กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 322

ณิชาหลับตาลง เพื่อให้ตนเองปล่อยวางให้ถึงที่สุด

เดิมเป็นการจูบด้วยรักอันสุกงอม แต่เวธัสกลับค้นพบว่ายามเมื่อตนเองสัมผัสลมหายใจของเธอ จนควบคุมไม่อยู่และต้องการมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งๆ ที่เขาเริ่มขาดอากาศหายใจ จนหายใจติดขัด…

จนเกิดสัญญาณบางอย่างที่โกรธไม่ลง

ณิชาเบรกความรู้สึกหัวทิ่มได้ทันเวลา พลันกล่าวด้วยความรู้สึกเขินอายจนหน้าแดงหัวใจเต้นรัว “พวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณฟื้นแล้ว ฉันจะไปแจ้งข่าวของคุณให้...”

อาการหน้าอกกระเพื่อมของเวธัสสงบลง พลันพูดเสียงแข็ง “ข่าวที่ผมฟื้นอย่าเพิ่งแพร่งพรายออกไปนะครับ”

“ทำไมหรือคะ?” ณิชาไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบลักษณะเย่อหยิ่งทำตัวสูงส่งจนกดดันคนอื่นของท่านประเสริฐ แต่เขาก็น่าจะเป็นห่วงเวธัสมาก

เวธัสกระตุกมุมปากอันอ่อนแอ พลันแสดงท่าทางยากแก่การคาดเดาอย่างยิ่งยวดออกมา

……

อีกฝั่งหนึ่ง

กันญ่ารับประทานอาหารเย็นเป็นเพื่อนประเสริฐ

เมื่อมั่นใจว่าประเสริฐกลับถึงคฤหาสน์สนธิไชยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอเตรียมการอย่างง่ายดาย จึงเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดสีดำที่ไม่สะดุดทั้งตัว แถมสวมหมวกแก๊ป และย่องไปยังคอนโดที่พักอาศัยของเตชินท์ในประเทศฝรั่งเศสทันที

เตชินท์เองก็รอข่าวคราวจากกันญ่าเช่นกัน

เมื่อเห็นเธอมาถึงแล้ว พลันรีบซักไซ้อย่างร้อนรนทันควัน “เป็นไงบ้าง เวธัสเขาตายหรือยังครับ?”

“ทำไมเหรอ คุณหวังให้เขาตายมากนักเหรอ?” กันญ่าเก็บงำความโกรธเคือง พลันตะคอกใส่เขา “ทั้งๆ ที่ฉันบอกคุณว่าให้ลักพาตัวณิชาไป แต่ทำไมหลังจากนั้นถึงกลายเป็นทำให้คุณเวธัสต้องพลอยติดร่างแหไปด้วยล่ะ?”

ดวงตาเตชินท์ปรากฏอาการดูถูกขึ้นมาแวบหนึ่ง ซึ่งตอนแรกเขาก็แค่คิดจะลักพาตัวณิชาเท่านั้นเอง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของณิชาแล้ว แต่ระหว่างนั้นเขากลับได้รับโทรศัพท์ลึกลับ

ที่พูดว่าช่วยฆ่าเวธัสให้ตายแทนเขาที ถึงเวลานั้นกันญ่าก็จะเป็นของเขาแค่คนเดียว

“เรื่องมันที่เกิดขึ้นที่หลังแล้วหลังจากนั้นผมเองก็ไม่รู้ สรุปตอนนี้มันสถานการณ์ไหนกันแน่?”

กันญ่าไม่มีผู้ช่วยคนอื่นในระยะอันสั้นนี้ อีกทั้งเชื่อใจเตชินท์อยู่คนเดียว เธอรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย

“คุณเวธัสยังไม่ฟื้น แต่หมอพูดว่าสมรรถนะร่างกายของเขาดีมาก เรื่องการฟื้นขึ้นมาเป็นเรื่องที่ไม่ช้าหรือเร็วไปจากนี้ ฉันได้บอกท่านประเสริฐไปแล้วว่าเด็กในท้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณเวธัส หากเขาฟื้นกลับมา...ฉันก็จบสิ้นแล้ว”

เตชินท์เลิกคิ้วขึ้น และไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมกันญ่าถึงได้ดื้อรั้นหัวชนฝาที่จะเป็นนายหญิงของตระกูลสนธิไชยให้ได้

“เต ตระกูลรังสิกุลทรงอิทธิพลมากในฝรั่งเศสไม่ใช่เหรอ? นายช่วยฉันหาที ฉันได้ข่าวว่าในตลาดมืดมันมีตัวยาอยู่ชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำลายประสาทฮิปโปแคมปัสในสมองของคนจนทำให้สูญเสียความทรงจำ...”

เตชินท์ที่กำลังกังวลอยู่กับคนลึกลับที่จัดการเรื่องไม่เฉียบขาดมากพอ จู่ๆ เมื่อได้ยินประโยคนนี้ จนมีสีหน้าเปลี่ยนทันทีทันใด

“นี่คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า? ท่านประเสริฐก็อยู่ที่นี่ด้วย คุณวางแผนจะลงมือใต้จมูกเขาเนี่ยนะ?”

กันญ่ากัดริมฝีปากล่างไว้อย่างสุดแรง และแสดงความพอใจออกทางสีหน้า “ตราบใดที่ความทรงจำของคุณเวธัสเสียหายไป ท่านประเสริฐก็จะคอยสนับสนุนให้ฉันเป็นนายหญิงของตระกูลสนธิไชย ถึงเวลานั้นตระกูลสนธิไชยก็เป็นกองเงินกองทองอันล้ำค่าของให้ลูกของเราแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”

สัญชาตญาณของเตชินท์กลับคิดว่านี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก

ยังอยากจะพูดอะไรเพิ่มเติมอีกนิด แต่กันญ่ากลับสะบัดมือของเขาออกทันที

“ได้ คุณไม่ยอมช่วยฉันใช่มั้ย? งั้นฉันจะไปหาคนอื่นมาช่วยฉันเอง! ถึงเวลานั้นโดนท่านประเสริฐจับได้ ถ้าฉันตายก็ให้ตายห่าไปเลย! แค่สงสารลูกของเราที่ยังไม่ทันได้ลืมตามาบนโลกใบนี้ก็เท่านั้นแหละ...”

สายตาเตชินท์มองพาดท้องน้อยของเธอ พลันขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างหงุดหงิด

ทันใดนั้น พลันปรากฏรอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายบริเวณมุมปากของเขา

“คุณมั่นใจนะว่าต้องการยานั่น?”

“ค่ะ!” กันญ่าพยักหน้าอย่างไม่รีรอ คิดว่าเขาคงเห็นด้วยในสิ่งที่ตนเองพูดออกไป ท้ายที่สุดเขาก็อยู่ในเงื้อมมือของเธออยู่เสมอ”

รอยยิ้มมุมปากของเตชินท์ฉีกยิ้มมากขึ้นกว่าเดิม “ตกลง ขอแค่คุณต้องการ ผมก็จะช่วยเหลือคุณทุกอย่าง”

ถือว่า ช่วยเวธัสให้ลงนรกไปด้วยแล้วกัน!

ทำลายประสาทฮิปโปแคมปัสของสมองจนส่งผลให้สูญเสียความทรงจำมันจะไปพออะไร? มาถึงขั้นนี้แล้วคนลึกลับคนนั้นไม่สามารถจัดการเวธัสให้พ้นทาง งั้นเขาก็ต้องลงมือด้วยตนเอง!

จักต้องเอาความอัปยศอดสูที่เวธัสยัดเยียดให้ตนเองคืนกลับไปให้เขา”

กันญ่าไม่รู้ถึงเรื่องที่เตชินท์ได้เตรียมการฆาตกรรมเวธัสเอาไว้ จึงออกตัวเขย่งปลายเท้าเพื่อจุมพิตเขา ถือว่าเป็นคำปลอบใจเขา...

เตชินท์เองก็ไร้ความเกรงใจ พลันอุ้มเธอและผลักลงบนเตียง จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออกและเริ่มรังแกทันที

การพรมจูบอย่างอ้อยอิ่งค่อยๆ เลื่อนลงล่างอย่างลื่นไหล จากนั้นก็หยุดบริเวณท้องน้อยของเธอ พลันเอียงศีรษะแนบชิดเพื่อเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าท้องของเธอ

กันญ่าสวมกอดศีรษะของเขาเอาไว้ ทั้งที่รู้สึกรังเกียจอยู่ในใจแต่กลับพูดขึ้นมา “ลูกยังเล็กมาก คุณไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวหรอก”

เตชินท์จูบเธอต่อ ซึ่งไร้ความรีบร้อนอีกเลย

รอให้เวธัสตายไป เวลาของพวกเขาก็ยังอีกยาวไกลนัก

……

ณิชาอยากจะฉวยจังหวะตอนที่คุณหมอเข้ามาตรวจค่อยๆ ย่องออกจากห้องพัก แต่เวธัสหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมให้เธอออกไป ณิชาได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน

โชคดีที่ห้องพักผู้ป่วยนี้เป็นห้องพักคนไข้ VIP หรู เท่ากับมีห้องพักพยาบาลพิเศษถึงสองห้อง

นอกจากนี้แล้วยังมีห้องครัวและห้องน้ำในตัวแยกต่างหาก

ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้นแล้ว ณิชาจึงสังเกตบริเวณริมระเบียงด้านนอกยังปลูกพืชพรรณไม้สีเขียวที่กำลังเจริญเติบโต ดูมีชีวิตชีวา เมื่อคืนวานเธอไม่มีกะจิตกะใจจะดูของเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ

บุรุษพยาบาลพิเศษเป็นผู้ชายวัยรุ่น แถมยังสามารถประมาณการเวลาตอนที่คุณหมอเข้ามาตรวจอาการ จึงให้ณิชาหลบเข้าไปอยู่ในห้องพักพยาบาลพิเศษอีกด้วย

ภายในห้องพยาบาลพิเศษมีพื้นที่ 20 ตารางเมตร ตกแต่งได้อย่างประณีตมาก ถ้าไม่ใช่กลิ่นยาฆ่าเชื้อจางๆ ที่คละคลุ้งอยู่ในอากาศ ณิชายังนึกคิดว่าตนเองอยู่ในโรงแรมห้าดาวเสียด้วยซ้ำ

ณิชาเพิ่งจะซ่อนตัวไว้อย่างดี กลุ่มของท่านประเสริฐก็เข้ามาพร้อมกับคุณหมอ

เอกเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้นที่เดินตามเข้ามาด้วย

เมื่อเขาเข้ามาพลันควานหาทั่วห้องทันควัน

เมื่อวานนี้เขารออยู่ระเบียงด้านข้างตลอดทั้งคืน แต่ก็ไม่เห็นณิชาออกมา จนทำให้เขาใจหายใจคว่ำอยู่ตลอดทั้งคืน เพราะหวาดกลัวคนอื่นจะมาเจอเข้า

เมื่อส่งสัญญาณทางสายตาให้กับบุรุษพยาบาลพิเศษนั้น ถึงได้สบายใจได้แล้ว

“คุณหมอ คุณพูดว่าอีกไม่กี่วันตาธัสก็จะฟื้นใช่มั้ย?” ท่านประเสริฐเห็นเวธัสยังไร้วี่แววจะฟื้นสักที จึงต่อว่าต่อขานคุณหมอทันที

คุณหมอเองก็ทราบดีถึงสถานะของท่านประเสริฐที่อยู่ทางด้านหน้านี้ดี จึงรู้สึกแปลกใจมาก

“พูดการตามหลักการแล้ว สมรรถนะร่างกายของคุณเวธัสดีมาก ถึงแก่เวลาที่ควรจะฟื้นได้แล้วครับ...”

หรือว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือน? จนกระทบโรคซ่อนเร้นบริเวณจุดไหนเข้าหรือเปล่า?

กันญ่าได้ยินเรื่องนี้ถึงกลับถอนหายใจอย่างแรง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งไม่ให้เวธัสตื่นขึ้นมา

เธอยังไม่ได้ยามาอยู่ในมือเลยด้วยซ้ำ

“คุณปู่คะ คุณเวธัสมีเทวดาคุ้มครอง หนูเชื่อว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาโดยเร็วค่ะ” กันญ่าปลอบโยนท่านประเสริฐอย่างอ่อนโยน

ตั้งแต่หลังจากที่ท่านประเสริฐรู้ด้วยตนเองว่ากันญ่าเคยหักหลังตาธัสมาแล้ว จึงรู้สึกไม่ชอบพอกันญ่ามากนักมาโดยตลอด

แต่หลังจากนั้นก็มาค้นพบทีหลังว่าตาธัสไปหักหลังเธอก่อน นอกจากนี้เธอฉลาดเฉลียวรู้งานดีจริงๆ รู้ว่าควรจะปลอบโยนคนอย่างไร จึงถูกชะตากับเธอมากขึ้น

“ตาธัสเสียเวลาอยู่ที่ฝรั่งเศสอยู่นานมาก การเจรจาความร่วมมือด้านการเงินก็จัดการทั้งหมดจนสำเร็จหมดแล้ว แต่เวลานี้เขากลับสลบไสล ผู้บริหารระดับสูงทางเมืองพรต่างรอให้เขากลับไป...”

ประเสริฐถอนหายใจยาวๆ ซึ่งเผยให้เห็นความรู้สึกเบื่อหน่ายตามคนชราภาพที่อยู่ในคำพูดเพียงเล็กน้อย

กันญ่าย่อมไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ แต่กลับพะเน้าพะนอปลอบใจมากๆ

ครืด ครืด...

ทันใดนั้น ภายในห้องพักพยาบาลพิเศษที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็มีเสียงเล็ดลอดดังออกมาเพียงเล็กน้อย เหมือนเป็นเสียงสั่นของโทรศัพท์ ตอนแรกก็ไม่มีอะไร แต่เมื่อสั่นนิดเดียว กลับหยุดไปเสียดื้อๆ

ราวกับ...มีคนจงใจตัดสายทิ้ง!

กันญ่ารีบเบนสายตาไปยังห้องพยาบาลพิเศษทางด้านข้างทันควัน “เสียงอะไร?”

เอกคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงโทรศัพท์ของณิชาดังขึ้น จึงกล่าวออกไปด้วยความรู้สึกกังวลใจ “คุณกันญ่าหูฝาดไปหรือเปล่าครับ?”

“คุณปู่ คุณปู่ได้ยินมั้ยคะ?” กันญ่าเพิกเฉยต่อนายเอกทันที เพราะเขากับตนเองไม่ได้มีความคิดไปในแนวทางเดียวกันอยู่แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊