาพตอนที่เขาเสี่ยงชีวิต เพียงเพื่อให้เธอโดดลงจากรถอย่างปลอดภัย ยังคงวนเวียนซ้ำๆ อยู่ตรงหน้า…

ดูเหมือนเป็นฉากภาพยนตร์ ที่แต่ละฉากพลันหยุดนิ่ง

เธอลืมไม่ได้ และก็ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้

ปลายจมูกเริ่มคัดขึ้น

“เขาอยู่ห้องไหน ฉันอยากจะไปดูเขา” ณิชามองไปทางเอกอย่างจริงใจ

เอกเกาศีรษะด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณเวธัสต้องการให้คุณไปเยี่ยมเขาอย่างแน่นอน แต่ว่า……คนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกห้องผู้ป่วย ล้วนเป็นคนของคุณท่าน ดังนั้นผมกับโทนี่อยากจะเข้ามาแทรกก็ยังจนปัญญา ดังนั้น……”

ณิชาสีหน้ามืดหม่น “ห้องผู้ป่วยอยู่ชั้นไหน!”

เอกมองณิชาด้วยความตกใจ

“คุณณิชา คงไม่ได้คิดที่จะ……”

“เขาบาดแผลเต็มตัวก็เพราะฉัน ไม่เห็นเขาปลอดภัยด้วยตาตัวเอง ฉันไม่สบายใจ” ณิชาหยุดชะงักครู่หนึ่ง กลัวจะทำให้เอกเดือดร้อนเช่นกัน ใต้ดวงตาถูกปกคลุมด้วยชั้นความมืด “ถ้าหากว่าไม่สะดวก อย่างนั้นฉันจะหาวิธีด้วยตัวเอง……”

แน่นอนว่าเอกไม่กล้าทำให้ณิชาต้องลำบาก หากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อคุณเวธัสตื่นขึ้นมาจะไม่ถลกหนังเขาเหรอ

“ห้องผู้ป่วยของคุณเวธัสอยู่ชั้นบนสุด……”

ชั้นบนสุด?

ดวงตาของณิชาเป็นประกาย และได้ตัดสินใจแล้ว

……

ยามราตรีค่อยๆ คืบคลานแผ่ขยายออกไป จนทุกอย่างตกลงไปความมืด

ร่างที่ไม่ค่อยมีชีวิตชีวากำลังเดินข้ามระเบียงห้องผู้ป่วยที่อยู่ชั้นบนสุด ในเมื่อไม่สามารถเข้าไปได้อย่างเปิดเผย เธอก็คงต้องเข้าไปทางหน้าต่าง!

สิ่งที่ทำให้ณิชาตกใจก็คือ ระเบียงระหว่างห้องวีไอพีชั้นบนสุดนั้นกว้างใหญ่มาก ตรงกลางยังขั้นด้วยความห่างที่ค่อนข้างไกลอีก

ณิชาประเมินระยะห่าง การกระโดดข้ามไปเป็นไปไม่ค่อยได้แล้ว

โชคดีที่เอกเต็มใจช่วยเธอ และบังเอิญที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ ไม่มีผู้พักอาศัย เอกคล่องแคล่วว่องไว เขาผูกเชือกหนาประมาณข้อมือระหว่างระเบียงอย่างเงียบๆ

จากนั้นก็ไต่เชื่อกเส้นนี้ข้ามไป ก็จะสามารถไปยังระเบียงด้านนอกห้องผู้ป่วยของเวธัสได้

พยาบาลผู้ดูแลเวธัสก็ถูกเอกติดสินบนแล้ว และจะคอยช่วยเปิดประตูให้กับเธอ

เอกมองณิชาด้วยความเป็นห่วง “คุณณิชา หรือว่าช่างเถอะ รอให้คุณเวธัสฟื้นขึ้นมา ผมจะบอกให้เขาทราบทันทีว่าคุณเป็นห่วงเขามาก”

ณิชามองดูอาคารที่สูงสิบกว่าชั้น ผู้คนและรถในชั้นล่างต่างขวักไขว่ และหัวใจก็เต้นอย่างแรงไปหนึ่งที……

เธอรีบดึงสายตากลับด้วยความกลัว “รอยืนยันว่าเขาปลอดภัยแล้ว ฉันก็จะจากไป”

การห้ามของเอกไม่เป็นผล จึงได้แต่สอนทักษะของการสมดุลร่างกายให้กับเธอ

โชคดีที่เมื่อก่อนเธอเคยเรียนบัลเล่ต์ ความอ่อนของร่างกายจึงค่อนข้างดี ถึงแม้ว่าจะสะดุดตลอดทาง แต่ที่สุดแล้วก็สามารถเข้าไปยังระเบียงห้องของเวธัสได้อย่างปลอดภัย

หายใจเข้าลึก ๆ ตอนที่เธอลงไปแตะที่พื้นนั้นยังไม่กล้าใช้แรงมากเกินไป

ระเบียงที่คั่นด้วยประตูกระจก เธอสามารถมองเห็นเวธัสที่นอนอยู่บนเตียงจากระยะไกล……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊